การเก็บเมล็ดพันธุ์ที่ถูกต้อง

หมวดหมู่ของบล็อก: 

ขั้นตอนการเก็บเมล็ดพันธุ์  


       1. การคัดเลือกต้นพืช  


          - เลือกต้นพันธุ์ที่แข้งแรงสมบูรณ์โตเร็ว ต้านทานต่อโรคและแมลง ให้ผลผลิตดี รสชาติดี


          - ทำเครื่องหมายไว้ที่ต้น เพื่อไม่ให้ผิดพลาดในการเก็บเกี่ยว


          - เก็บเกี่ยวเมื่ออายุพืชแก่พอดี ไม่ทิ้งไว้ในแปลงนานเกินไป


       2. การเก็บกี่ยว


          พืชแต่ละชนิดมีวิธีการเก็บเกี่ยวที่แตกต่างกัน มีข้อแนะนำในการเก็บเกี่ยวเมล็ดพันธุ์ผักบางชนิด ดังนี้


ถั่วต่างๆ


1. เก็บฝักที่แห้ง มีสีน้ำตาล เก็บในตอนเช้า


2. ใส่กระสอบตากแดด


3. ใช้ไม้ทุบพอเปลือกแตกในตอนบ่าย


4. ฝัดเอาเศษเปลือกออก


5. เลือกเอาเมล็ดที่สมบูรณ์


6. ตากแดด 2 - 3 แดด


มะเขือเทศ


1. เลือกเก็บผลที่มีสีแดงเข้ม


2. ใส่ถังพลาสติกบ่มไว้ในร่ม 3 - 5 วัน


3. ผ่าผลตามขวาง


4. ตักเมล็ดออกใส่ภาชนะพลาสติก


5. หมักไว้ 1 คืน


6. ล้างเอาเมล็ดที่จมอยู่ด้านล่าง


7. นำไปตากแดด 2 - 3 แดด


มะเขือ  


1. เก็บผลสุกสีน้ำตาล


2. บ่มมะเขือไว้ในร่ม 3 วัน เพื่อให้สุก


3. หั่นส่วนปลายออก ทุบให้เมล็ดแตก


4. หมักไว้ 1 คืน


5. ล้างเอาเมล็ดที่จมอยู่ด้านล่าง นำไปตากแดด 2    - 3 แดด


ตระกูลกะหล่ำ   


1. เลือกต้นที่ฝักสีน้ำตาลอ่อน เมล็ดสีดำ


2. ตัดทั้งต้น มัดรวมกัน 2 - 3 ต้นต่อมัด


3. แขวนตากแดด 7 - 10       วันควรมีพลาสติกปูด้านล่างกันเมล็ดร่วง


4. ใช้ไม้ทุบเบาๆ แกะเอาเมล็ด


5. ฝัดเอาแต่เมล็ด


พริก


1. เก็บผลที่แก่สีแดงจัดเก็บทั้งขั้ว


2. บ่มไว้ในร่ม 3 - 5 วัน


3. ผ่าเปลือกตามยาว ดึงเอาไส้พริกออก


4. แกะเอาเฉพาะเมล็ดในไปตากแดด 3    - 4 แดด


แตงกวา


1. เก็บผลที่มีขนาดใหญ่และมีสีเหลือง


2. ผ่าผลตามยาว ใช้ช้อนตักเมล็ด


3. หมักเมล็ดไว้ 1 คืน


4. ล้างเมล็ดให้สะอาด นำไปตากแดด 2 - 3 แดด


กระเจี๊ยบเขียว


1. เลือกฝักที่มีสีน้ำตาล จวนปริแตก


2. ใส่ถุงตาข่ายตากแดด ฝักจะปริแตก


3. แกะเอาเมล็ดที่สมบูรณ์


ฟักแฟง น้ำเต้า ฟักทอง


1. เก็บผลที่มีขนาดใหญ่ ผลแก่จัด


2. ผ่าเอาเมล็ดออกจากเนื้อ


3. ล้างให้สะอาด


4. ผึ่งลมให้แห้ง


      3. การตากเมล็ดพันธุ์


          เมล็ดพันธุ์พืชเป็นสิ่งที่มีชีวิต มีการหายใจทำให้เกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และน้ำ เมล็ดที่มีความชื้นมากก็จะหายใจมาก ทำให้เมล็ดเปียกชื้น มีราขึ้น อ่อนแอต่อโรคและแมลง การทำให้เมล็ดแห้งก่อนการเก็บรักษา จึงมีความจำเป็น แต่ก็ไม่ควรแห้งเกินไป ซึ่งวิธีการตากเมล็ดพันธุ์สามารถทำได้ ดังนี้


