น้ำหอมแบบไหน ที่เราใช้

หมวดหมู่ของบล็อก: 

ทุกท่านที่ใช้น้ำหอม แต่ทราบหรือไม่ครับว่าแต่ละแบบ ติดทนนานเท่าไร(ขอบคุณข้อมูลจาก ฮงฮวดครับ)

รูปน้ำหอม

 

ประเภทของน้ำหอมที่แบ่งตามความเข้มข้นของ “น้ำมันหอม” 

ส่วนผสมหลักของน้ำหอม คือ น้ำมันหอม ที่ถูกทำให้เจือจางลงด้วยแอลกอฮอล์ในระดับความเข้มข้นของความหอมที่แตกต่าง กัน (แอลกอฮอล์ทำหน้าที่ช่วยกระจายความหอมได้ด้วยการระเหย) น้ำหอมแบ่งออกเป็น 4 ประเภทตามระดับความเข้มข้นของกลิ่นหอม ดังนั้นคำศัพท์พื้นฐานเกี่ยวกับน้ำหอม 4 คำแรกที่ควรรู้คือ


1. Eau de Cologne (โอ เดอ โคโลญจน์) หมายถึงน้ำหอมที่มีส่วนผสมของ “น้ำมันหอม” ในปริมาณ2-5% น้ำหอมประเภทนี้กลิ่นหอมจะคงอยู่ได้นาน 1 ชั่วโมง

2. Eau de toilette (โอ เดอ ทอยเล็ตต์) เป็นน้ำหอมที่มีส่วนผสมของ “น้ำมันหอม” ในปริมาณ 4-10% กลิ่นหอมจะอยู่ได้นานประมาณ 2-4 ชั่วโมง


3. Eau de Perfume (โอ เดอ เพอร์ฟูม) หมายถึงน้ำหอมที่มีส่วนผสมของ “น้ำมันหอม” ในปริมาณ 8-15% กลิ่นของน้ำหอมประเภทนี้จะอยู่ได้นานประมาณ 3-5 ชั่วโมง

4. Perfume (เพอร์ฟูม) เป็นน้ำหอมที่มีส่วนผสมของ “น้ำมันหอม” ในปริมาณ 15-25% กลิ่นของน้ำหอมในกลุ่มนี้จะอยู่ได้นานประมาณ 6-8 ชั่วโมงขึ้นไป

เวลาเลือกซื้อน้ำหอมจึงควรพิจารณาความต้องการใช้ประโยชน์ อยากให้กลิ่นหอมระเหยอยู่รอบตัวเป็นเวลานานเท่าใด เพราะราคาของน้ำหอมขึ้นอยู่กับความเข้มข้นของปริมาณน้ำมันหอมด้วยนั่นเอง

 

 ระดับของความหอมประกอบด้วยกลิ่น 3 ระดับ

 

Top Note (กลิ่นแรก) คือกลิ่นเชิญชวนให้สูดดมน้ำ หอม เสมือนเป็นการแนะนำ กลิ่น หอมครั้งแรก

Middle Note (กลิ่นกลาง) คือ กลิ่นของ น้ำหอมที่เกิดการกระจายกลิ่น อย่างเต็มที่ของ น้ำหอมกลิ่น กลางเป็นกลิ่นที่คงอยู่นานที่สุด เป็นบุคลิกที่แท้จริงของน้ำหอม ซึ่งเป็นหัวใจของน้ำหอม

Base Note (กลิ่นพื้นฐาน) เป็นกลิ่นที่ติด ผิวกายได้นานที่สุด โดยทั่วไป กลิ่นพื้นฐานมักจะเป็นกลิ่นแนวมัสก์หรืออำพัน

เคล็ดลับในการใช้น้ำหอมสำหรับทุกสถานการณ์


ให้แต้มหรือฉีดน้ำหอมในบริเวณที่เป็นจุดชีพจรของร่างกาย โดยมากมักเป็นบริเวณข้อมือ ลำคอ บริเวณที่ข้อพับที่แขน หรือขาพับ

