จะอยู่กันแบบไหน

หมวดหมู่ของบล็อก: 

          ผมได้รับ fw mail(http://www.thaipost.net/news/020411/36555) เรื่องนี้มาครับ ตอนแรก ไม่คิดจะเอามาให้ดูกันในนี้ แต่พอไปอ่าน นสพ.ไทยโพสต์ ได้ลงรายละเอียดเอาไว้

          และอีกบทความหนึ่ง ได้เขียนถึงว่า เมืองไทยจะอยู่กันแบบไหน สรุปลงมาที่ ....

          (ผมจะนำบางตอนในบทความนี้มาให้อ่านกัน ส่วนรายละเอียดโปรดติตาม ตาม link ที่ทำไว้ครับ)

          ในเมื่อ "สูงสุด" คือทระนงมนุษย์ "คืนสู่สามัญ" คือแบบไหน อย่างไร?

          ชีวิตพอเพียง เศรษฐกิจพอเพียง ไร่นาสวนผสม อะไรต่างๆ ในลักษณะนี้  คือสิ่งที่ธรรมชาติกำหนดรูปแบบให้กับคนไทย-ประเทศไทย "สังคมเกษตร" เป็นรองเท้าที่ธรรมชาติ "วัดตีนตัด" ให้คนไทยสวม เพื่อย่ำดิน ย่ำโคลน ย่ำถนน "ตั้งต้น-ตั้งตัว" ด้วยให้ระบบเกษตรกรรม-กสิกรรม
 เป็นเสาเข็มแห่งรากฐาน "ชีวิตสมบูรณ์"!

          โปรดอ่านต่อที่  http://www.thaipost.net/news/010411/36520

ความเห็น

เท่าที่เข้าไปอ่านจากลิ้งค์แรก อ๊อดว่ามันน่ากลัวมากหากว่ามันจะเกิดขึ้นจริงๆ และคนไทยที่อาศัยอยู่ในภาคใต้ทุกจังหวัด ก็เสี่ยงพอดู


มีอยู่บันทัดนึงที่ระบุว่าตอนที่เกิดเหตุการณ์นี้ที่ภูเก็ต พระรูปนี้ยังเป็นักศึกษาอยู่ ม.มหิดล และยังได้ไปช่วยหน่วยงานกู้ภัยเก็บศพ ฯลฯ แล้วก็ฯลฯ แต่อ๊อดสงสัยว่า ระยะเวลาจากตอนนั้นมาถึงตอนนี้ มันก็ไม่นานเท่าไหร่ ซึนามิที่ภูเก็ต เกิดขึ้นวันที่ 26 ธันวาคม 2547 นับเวลาแล้วยังไม่ถึงสิบปีด้วยซ้ำ แล้วนักศึกษาท่านนี้ไปบวชตอนใหน สำเร็จอรหันตอนใหน? ทำไมถึงได้มองเห็นเหตุการณ์ล่วงหน้าแบบทะลุโจ่งแจ้งแบบนี้ เพราะการที่ใครจะปฏิบัติและนั่งสมาธิ ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะบรรลุธรรมในเวลาเพียงแค่ไม่กี่ปี ยิ่งเป็นนักศึกษาแพทย์ด้วยแล้ว น้อยมากที่จะสละหน้าที่การงานมาบวชบำเพ็ญเพียรจนสำเร็จ


ขออภัยนะค่ะหากความคิดเห็นนี้ไม่เหมาะสม น้องโสทรก็ลบได้จ๊ะ หากจะทำให้เกิดความแตกแยก ก็แค่สงสัยเท่านั้นเอง ว่าถ้าเป็นเรื่องดีทำไมต้องห้ามเผยแพร่ บอกไปเลย ประกาศไปเลยดีกว่า เพราะอะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น ไม่ว่าอยู่ที่ใหน


เรื่องแบบนี้จะมาพูดกันเล่นๆไม่ได้ ประชาชนขวัญเสียหมด ก่อนที่จะเอามาลงหนังสือพิมพ์ให้คนอ่าน ทำไมไม่เอาเนื้อหาไปวิเคราะห์ซะก่อนที่จะนำมาลงคอร์ลั่มให้คนอ่านจนขวัญกระเจิง แล้วมาบอกว่าเป็นข้อมูลลับห้ามเผยแพร่


ขอบคุณลุงพูนนะค่ะสำหรับลิ้งค์ พี่น้องชาวใต้ทุกคนก็อย่าประมาทนะค่ะ


          บันทึกนี้เลย (วันที่ 1 เมษายน) มาสี่ห้าวัน แต่ก็พออนุโลม

          ในเมืองไทย ข่าวคราวทำนองนี้ ปลิวกันให้ว่อนครับ ทั้งเป็นใบปลิว fw-mail หนังสือ ฯลฯ มีทั้งคนที่เชื่อและไม่เชื่อ ผมเพียงแต่นำมานำเสนอให้พิจารณากันเท่านั้นครับ มิได้มีเจตนาให้เกิดความหวาดกลัวกันครับ

