เราเดินทางผิดหรือเปล่า

หมวดหมู่ของบล็อก: 

ความคิดต้อนนี้รู้สึกท้อใจมากทั้งเราและสามี ทำงานโรงงานทั้งสองคนแต่มีความรู้สึกว่าเงินเรายังไม่พอใช้และยังมีหนี้จากการซื้อที่ดินอยู่  เราส่งดอกเบี้ยทุกเดือน เงินที่ใช้แต่ละเดือนก็แทบจะไม่พอ ขนาดเราทำงานทุกวัน

เรามีความคิดและหวังว่า การปลูกพืชเชิงเดียวในที่ดินของเราทั้งหมดจะ ช้วยในการปลดหนี้ที่เรามี แต่การปลูกพืชเชิงเดียวในที่ ดิน19 ไร่ ผลผลิตที่เกิดจากการทำงานทั้ง 2 ด้านของเรา(งานโรงงานกับงานไร่) ผลผลิตที่ได้ไม่ดีเท่าไร สรุปแล้วทำมาทั้งปีได้เงินมาเรียกว่าเกือบขาดทุน หรือท่าคิดรามค่าแรงด้วยแล้วก็ขาดทุนนั้นแหละค่ะ

วันนี้รู้สึกท้อใจ เหนื่อยมาก ยิ่งคุณสามียิ่งเหนื่อยเข้าไปใหญ่เพราะงานในไร่เขาทำซะเป็นส่วนใหญ่ค่ะ

อยากจะออกจากงานประจำไปทำไร่เพราะคิดว่าน่าจะได้เงินมากขึ้นจากผลผลิตที่เราลงแรงและเวลาให้กับมันแบบเต็ม ร้อยเปอร์เซ็นต์ ก็ไม่แน่ใจว่าจะได้อย่างที่หวังหรือเปล่า กว่าผลผลิตจะได้ต้องใช้เวลาเป็นปี ระหว่างนั้นเราจะเอาเงินที่ไหนมาใช้จ่ายในแต่ละวัน เครียด คิดไม่ออกค่ะว่าทางเดินที่ถูกต้องคือทางไหนกันแน่ การที่เราจะออกจากงานประจำดดยที่เรามีรายใด้แบบติดลบ(ค่าดอกเบี้ย)มันช่างยากแก่การตัดสินใจจริงๆ

 ใครมีความคิดเห็นอย่างไรแบบไหนบอกกันได้นะค่ะ

ความเห็น

ที่ดิน 19 ไร่ ไม่น้อยเลยนะครับ .... แต่การปลูกพืชเชิงเดี่ยว ข้อดีก็มีข้อเสียก็เยอะ .... ข้อดี ถ้า ราคา ของผลผลิตดี ก็จะได้เป็นกอบเป็นกำ ...แต่ถ้าราคาไม่ดี ก็จบเพราะ มันมีอย่างเดียว แต่ถ้าปลูกพืชแบบผสมผสาน ก็จะได้ถัวเฉลี่ยกันไป .... การทำการเกษตร ถ้าจะคิดเรื่อง "กำไร" "ขาดทุน" ....ในรูปของตัวเงินแล้ว บางครั้งอาจจะขาดทุน .... การทำเกษตร ถ้า ไม่เน้นเรื่อง ของ "เงิน" ยังไงก็ไม่ขาดทุน ....ผมยังจำขึ้นใจ "คุณสงวน มงคลศรีพันเลิศ" ปราชญ์ชาวบ้าน จังหวัดกระบี่ .... บอกว่า "ต้องคิดให้รอด ก่อนที่จะคิดให้รวย" แต่คนส่วนใหญ่ คิดแต่จะให้รวย ไม่ได้คิดถึงว่าจะทำยังไงให้รอด .....

ผมคงไม่สามารถ บอกได้ว่า เดินทางผิดหรือไม่ .... เพราะปัจจุบันก็ทำงานโรงงานเหมือนกันครับ ..... แต่ถ้าเป็นผม ....

 - ประเมินรายจ่ายที่จำเป็น ต่อเดือน ....

 - ประเมินรายรับ แบบชัวร์ ๆ ต่อเดือน จากการเกษตร ถ้าพอ ก็ลาออกได้ แต่ถ้าไม่พอหรือไม่แน่นอน อย่าออกจากงานประจำเด็ดขาด ครับ ... ยังไงก็ต้องรักษาที่ดินไว้ก่อน ......

