ชมสงขลาต่อภาค 2 ของอินเนียร์

หมวดหมู่ของบล็อก: 

คราวที่แล้วพาชมเมืองสงขลาโดยอาศัยภาพของน้องๆที่ไม่รู้จักหน้าค่าตาไปเอาภาพที่แสดงไว้ในงานสมโภชน์หลักเมืองสงขลา๑๗๐ปีมาลง แต่ตอนนี้ต้องช่วยตัวเอง อยากนำเสนอต่อเพราะมีความคิดแนวนี้มาตั้งแต่ยังเป็นเด็กๆ ตอนทำงานไปที่ไหนก็ถามว่าเมืองนี้ทำไมจึงชื่อนี้ อ.ลี้ทำไมจึงชื่อลี้  อ.ฝางทำไมจึงชื่อฝาง แม่อายทำไมจึงชื่อแม่อายมีที่มาอย่างไร ส่วนใหญ่ตอบไม่ได้ไม่รู้ เพราะเราไม่ใส่ใจในถิ่นฐานบ้านเกิดของเราเอง แล้วจะให้ใครใส่ใจ ???   มาว่าเรื่องของสงขลาต่อกันครับ 

กรุงเทพฯ ยักษ์ไทย(อินเดีย)อยู่วัดโพธิ์ ยักษ์จีนอยู่วัดแจ้ง ใครไม่รู้ก็รู้เสียเน้อ ใครไม่เคยไปดูก็ไปดูเสียเน้อ เพราะมรดกไทย หากไทยไม่รักษา จะให้ใคร ที่ไหนรักษา ก่อนที่สิ่งเหล่านี้จะไม่หลงเหลือ ยักษ์ไทยในเมืองสงขลาอยู่วัดกลาง ส่วนยักษ์บ้านนอกให้คนพื้นที่เขาออกมาเล่าเองนะ มาดูยักษ์ในเมืองสงขลากัน ยักษ์เหล่านี้ในตำนานเป็นยักษ์ดีที่ช่วยปกป้องพระศาสนา ใครจำแม่นช่วยออกมาเล่าทีเน้อว่ายักษ์แต่ละตนทำอะไร

ยักษ์ตนนี้มีผิวกายสีเขียวถือกระบองเป็นอาวุธ ชื่อว่าท้าว กุเวโร

ยักษ์ตนนี้มีผิวกายสีเหลืองถือกระบีเป็นอาวุธ ชื่อ ท้าวธตรัฏโฐ

 

ยักษ์ตนนี้มีผิวกายสีขาวถือสามง่ามเป็นอาวุธ ชื่อท้าววรุฬหโก

ยักษ์ตนนี้มีผิวกายออกแดงถือคันธนู ชื่อท้าววิรูปักโข

ดูยักษ์4ตนกับสี่มุมวัดแล้ว มาดูต้นสมอภิเภกในวัดกันหน่อย ผมไม่รู้ข้อมูลของสมอภิเภกแต่เห็นมีปุ่มผิดปกติออกมาที่โคนต้นและมีคนไปผูกผ้าเลยถ่ายมาให้ดูกัน

ออกจากวัดมาถลาเข้าเมืองไปดูกำแพงเมืองเก่าอีกที่หนึ่งยังมีปืนใหญ่รุ่นโบราณเคยไปถ่ายรูปไว้ตอนนี้เข้าไม่ได้ตำรวจยึดกั้นรั้วรอบขอบชิดต้องเข้าไปชะเง้อถ่าย ดูรูปที่ได้มากันครับ

 ดูป้อมเมืองเก่าเสร็จสรรพกลับมาดูสถานีรถไฟ

ย้ายไปดูคลองขวางคลองที่มีตำนานคู่เมืองสงขลาที่เรียกขานกันว่าบ่อยาง

                                   

 อยากถามบ้างว่าบ่อยางอยู่ไหนมี่ใครรู้?

