คุยกันเบา ๆ...ในวันสบาย ๆ

หมวดหมู่ของบล็อก: 

ชื่อบล็อกกับรูปภาพนี้ ตั้งใจเอามาเรียกแขก


 

วันนี้เก๋าว่าง...หลังกลับจากไร่ ปลูกมันตอนเที่ยง แดดจัดมาก ร้อนจนแสบผิว เอาอะไรคลุมมิดชิดขนาดไหนก็ทนไม่ไหว ร้อนจริง ๆ ค่ะ

 

กลับมาเข้าเวบ (งานประจำ)  เห็นบล็อกพี่อ้อยหวาน...วันวุ่น ๆ...และผ่อนคลาย   เข้าไปอ่าน ภาพสวยมาก ๆ และก็ไปติดใจที่ราคาผลไม้ ที่บอกว่าแพงมาก ๆ มีเพื่อนหลาย ๆ คนช่วยกันแสดงความคิดเห็นกันใหญ่ บอกว่าแพงมาก อดใจกลับมากินที่บ้านเราดีกว่า     ว้าว!  ..อย่าเพิ่งตัดสินใจนะคะ   มาอ่านบล็อกเก๋าก่อน ค่อยตัดสินใจ ก็ยังไม่สาย..

 

 

รูปทุเรียนที่เอาขึ้นจั่วหัวบล็อก.. เรียกแขกค่ะ  อิอิ ใครเห็นทุเรียนต้องคลิกเข้ามาดูก่อน น้ำลายไหล ติ๋ง ๆ  ยืมเขามานะคะ จากผู้จัดการออนไลน์

 


 

ไปค้นหารูปของตัวเองไม่เจอค่ะ อัลบั๊มรูปสมัยทำสวนทุเรียนหายไปไหนไม่ทราบ เลยต้องขอยืมภาพมา

สวนทุเรียนที่ไหน ๆ ก็เป็นต้น เป็นลูกแบบนี้แหละ แต่สวนธนนันท์สวยนะจะบอกให้  ทำเพื่อส่งออก ต้องแต่งใบ แต่งดอก แต่งลูก หลายช่วงระยะ  ต้องผสมเกสร เพื่อความแน่นอน ทั้งปริมาณของผลผลิตและรูปทรงตามต้องการ

 

ทุเรียนทำยากกว่าผลไม้ทุกอย่าง (ถ้าต้องการให้ได้ดี)   เพราะขึ้นชื่อว่าราชาแห่งผลไม้  เรื่องรสชาติมาเป็นที่ 1 ทุกสายพันธุ์อร่อยทั้งนั้น

 

ทุกคนชอบอะไรที่ไม่เหมือนกัน  กินไม่เหมือนกัน ก็ว่าของที่ตัวเองชอบอร่อยดี ของที่ไม่ชอบไม่อร่อย  ทุเรียนก็อร่อยทุกพันธุ์ อยู่ที่เราจะเลือกกิน และได้กินตามที่เราชอบ แข็ง กรอบ นิ่ม  นุ่ม กรอบนอกนุ่มใน เละเป็นปลาร้า

 

 

 


 

สำหรับเก๋า...ชอบแบบนี้ค่ะ อิอิ

 

 

ทุเรียนที่ส่งไปขายต่างประเทศ..แน่นอน..ราคาต้องสูงมาก..หลายเท่าตัวกว่าอยู่เมืองไทย ที่เป็นผู้ส่งออกเป็นอันดับ 1 ของโลก 

 

สินค้าเกษตรที่ส่งต่่างประเทศราคาไม่เท่ากัน ตามคุณภาพของสินค้า ประเทศที่ไม่เน้นการตรวจสารพิษ  ไม่กีดกันทางการค้า  ก็ราคาถูกกว่า ส่วนมากเป็นประเทศแถวเอเชียเรา  ยกเว้นญี่ปุ่น ไต้หวัน ที่ต้องการสินค้าเกรดเอ ไม่มีสารพิษตกค้าง ราคาที่ส่งไปก็จะสูงขึ้น รวมทั้งฝั่งยุโรป (อียู)  อเมริกา  แคนาดา  

 

 

 

รูปผลไม้ที่ขายที่แคนาดาของพี่อ้อยหวาน

 