1.   การฉีดสเปรย์น้ำหอมในอากาศแล้วใช้วิธีเดินผ่าน จะช่วยให้กลิ่นหอมกระจายติดตัวเราได้ทั่ว

2.   พยายามอย่าใช้โลชันที่มีกลิ่นหอมคนละกลิ่นน้ำหอมที่จะใช้ เพื่อไม่ให้กลิ่นปนกัน

3.   ใช้น้ำหอมมากหน่อย หากคุณเป็นคนผิวแห้ง เนื่องจากคนผิวมันมีน้ำมันที่ผิว ช่วยคงกลิ่นหอมให้ติดอยู่ได้ยาวนาน

4.   ในที่อากาศเย็น สามารถเลือกน้ำหอมที่มีกลิ่นเข้มกว่าปกติ เนื่องจากความเย็นหรืออุณหภูมิต่ำจะลดกลิ่นหอมของน้ำหอมให้ลดน้อยลงกว่าที่ เป็นในที่อากาศร้อนแบบบ้านเรา แนะนำให้ฉีดน้ำหอมในปริมาณที่พอเหมาะ เพราะกลิ่นจะเข้มกว่าในที่อากาศเย็น และหากต้องอยู่กลางแดดจ้า ควรแตะน้ำหอมตรงจุดที่ไม่ถูกแดด เพราะแสงแดดอาจทำปฏิกิริยาให้กลิ่นน้ำหอมเปลี่ยนแปลงได้

5.   การฉีดน้ำหอมควรทำห่างจากตัวอย่างน้อย 30 ซม. เพื่อให้กลิ่นน้ำหอมกระจาย และไม่ให้ทิ้งจุดด่างหรือรอยเปียกของน้ำมันเอาไว้บนเสื้อผ้า

6.   กลิ่นหอมของน้ำหอมสร้างเสน่ห์ชวนหลงใหลให้กับผู้ใช้ แต่ควรใช้ในปริมาณที่พอดี อย่าให้ถึงกับส่งกลิ่นในระดับรบกวนผู้อื่นที่อยู่รอบข้าง

 


ความเห็น

ชอบน้ำหอมค่ะแต่ไม่ชอบใช้ เพราะเกรงใจคนข้างๆ บางคนก็แพ้ เห็นแล้วน่าสงสารมากค่ะ บางคนถึงขึ้น ตาแดง ขอบตาแดง น้ำตาใหลเลยก็มี บางคนก็จมูกแดง เลยค่ะ ก็เลยไม่ค่อยกล้าใช้น้ำหอมเวลาออกบ้าน ยิ่งเวลาขึ้นเครื่องไปใหนไกลๆนี่จะกลัวมากค่ะ กลัวว่ากลิ่นน้ำหอมจะไปรบกวนผู้โดยสารท่านอื่นๆ


น้ำหอมบางชนิดก็มีกลิ่นหอมนวล หอมอ่อนๆ แต่บางชนิดก็เหม็นปานเยี่ยวชะมดก็มี

คุณอ้วนรู้มั๊ยว่าที่กลิ่นหอมในน้ำหอมที่ติดตัวทนนานกับตัวคนเขาใส่อะไรลงไป             1น้ำมันกฤษณา


                2 น้ำมันชะมดเช็ด


                3 อำพันทอง(ขี้ปลาวาฬ)


หายากทั้ง3 อย่าง และแพงมากๆ(แต่มีในเมืองไทย)..แต่แปลก คนไทยไม่ค่อยสนใจ ทั้งๆที่แพง มีเท่าได เขารับซื้อหมด....



เพิ่งมาดูในเรื่องน้ำหอม เพื่อนผมที่เมืองจันทร์ ก็ปลูกต้นกฤษณา ไว้แยะมาก เห็นว่าได้ราคาแพง ส่วนทางอีสาน ก็เลี้ยงชะมดเช็ดเอาส่วนที่ชะมดเช็ดนั่นแหละครับ แต่เขาส่งโรงงานยาหอมปราสาททองโอสถ ขายกันเป็นขีด ได้ราคาแพงมากเลยครับ

 

ชีวิตที่เพียงพอ ย่อมมาจากชีวิตที่พอเพียง

หน้า