          หมายเหตุ วันที่ 1 เมษายนเรารู้จักกันดีในนาม April fool

พี่ละคนนึงที่อ่านแล้วขวัญผวามากๆ  ก่อนหน้านี้พี่ก็ได้ follow mail ลักษณะนี้มาจากเพื่อนแล้ว  กินไม่ได้นอนไม่หลับเลย  ไม่รู้จะหาที่อยู่ที่ไหนให้น้องๆปลอดภัย  กลุ้มใจซะจนนน.ลดไปหลายขีดเลย


บางครั้งก็รู้สึกว่าเราตีตนไปก่อนไข้หรือป่าว?  ถ้าคิดอย่างนั้นกัน มันก็ระส่ำระสายไปทั่ว  จิตใจไม่สบาย  แต่จะไม่เชื่อเลยก็ไม่ดี  เตรียมตัวไว้ให้พร้อมดีกว่าไม่ได้ทำอะไรเลย จริงไหม?  ในอีกแง่นึงข่าวนี้ทำให้ใจคอไม่สบายเลยต้องขอยอมรับความจริงค่ะ


คนอื่นรู้สึกอย่างไรกับการส่งสารนี้ไม่อาจคาดเดาได้  แต่หวังว่าจะเป็นในแง่ดีกว่าที่เกิดกับดิฉันนะคะ :confused:

คุณoddzy  กรุณาอ่านข้อความนี้ให้ชัดเจนนะครับ

อาตมภาพพระภิกษุกัมมัฏฐาน ปวตฺตโน มีความประสงค์จะแจ้งเตือนภัยพิบัติอันเป็นผลกระทบจากแผ่นดินไหวที่จะเกิด ขึ้นในพื้นที่จังหวัดของท่าน เนื่องด้วยแหล่งข่าวใกล้ชิดของอาตมภาพที่มีความแม่นยำและความน่าเชื่อถือสูง ในวงของผู้ปฏิบัติสมาธิภาวนา ได้แจ้งเตือนภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้นในปีนี้ ทั้งในและต่างประเทศกับอาตมภาพไว้ตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ไว้คือ................

 

แล้วตามที่คุณอ๊อดได้เขียนบันทึกใว้ผมคิดว่าคงจะเป็นการเข้าใจอะไรผิดสักอย่างครับ


มีอยู่บันทัดนึงที่ระบุว่าตอนที่เกิดเหตุการณ์นี้ที่ภูเก็ต พระรูปนี้ยังเป็นักศึกษาอยู่ ม.มหิดล และยังได้ไปช่วยหน่วยงานกู้ภัยเก็บศพ ฯลฯ แล้วก็ฯลฯ แต่อ๊อดสงสัยว่า ระยะเวลาจากตอนนั้นมาถึงตอนนี้ มันก็ไม่นานเท่าไหร่ ซึนามิที่ภูเก็ต เกิดขึ้นวันที่ 26 ธันวาคม 2547 นับเวลาแล้วยังไม่ถึงสิบปีด้วยซ้ำ แล้วนักศึกษาท่านนี้ไปบวชตอนใหน สำเร็จอรหันตอนใหน? ทำไมถึงได้มองเห็นเหตุการณ์ล่วงหน้าแบบทะลุโจ่งแจ้งแบบนี้ เพราะการที่ใครจะปฏิบัติและนั่งสมาธิ ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะบรรลุธรรมในเวลาเพียงแค่ไม่กี่ปี ยิ่งเป็นนักศึกษาแพทย์ด้วยแล้ว น้อยมากที่จะสละหน้าที่การงานมาบวชบำเพ็ญเพียรจนสำเร็จ


คิดว่าพระรูปนี้ไม่ได้รู้เรื่องนี้ด้วยตนเองครับ แต่รู้จากพระที่อยู่ในวงกัมมัฏฐานบอกให้ท่านทราบ


แล้วสำหรับเรื่องนี้่ผมได้ยินได้ฟังมาก่อนหน้านี้ประมาณ 3 ปีแล้ว และมีการบอกวิธีการให้เตรียมตัวเช่น การเตรียมไฟฉายแบบเขย่าของจีน เทียนไข มาม่า ผ้าอนามัียสำหรับผู้หญิง ห่วงยาง หรืออุปกรณ์ยังชีพอื่นๆ อีกมากมาย