ราคาขนาดนี้เมื่อเทียบเป็นเงินไทย ดูเหมือนจะแพงมาก แต่ก็ต้องดูไปถึง เริ่มจาก ขั้นตอนการผลิต ที่ต้องดูแล บริหาร จัดการ มากกว่าผลผลิตที่ส่งขายในประเทศ

 

ผลไม้ที่ส่งออก เน้นการตรวจหา สุ่มหาสารพิษ ตามข้อตกลงทางการค้าระหว่างประเทศ  บอกแล้ว ทุเรียนสวนเก๋า ได้รับการสุ่มที่ประเทศปลายทาง ญี่ปุ่น ซึ่งเข้มงวดมากเรื่องความปลอดภัยของผู้บริโภค   กล่องที่บรรจุต้องมีรหัสสมาชิก รหัสสวน ตรวจสอบโซนที่ตั้งของสวน เมื่อมีปัญหาก็จะเบรคสินค้าจากสวนทันที

 

การทำผักผลไม้ปลอดสาร ชาวสวนรู้ว่าทำยาก ลงทุนสูง  การดูแลเข้มงวดทุกขั้นตอน แต่ถ้าขายได้ราคาสูง ๆ ก็คุ้มค่า ไม่ต้องเสี่ยงกับปัญหาผลไม้ล้นตลาด เพราะพ่อค้าส่งออกวิ่งเข้าหาถึงสวน  ตัดปัญหา ราคาตกต่ำ

 

ราคาที่โรงงานรับซื้อก็สูงกว่าราคาที่รับซื้อเพื่อขายในประเทศ เพราะต้องคัดเกรด เลือกที่ดีที่สุด

 

บริษัทเมื่อรับซื้อมาแล้ว ก็ต้องมีที่รองรับ เก็บสินค้า ต้องลงทุนสร้างห้องเย็น โรงงานบรรจุผลิตภัณฑ์ให้ได้มาตรฐาน ต้องผ่านการตรวจสอบ ได้รับการรับรอง  ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล ในด้านการลงทุน

 

เก๋ารู้มาว่าค่าไฟที่โรงงาน สมัยก่อนเดือนละหลาย ๆ แสน เดี๋ยวนี้หลาย ๆ ล้าน ต้องประหยัดค่าไฟด้วยการใช้แผงโซล่าเซลล์   ค่าโสหุ้ยในการบริหารจัดการของโรงงานสูงมาก  ในการที่จะเก็บสินค้าไว้ป้อนตลาดในยามขาดแคลนไม่มีของสด 

 

ถ้าไม่มีโรงงานเพื่อการส่งออก เคราะห์หนักก็จะตกอยู่ที่เกษตรกร สินค้าล้นตลาด ไม่มีที่รองรับเพียงพอ  เมื่องไทยเราในน้ำมีปลาในนามีข้าว  อุดมสมบูรณ์ ผลิตอะไรออกมา ก็ล้นเหลือ เลี้ยงคนในประเทศ และยังเผื่อแผ่ไปทั่วโลก  

 

วิกฤตการณ์เทผลไม้ เทนม เท...บนท้องถนน ประท้วงรัฐบาล ไม่ค่อยมีแล้ว เพราะสินค้ามีที่รองรับ  คนในกินจนเหลือ เก็บไว้ส่งออก ยามไม่มี

 

เมื่อเป็นชาวสวน ใจเต้นตุ๊ม ๆ ต่อม ๆ  กลัวโรงงานปิดรับซื้อ เพราะผลไม้ล้นตลาด  ราคาตก ตกยังไง ขอให้มีคนซื้อ มีที่รองรับ ถูกก็รับได้ ขอให้มีที่ขาย  ไม่งั้นก็เน่า..เสียของ...ได้น้อยยังดีกว่าไม่ได้เลย

 

โรงงานส่งออกมีรายจ่ายที่สูง เมื่อสินค้าไปถึงประเทศต่าง ๆ ก็อัพราคาขึ้นตามเกรดของประเทศ

 

ช่วยกันซื้อกินเถอะค่ะ...ผักผลไม้ของไทย...แล้วก็เล่าให้เพื่อนต่างชาติฟัง ให้เขาชิม ให้เขารู้ว่าของเราดี อร่อย เขาจะได้อยากกิน อุดหนุนสินค้าของคนไทย ประเทศไทยก็เจริญรุ่งเรือง  รัฐบาลเสียงบประมาณมากมายเพื่อไปจัดงาน แนะนำสินค้าของคนไทย  สถานทูตกับกรมการค้า ส่งออก ก็ร่วมมือกันเพื่อโปรโมท ช่วยพี่น้องเกษตรกร  ช่วยพ่อค้าส่งออก นำเงินตราเข้าประเทศ  ลำพังคนในประเทศช่วยได้แต่ยังไม่พอ คนที่อยู่ต่างประเทศช่วยกันได้ก็ช่วยกันค่ะ