แล้วย้อนกลับไปดูศาลาที่ว่าคู่นางเงือกเลือกทีเป็นเวลากลางวัน

อีกที่หนึ่งเก่าแก่อักโขเรียกว่าสโมสร

แน่นอนอยู่ข้างสวนเสรี พ.ศ.2486

 

ยาวหน่อย ไม่ใช่การเกษตรหรือท่องเที่่ยวเเต่เกี่ยวกับความรู้และเข้าใจในถิ่นฐานบ้านเกิด เอามาสะกิดให้คิดก่อนที่จะหายไปเสียหมด อิฐหนึ่่ง

ก้อนก็อาจสอนอะไรเราได้เยอะแยะ ในอดีตกำแพงเมืองเก่าพังลงมาในฝั่งหัวเขาแดงได้เป็นแค่ที่ยืนอาบน้ำเพราะด้วยความไม่เข้าใจในความสำคัญ ไม่ได้แค่บอกว่าเมืองสงขลาสำคัญ แต่ต้องการบอกว่าเมืองที่ทุกคนอาศัยอยู่นั้นสำคัญครับ"ไม่มีดินผืนใดให้คุณเดิน เท่ากับดินผืนเดิมตอนตั้งไข่" รักชาติรักธรรมชาติกันนะครับ

ความเห็น

สวัสดีค่ะ คุณอินเนียร์ - เห็นด้วยเลยล่ะ ถ้ารุ่นพวกเราไม่รักษาสิ่งก้อสร้างที่มีประวัติน่าศึกษาไว้ ใครล่ะจะมารักษา เดี่ยวนี้อะไรๆก็ทุบสร้างใหม่กัน  :sweating:

ชีวิตที่เรียบง่ายกับความพอใจในสิ่งที่มี

เป็นอย่างที่คุณทิพย์ว่าครับ ยิ่งมองคนรุ่นใหม่แล้วอนาจใจ  ขับรถยกล้อไปตามถนน ขนาดลูกจ้างเอารถมอเตอร์ไซค์พ่วงก็ยกล้อตามกันไปเป็นแถวแล้วใครจะมาคิดอนุรักษ์ ขอบคุณ คุณทิพย์ครับ

ทิพย์คนโบราณนะคุณอินเนียร์ - พ่อแม่สอนอย่างไรมา แม้ว่าจะไม่ได้อยู่ไทย ความเป็นไทยไม่เคยลบเลื่อนจากพื้นฐานที่มีมาแต่เก่าก่อนค่ะ ทิพน์รักศิลปะวัฒนธรรมบ้านเรา อย่างให้คนรุ่นใหม่รักในความเป็นไทย ไม่อยากให้ใครมาเปลี่ยนแปลงสิ่งที่ดีๆของไทยเรา ประเทศไทยมีอะไรดีๆเยอะมากๆๆๆ อย่างที่ได้ยินมา ในนามีข้าว ในน้ำมีปลา  :beg:

ชีวิตที่เรียบง่ายกับความพอใจในสิ่งที่มี

-ก่อนอื่นขอบคุณ คุณทิพย์มากครับ ผมเองก็ไม่ได้ปฏิเสธเทคโนโลยีหรือนวตกรรมใหม่ๆแต่ก็ไม่ถึงกับต้องหามาบริโภคทุกอย่าง และอยากให้เราคิดถึงสิ่งของเก่าๆแม้แต่ลายบนผืนผ้าที่คนรุ่นเก่าทอไว้อย่างวิจิตร ผู้ที่เขาต้องการอนุรักษ์ก็ไปเสาะหามาศึกษาและรื้อฟื้นกันใหม่ก็เป็นสิ่งที่ดีครับ ทั่วโลกเขาก็ทำกัน แต่คนไทย(บางคน)ไปตามฝรั่งไม่ถูกเรื่อง ที่ดีๆไม่ตามเขา แม้แต่ที่เพื่อนสมช.ไปอินโดเอาภาพการจัดการน้ำเพื่อการเกษตรเขาทำมาหลายร้อยปีและเขาก็ยังทำอยู่ซึ่งได้ผลดี แต่พี่ไทยเราเอาง่ายๆ อยากได้ปลาก็ใช้ไฟฟ้าช๊อต ใช้ตาข่ายเล็กๆจับเอาปลาตัวเล็กตัวน้อยมาจนไม่มีลูกหลานปลาที่จะให้เรากินในระยะยาว

-ชื่นชมคุณทิพย์ครับ คนอื่นไม่ทำเราทำก็ยังดีครับ นับหนึ่งที่เรา ใครเห็นด้วยก็มาช่วยกัน ดีกว่ารอคนอื่นนับหนึ่งจนถึงเท่าไหร่แล้วเราค่อยนับต่อครับ