ขอพูดส่วนตัวผมนะครับ จิตผมยังไม่ปักใจเชื่อมากนัก แต่ถ้าเกิดจริง ถึงแม้มีการเตรียมตัวอย่างดีมีอุปกรณ์ครบ ก็คิดว่าคงจะไม่มีใครได้ใช้ แต่ผมก็ไม่ได้ประมาทนะครับ เพราะตัวผมเองผมเตรียมอีกด้านหนึ่งครับ  ผมเตรียมเรื่องจิต เรื่อง ศีล สมาธิ ภาวนา ครับ


เมื่อมีสิ่งนี้ๆ เป็นปัจจัย สิ่งนี้ๆ จึงเกิดขึ้น

จากที่ญาติ  ที่อยู่ที่นคร  เจอ  ดินสไลด์  จากภูเขาเกือบทุกลูก   ตอนแรกก็คิดว่า  น่าจะมาจากตัดไม้  ทำลายป่า  แต่ดูๆแล้ว  ไม่ใช่  การเกิดครั้งนี้  ต้องเกี่ยวข้องกับการสั่นสะเทือน  ของเปลือกโลก  แน่ๆ  พื้นที่บนภูเขา ชั้นล่างๆ  ต้องมีปัญหาแน่ๆ เทือกเขาตะนาวศรีคือหลักๆ  นคร  สุราษฏร์  กระบี่

ตอนเด็กๆ  อยู่บ้านหน้าถ้ำ  ใกล้กับกรุงชิง พอเกิดเหตุการณ์น้ำท่วม   พวกเราก็ถูกน้ำล้อม3ทิศ  ก็กินเผือกมัน  ราวๆ20วัน  พ่อก็ลงไปเอาข้าวสารได้  เป็นอย่างนั้นปีละ2ครั้ง  แต่ก็อยู่ได้  พวกน้าๆ  จะอยู่แถวคลองกลาย  นพพิตำ  หนาเหรง  พังหรัน   เขาก็อยู่ได้  มาปีนี้  บ้านน้าสาว  ที่เป็นที่ตั้งบ้านตาเมือ50ปีก่อน  ปีนี้ไปกับคลองกลาย  ทั้งหลังเลย  เหลือบ้านน้าที่พังหรัน  กลายเป็นที่อพยพของญาติๆ

          เมื่อคืนตอนหัวค่ำผมก็ดูข่าวที่นักข่าวเข้าไปสัมภาษณ์ชาวสวนแถว คลองกลาย ทั้งต้นยางและบ้านถูกน้ำพัดไป

          พูดถึงเรื่อง การสั่นสะเทือน (Vibration) เรามักจะเข้าใจกันว่า การสั่นของเปลือกโลก ทำให้เกิดเหตุการต่างๆ บนโลกใบนี้ หลังจากที่ผมได้สนใจเกี่ยวกับ ควอนตั้มแมคแคนิก ทำให้ผมรับรู้ว่า การสั่นสะเทือนนั้น มีอยู่ในทุกสิ่ง เราสามารถนำเอาการสั่นสะเทือน มาใช้ประโยชน์ในทางการรักษาพยาบาลก็ได้ครับ

ลุงพูน หยอยคิดและเชื่อในทิศทางเดียวกับลุงพูน  เรื่องVibration ตัวอย่างชัดเจนคือการศึกษาผลึกของน้ำ ลุงพูนน่าจะทราบแล้วนะคะ

          ผลึกของน้ำ เป็นผลจากการศึกษาของญี่ปุ่น

          แต่น้ำที่พวกเราคุ้นเคยกันดีคือ น้ำมนตร์ ตามวัดต่างๆ ที่พอไปถึงวัดไหน ก็หาน้ำมนตร์วัดนั้นๆ มารดหัวกัน น้ำมนตร์ในโบสถ์ ก็ได้รับพลังสั่นสะเทือนจากการสวดมนตร์ ของพระทุกๆวัน

โดยส่วนตัวแล้ว เตรียมตัว เตรียมใจ คิดล่วงหน้ามาโดยตลอด ว่าเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เคยเกิดขึ้นบนโลกใบนี้ สามารถเกิดขึ้นได้กับเราเสมอ สิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ก็ยังมีความเป็นไปได้เช่นกัน จึงไม่วิตกกังวลใด ๆ พร้อมยอมรับในสิ่งที่จะเกิดขึ้น เพราะเราตัวเล็กนิดเดียว หากโลกจะปรับสมดุลย์ แล้วเราได้รับผลกระทบก็จำยอม(ปัจจุบัน อยู่กลาง ๆ ด้ามขวาน พื้นที่สูง ไม่ใกล้ภูเขา ไม่เคยได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติต่าง ๆ)

ต้องอ่านให้ละเอียด   อ่านแล้วก็ตั้งอยู่บนความไม่ประมาทเป็นดีที่สุด  ทุกสิ่งทุกอย่าง  เกิดขึ้น  ตั้งอยู่  และก็ดับไป

หน้า