 

 

บล็อกนี้...เก๋ากลั้นใจ (ตั้งใจ) เขียนมาก ๆ สาระมากไปหน่อย ผิดวิสัยของเก๋า ที่เน้นบันเทิงเป็นหลัก ปวดหัววุ้ย...อ่านแล้วก็ช่วยกันบอกต่อนะคะ...ผัก ผลไม้ อาหาร สินค้าจากประเทศไทยดีที่สุดในโลก...5555  ไม่แพงเลย

 

พี่อ้อยหวานผ่อนคลายไปแล้ว...เก๋ากลับ...ปวดหัว ว้า!   สาระมากไปหน่อย


ความเห็น

เห็นด้วยกับคุณนันอย่างยิ่ง

ทุเรียนแช่แข็งทำข้าวเหนียวทุเรียนอร่อยค่ะ แต่มังคุดลูกละ2เหรียญ เคยตัดใจซื้อมา3ลูก แข็งต้องทิ้งไปสองลูก 6เหรียญ180บาท ได้กินลูกเดียว  :nonono:


อยู่เมืองไทย ซื้อมา 1 ถุง 10 กก. เลือกกินได้ 3 กก. ก็หรูแล้ว 555 ที่เหลือเอาไป..หมัก...แต่ก็ยังไม่เข็ด...ซื้อได้ซื้อดี เพราะอยากซื้อค่ะ...บางทีก็เหมายกตระกร้า 20 กก. ทั้งกินทั้งหมัก

จริง อย่างที่พี่ว่า ขอบคุณสำหรับแนวคิดครับ ผมเห็นด้วย แต่ผมเองก็เข้าใจท่านอื่นที่แสดงความเห็นเรื่องราคาเหมือนกัน ถ้าเป็นอาหารแช่แข็งที่บ้านผมและคนไทยที่อยู่ต่างประเทศส่วนใหญ่จะใช้ของไทยครับ อาหารแช่แข็งของเราอาจแพงกว่าของจีน แต่คนไทยส่วนใหญ่ก็ซื้อของไทยตลอด อาหารแห้งคนไทยส่วนใหญ่ก็ใช้ของไทยครับ ข้าวไทยราคาแพงกว่าชาติอื่นคนไทยส่วนใหญ่ก็นิยมข้าวไทยครับ ที่บ้านผมซื้อ ทานตลอด ผลไม้ผักสดที่ขายต่างประเทศนี่มาวางขายในท้องตลาดก็ไม่สดเท่าไหร่แล้วนะครับ เลยคิดว่าถ้าเราต้องเสียเงินซื้อ อาหารสด ขอซื้อที่คุ้มราคาดีกว่า สมัยก่อนที่ทำงานเก่าเขามีหน่วยจัดซื้อของสด หน่อไม้ฝรั่ง ข้าวโพดอ่อน นำเข้าจากไทยตลอดเพราะใกล้และคุณภาพดี ผมก็สั่งซื้อผลไม้จากไทยร่วมเข้ามาด้วย เพราะสดและคุณภาพดี สินค้าการเกษตรของไทยส่วนใหญ่ที่นำเข้ามารัฐผมนี้ ของดีๆ จะลงท้องตลาดน้อยมาก เข้าโรงแรม และ ศูนย์ประชุมหมด ส่วนที่เหลือออกขายตาม ร้านจีนจะเป็น สินค้าส่วนน้อยแล้ว ผมพอทราบผู้นำเข้าอยู่บ้าง เลยได้รู้เรื่องมากหน่อย สินค้าเกษตรคุณภาพของไทย ต่างชาติยอมรับครับเพราะเราทำดีมานาน ครอบครัวผมนั้นต้องระวังเรื่องค่าใช้จ่ายครับ ถ้าผมอยู่เมืองไทย ผมก็ไม่ซื้อ เชอรี่ ลูกแพร์ สตอเบอรรี่ ผลไม้สด เหล้าไวน์ ของที่นี่เหมือนกัน ไม่ใช่ไม่อยากสนับสนุน สินค้าประเทศของเขานะครับ เราก็ต้องดูกำลังจ่ายตัวเองด้วยเหมือนกัน การที่ผมแสดงความเห็นว่าแพงในบล็อกของพี่อ้อยนั้น ถือว่าไม่เหมาะสมจริงครับถ้าทำให้ท่านใดไม่สบายใจต้องกล่าวขอโทษไว้ในที่นี่ด้วย ดีใจที่พี่นันยิบยกขึ้นมาคุยกัน ขอบคุณพี่อีกครั้งสำหรับคำชี้แนะครับ 