 - หรือ ... ทำงานประจำ 1 คน อีกคนไปลุยเต็มที่ ...

ไม่มีสูตรสำเร็จครับ ... ขอให้ประเมินกำลังความสามารถ ของ ตัวเองให้ดี ....ท้อได้ แต่ อย่าถอย ... เดินทีละก้าว เดี๋ยวก็ถึงครับ ที่สำคัญขอให้นึกถึง ปรัชญา "เศรษฐกิจพอเพียง" ของในหลวงครับ ของแท้ของจริง แน่นอนใครเดินตาม ไม่ผิดหวัง ........ ผมเคยเป็นหนี้ บัตรเครดิต เกือบ 200000 วนเวียนอยู่เกือบ 5 ปี ... สุดท้ายผมใช้หนี้หมด ในระยะเวลาไม่ถึง 2 ปี .... ในสภาวะที่รายได้ผมเหมือน ๆเดิม ทุกปี .... ปลดหนี้ได้ด้วย ปรัชญานี้แหละครับ .... ผมเริ่มจาก "บัญชีรายรับ-รายจ่าย" .... จดหมดทุกอย่าง ... อย่าหลอกตัวเอง ซื้อหวย ผม ก็จด .... เริ่มจากจุดนั้นครับ .... สู้ ๆ ครับ เป็นกำลังใจให้ ...อย่างน้อย คุณ ก็มีที่ดิน ยังดีกว่าอีกหลายคนที่อยากจะออกจากงานประจำ ...ไปทำเกษตร ... แต่ที่ดินยังไม่มีเลย .....

เมื่อรู้สึกว่ากำลังแย่ จงให้กำลังใจตัวเอง ด้วยการคิดว่า "ยังมีคนอื่นที่แย่กว่าเราอีก"

อย่าเพิ่งออกจากงานประจำครับ ทำไปสองอย่างพร้อมกันดีกว่า เรายังคงให้น้ำหนักทางงานประจำเพราะเป้นแหล่งรายได้หลักของเรา

ผมทำแบบนี้มา กว่า 10 ปีแล้ว

สินค้าเกษตร ขายไม่ได้ราคาอย่างที่เราตั้งใจหรอกครับ

ทำเกษตรทำให้มีความสุขทำง่ายครับ (ยึดทฤษฎีพอเพียงของในหลวงฯ)   แต่ทำให้รวยนั้นทำยากครับ

 

เอาใจช่วยนะครับ  มีที่ตั้ง 19 ไร่ แล้ว ยังโชคดีกว่าคนอื่นที่ไม่มีที่ดินเป้นของตัวเองนะครับ

 

ต้องมีการปรับเปลี่ยน ค่อยๆทำที่ละน้อย เหมือนคุณธนาวิทย์ว่า ต้องอดทน คุณโชคดีที่มีที่ดิน เป็นกำลังใจให้คะ  

คิดให้แตกต่าง...แต่อย่าแตกแยก

อ่านแล้วคิดหนักเลยค่ะ เพราะฉันตั้งใจว่าจะลาออกจากงานเหมือนกัน (โดยที่ยังติลบ)


การทำสวนเล็กๆจะทำให้ฉันอย่รอดมั๊ย ยังงัยก็เป็นกำลังใจให้นะคะ

ความเห็นส่วนตัวคะ

1. ปลูกพืชแบบผสมจะดีกว่าคะ จะได้ถั่วเฉลี่ยเรื่องราคา ยังไงก็เสี่ยงน้อยกว่า

2. เรื่องการออกจากงาน เราต้องแน่ใจก่อนว่าถ้าออกจากงานแล้ว มันทำได้เท่า มากว่า น้อยกว่า ที่ทำงานเดิมอยู่หรือไม่ ต้องประเมินให้ได้ก่อน ถ้าไม่แน่ใจ ก็อย่าออกจากงานก่อนนะคะ

3. การมีที่ดิน 19 ไร่ ก็ถือว่าเยอะแล้วนะคะ มากไปบางทีก็ดูแลไม่ทั่วถึง ได้ก็เหนื่อยมากด้วย