:admire2:

ขอบคุณคุณอินเนียร์มากค่ะ ที่มารณรงค์เรื่องสำนึกรักบ้านเกิดและอนุรักษ์ธรรมชาติ เราต้องช่วยกันฟื้นฟูแล้วล่ะคะ ก่อนที่จะสายเกินไป ถ้าอยากเห็นที่ที่สายไปแล้วให้ไปดูที่ป่าตองภูเก็ต

จริงๆแล้ว เมืองสงขลาคล้ายกับเมืองภูเก็ตนะ (บ่อยาง vs ทุ่งคา) เป็นการผสมผสานวัฒนธรรมของชาวไทย จีนฮกเกี้ยนและมุสลิม มีตึกอาคารแบบชิโนโปรตุเกส โดยเฉพาะเรื่องอาหาร เหมือนกันหลายอย่าง เช่น หมูค้อง (ภูเก็ตเรียกหมูฮ้อง) เต้าคั่ว (ภูเก็ตเรียก ฮูแช้) บีหุ้น และฯลฯ

ขอบคุณ คุณพุทธรักษาครับ เมื่อเป็นอย่างภูเก็ตเราก็ได้แต่เดินก้มหน้าครับ อยากจะเขียนเยอะๆแต่ต้องรีบไปสวนปอกมะพร้าวครับ ขนาดมะพร้าวราคาถูกก็ยังมีขโมย ผมไม่ได้เข้าสวนทุกวันครับ

สงขลาจัดเป็นเมืองท่องเที่ยวที่ไม่ตกยุคเลยนะ    จุดเล็กๆ  อาจถูกมองข้าม  ละเลยการบูรณะ  ขอให้ผู้เกี่ยวข้อง  มองเห็นความสำคัญค่ะ

ขอบคุณป้าเล็กครับ ช่วยกระตุ้นให้คนในแต่ละเมืองกลับมามองสิ่งดีๆที่บรรพชนสร้างไว้ก่อนที่จะสูญหายไปอย่างกรณีของนารายณ์บรรทมสินธ์ครับ

ขอบคุณค่ะ คุณลุง อินเนียร์ พาเที่ยวดูสภาพบ้านเมืองสงขลา เห็นเด็กๆบอก ถ้าเข้าเมือง อุตรดิตถ์จะพาคุณพ่อไปถ่าย รูปปั้น นางเงือก นางยักษ์ พระอภัยมณี ที่อุตรดิตถ์ มี สงสัยเมื่อก่อน สุนทรภู่ คงมาเที่ยว ตามลำน้ำน่าน แล้วแวะพักที่อุตรดิตถ์ เป็นแน่แท้ คราวนี้แหละ นางเงือก คงไม่ใช่มีที่สงขลา กับ อ.แกลง.จ.ระยอง แล้ว

ดีมากๆเลยครับคนแต่ละยุคทำอะไรมักจะมีอะไรที่แอบแฝงอยู่ ลองคุยกับคนเฒ่าคแก่ดูนะครับอาจจะได้ความรู้ดีๆที่เราไม่เคยรู้มาก่อนก็ได้ เดี่ยวนี้รูปวาดในโรงธรรม(ไม่ทราบใช้คำพูดถูกหรือเปล่าท ถ้าผิดก็ขอโทษและช่วยอธิบายเด็กๆด้วยครับ)มีรูปโดเรม่อนรูปนักกาีรเมืองยุคนี้พอเราแก่มากๆมีหลานคนรุ่นนั้นไม่รู้ว่ารูปเหล่านี่คืออะไรวาดไว้ทำไม เรามีหน้าที่อธิบายว่ามันคืออะไรทำไมจึงวาดไว้ครับ เหมือนรูปปู่่ม่านย่าม่านในวัดศรีบุญเรืองที่จังหวัดน่านไงครับ(ชื่่อวัดถูกหรือเปล่า?)ม่านหมายถึงพม่าปู่ม่านย่าม่านหมายถึงคนแก่รุ่นนานๆมาแล้วที่เป็นคนพม่ามีรักแท้ต่อกัน เราจะได้เล่าถูกไงครับ ลุงอินเนียร์เชียร์เลย อ้าวตกลงว่าเด็กๆเป็นคนพาคุณพ่อเที่ยวหรือนี่ 

:cheer3:

หน้า