ขอบคุณ..ทุกคนมีจิตสำนึก..ที่ดีและรักประเทศ อยู่ที่ว่าจะเลือกวิธีการแสดงออกแบบไหนค่ะน้องตุ้ย ขอบคุณที่เข้าใจ..

เห็นด้วยกับพี่นันท์อย่างแรงค่ะ แถวบ้านเวลาลิ้นจี่ออกก็จะมีคนมารับซื้อเพื่อส่งจีน (ที่นี่จะเรียกว่าส่งตู้ค่ะ)  มันจะช่วยแบ่งเบาไม่ให้ผลผลิตล้นตลาดค่ะ แต่ที่บ้านมีไม่มากไม่ได้ตัดส่งตู้ แต่จะขายเองหน้าบ้าน เมื่อของไม่ล้นราคาก็ดีค่ะ

:love: น้องนันท์ สุดยอดประสบการณ์  :cute: :cute: 

โฮ สุดยอด ทำมาหลายอย่างมาก

พอเพียง พอเพียง

เรียกแขกๆก็มาแล้วนายจ๋า  เห็นทุเรียนแล้วก็อยากจะรััปทานเป็นกำลัง  ขอบคุณมากที่ให้ความรู้เรื่องการส่งออก   ค่อยโล่งใจหน่อยที่เจ้าของสวนผลไม้เป็นคนไทยอย่างน้อยก็เป็นการลงทุนนอกประเทศของไทยเรา

มีข้อกางขากางแขนคือเวลาที่มีโอกาสไปตปท มักจะแวะดูพวกผลไม้ และก็เห็นทุกที่ว่าทุเรียนของเราทำไมถึงเอาแต่ที่มันสุกจนเป็นปลาร้าไปขาย  มังคุดก็เป็นเนื้อแก้ว เงาะก็ไม่ถอดรูปกระดำกระด่าง เค้าไม่มีวิธีทำให้มันสวยน่ากินคุณภาพแจ่มๆนะนั่นหรือว่าไปอยู่นานขายยังบ่ออก :sweating:

เรื่องผลไม้ไม่ได้คุณภาพไปวางขายต่างประเทศ มันน่าปวดหัวเหมือนกันนะคะ ทำลายความเชื่อมั่นของผู้บริโภค คนทำงานทำมาดี ๆ ด้วยความยากลำบาก ต้องมาเสียเพราะเรื่องเหล่านี้ เสียชื่อเสียงผลไม้ไทย

 

ไม่ต้องเมืองนอก เอาแค่เมืองไทยก็เจอเหตุการณ์แบบนี้กันบ่อย ผลไม้ไม่ได้อายุก็เก็บ  สุกจนเกินกินแล้วก็ยังขาย จะเอาแต่ทุนคืนไม่คิดว่าคนซื้อเขาเอาเงินซื้อกิน เงินเขาก็มีค่าเหมือนเงินเรา ซื้อไปแล้วกินไม่ได้ เสียความไว้เนื้อเชื่อใจ ทีหลังก็ไม่อยากซื้ออีก ถึงอยากกินก็ เข็ด ไม่กล้าซื้อ

 

เจอแบบนี้ คนซื้อก็ต้องเลือกแล้วค่ะ ไม่ต้องอุดหนุน เพราะเป็นสินค้าไม่ได้คุณภาพ ถ้าอุดหนุนก็เท่ากับส่งเสริม ให้เก็บผลไม้ที่อายุยังไม่ถึงกำหนดมาขาย (อยู่ที่พ่อค้าด้วย รับซื้อ เพราะออกก่อนราคาดี)    ผลเสียตกมาถึงเกษตรกรอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ 

บล็อกนี้เครียดจริงแฮะ ยิ่งทำให้คิดต่อไปถึงอาเซี่ยน  :nonono:

หน้า