ดิฉันเคยเข้าไปดูโครงการ 1 ไร่ 1 แสนเห็นแล้วชอบมากเลยคะ เป็นการบูรณาการพื้นที่ 1 ไร่ให้ได้ประโยชน์สูงสุด ปลูกข้าวกินเอง ปลูกผัก เลี้ยงปลา เลี้ยงเป็ด ส่วนหนึ่งก็ยังเป็นที่อยู่อาศัยอีกด้วยคะ รายได้ประมาณเดือนละ หมื่นห้าคะ ลองเข้าไปชมดูนะคะ เผื่อจะได้แรงบันดาลใจ

อยากจะบอกว่ากำลังใจสำคัญที่สุดคะ สู้ ๆ นะคะ เอาใจช่วย

ศึกษาตลาด   ทำการตลาดก่อนปลูกค่ะ  เมื่อมีตลาดแล้ว  ลงมือจัดระบบ   ปลูกพืชระยะสั้น แบบ15วัน  ได้ ขาย  1เดือนมีขาย  2เดือนมีขาย   ปลูกพืชระยะกลาง  8เดือน-1ปี ขาย   ปลูกพืชระยะยาว  5-7ปี  ได้ขาย

ที่บอกมา  ไม่ต้องจบ  ปตรี  ปโท  ก็ทำได้ค่ะ  ก่อนอื่น  หาตลาดให้ได้ก่อนนะ

ส่วนตัวแล้วไม่ค่อยเห็นด้วยกับการออกจากงานตอนที่ยังไม่พร้อมนะครับ

ที่ดินตั้ง 19 ไร่ แบ่งมาสักครึ่งไร่เพื่อปลูกผักไว้กินเอง ลดรายจ่าย เหลือจากการกิน แบ่งปันแล้วขาย จะดีกว่ามั๊ย

เคยคิดจะลาออกจากงานเหมือนกันเบือๆงานที่ทำอยู่ แต่ไปทำไร่แค่เสาร์-อาทิตย์ก็ไม่ไหวแล้ว ทำไร่ปีนี้ก็ขาดทุนคะ ขาดทุนทุกปีเลย เราทำเต็มที่แล้ว แต่เราก็ยังขาดทุนอยู่ บางปีแล้ง   บางปีฝนตกหนักนำ้ท่วม ราคาผลผลิตไม่ดี เงินที่หามาได้ก็จากอาชีพอื่น วันนี้ออกไปพื้นที่ เกษตรกรปลูกกล้วยไข่มีรายได้ เดือนละ 4-5 หมื่นบาท ที่ดิน 25 ไร่ ก็คิดจะลาออกอีก  แต่คิดดูดีๆแล้วก็สรุปให้ตนเองไม่ได้ ก็เลยทำงานประจำไปก่อนดีกว่าBye

มาให้กำลังใจครับ เหมือนที่พี่ ๆ เขาว่ากันนะครับ ค่อยเป็นค่อยไป ไม่ต้องรีบก้าว ตอนนี้ผมก็เริ่มที่จะ ปรับเปลี่ยนตัวเองด้วยการปลูกผักกินเอง ลดค่าใช้จ่ายที่เราสามารถทำเองได้โดยต้องซื้อครับ

ถ้าชีวิตไม่สิ้นก็ต้องดิ้นกันต่อ

E-mail : pinit25@hotmail.com

เข้าใจความรู้สึกนี้ดีค่ะ และก็คล้าย ๆ กันค่ะ บางครั้งรู้สึกเหน็ดเหนื่อยกับงานประจำทั้งสองคน อยากจะทำสวนทำนาทำไร่กันสองคนตายาย แต่ก็อย่างว่าล่ะค่ะ ยังมีภาระหนี้สินอีกมากมายที่ต้องส่ง ที่ดินก็ยังคงเป็นของพ่อแม่อยู่ท่านยังทำไหว(จ้างเขามาช่วยทำด้วย) ก็ปลูกข้าวค่ะ เพราะเป็นที่ลุ่ม ตอนนี้ก็ได้แต่ปลูกผัก ปลูกต้นไม้รอบ ๆ บ้าน ก็คลายเครียดได้ค่ะ ยังทำอะไรไม่ได้มาก มีที่อยู่ 3 งานที่พิจิตรก็ให้พ่อแม่สามีปลูกผัก ปลูกมะนาว มะละกอ กล้วย พอขายเป็นรายได้เล็ก ๆ น้อย ๆ ไปก่อนค่ะ  เป็นกำลังใจให้นะคะ

แบ่งปัน สร้างสรรค์ พอเพียง

 

หน้า