          1. ปูกระดาษหรือแผ่นพลาสติก ในบริเวณที่มีแสงแดดส่องตลอดทั้งวัน


          2. เขี่ยเมล็ดที่เปียกชื้นให้กระจาย


          3.ควรเขี่ยเมล็ดพันธุ์กลับไปมา วันละ 3 - 5 ครั้ง


          4. ในตอนเย็น ควรเก็บเข้าที่ร่มเพื่อป้องกันการเปียกชื้นจากน้ำค้าง


       4. การป้องกันเมล็ดจากการทำลายของแมลง


ในระหว่างการเก็บเมล็ดพันธุ์เกษตรกรหรือผู้ปลูกผัก มักพบว่า แมลงทำลายเมล็ดโดยเฉพาะด้วงเจาะเมล็ด ซึ่งมีวิธีการป้องกันได้ ดังนี้


ปูนขาว


 1. ใช้ปูนขาว 50 กรัม หรือ 15 ช้อนชา


 2. ใช้เมล็ดพันธุ์ 1 กิโลกรัม


 3. คลุกเคล้าปูนขาวและเมล็ดพันธุ์ให้เข้ากัน


 ขี้เถ้าแห้งจากไม้


 1. ใช้ขี้เถ้าที่เพิ่งออกจากเตา ปล่อยทิ้งให้เย็น 0.5 กิโลกรัม


 3. ใส่เมล็ดพันธุ์พืช 1 กิโลกรัม


 4. คลุกเคล้าเมล็ดกับขี้เถ้าให้เข้ากัน


 5. โรยขี้เถ้าปิดทับอีกที แล้วปิดฝาขวด


น้ำมันพืช


 1. ใช้น้ำมันพืช 1 ช้อนชา


 2. เมล็ดพันธุ์ 1 กิโลกรัม


 3. คลุกเคล้าจนเมล็ดใส


        


(ขอขอบคุณแหล่งข้อมูลค่ะ)







 










ความเห็น

เข้ามาเก็บความรู้ค่ะ ขอบคุณคร่า :admire2:

ให้ 1 โหวตค่ะ

ขอบคุณมากเลยค่ะ กับข้อมูลนี้

ขอเสริมเรื่องการเก็บรักษาเมล็ดพันธุ์พืชอีกวิธีนะครับ คือ การเก็บรักษาในถุงปิดมิดชิด ไม่มีอากาศถ่ายเท หรือ Hermetic Storage.

เป็นการเก็บแบบธรรมชาติ ไม่ต้องใช้สารเคมี นับเป็นวิธีที่เหมาะกับพันธุ์พืชออร์กานิค (Organic).

ยกตัวอย่าง การเก็บพืชสมัยโบราณ จะเก็บพันธุ์พืชลงในไหแล้วทาขี้ผึ้งที่ขอบฝา แล้วปิดผนึกเพื่อไม่ให้อากาศถ่ายเทเข้าออก.

อ่านเพิ่มเติม http://www.thaiorganicstorage.com/customize-การเก็บแบบHermeticคืออะไร-47532-1.html

เมื่ออากาศไม่เข้าไม่ออก แต่เมล็ดพันธุ์พืชยังคงหายใจทำให้ปริมาณออกซิเจนลดลง และคายคาร์บอนไดออกไซด์ออกมา ทำให้ปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์มากขึ้น แมลงศัตรูก็ตายเกลี้ยง ส่วนที่เป็นไข่คงอยู่ในเมล็ดก็ไม่คลอดออกมาเพ่นพ่าน เพราะสภาวะไม่เหมาะสม ทำให้เมล็ดพันธุ์พืชปลอดภัย.

นอกจากนี้ ที่สภาวะออกซิเจนต่ำ เมล็ดพันธุ์พืช ยังหายใจลดลงเข้าสู่สภาวะ "จำศีล" ทำให้สภาพเมล็ดยังอ่อนเยาว์ เต่งตึง คงอัตราการงอกได้ดีเยี่ยม นานกว่าเก็บแบบปกติ ถึง 3 เท่าเลยทีเดียว.

มีผลการวิจัยพบว่า เปรียบเทียบการเก็บแบบมิดชิด Hermetic Storage กับการเก็บในห้องเย็น พบว่า สามารถยืดอายุของเมล็ดพันธุ์และอัตรางอกได้ไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ หรือเรียกง่ายๆว่าใกล้เคียงกันจนแยกไม่ออก แต่สิ่งที่ต่างกันคือค่าใช้จ่ายของการเก็บในถุงแบบ Hermetic ถูกกว่าการเก็บในห้องเย็นกว่า 10 เท่า.

ถ้ามีใครสนใจงานวิจัยตัวนี้ก็ เมล์หาผมได้นะครับ karn.ck@gmail.com.

หวังว่าจะเป็นประโยชน์นะครับ
กานต์

นี้แหละครับ  เสน่ห์ของ เวปนี้   สร้างสรรค์  เสริมสร้าง แบ่งปัน ทั้งความรู้ และผลผลิต   ไม่รู้  ก็ได้รู้  ไม่เคยเห็น  ก็ได้เห็น  ไม่เคยทำ  ก็คิดจะทำ  มีความสุขครับ  ขอบอก  ๆ :dreaming:

หน้า