เขียนไปตามบรรยากาศ

หมวดหมู่ของบล็อก: 


บรรยากาศยามตะวันใกล้พลบที่นาหม่อม

ทำให้นึกอยากจะเขียนกลอน

 ลองนึกคำขึ้นมาได้เป็นประโยค

จึงลองแต่งเป็นกลอนแปด

ดังที่เขียนไว้ด้านล่างนี้

 

  " หลงรักเจ้าหมายปองข้องจิต  


จำห่างไกลไม่ได้ชิดเสน่หา


สิบแปดปีผ่านไปไม่ตรีชา         


ถึงฟ้าสิ้นดินร้างไม่ห่างชม


   ประหนึ่งบัวตูมดอกในตมตื้น 


ไม่อาจชื่นแสงสว่างได้สร้างสม


 ริมตลิ่งดอกโมกพริ้วกระจายลม 


พอชื่นชมคลายจิตสนิททรวง"


 


         ที่แต่งมานี้  กลอนพาไปตามสัมผัส 


ไม่ได้มีความหมายใดๆนะขอรับ 


ทุกท่านโปรดทราบ


 

ความเห็น

กลอนพี่นุเพราะจัง  กลอนพาไปหรือใจพาไปคะ

 

น้ำหวาน แซวเสียจั๊กจึ้  เดี๋ยวต้นกล้ามาอ่าน  พี่จะยุ่ง   รายนั้นน่ะ  เขาเผาเก่ง  รับรองพี่ถูกแม่เขาเผาซ้ำ

ทั้งวิวทิวทัศน์ สวยงามกลอนแปดก็ไพเราะมากค่ะ

    เด็กๆยุคหลัง ไม่ค่อยแต่งกลอนโคลงกัน  หายไปเนาะ ว่ามั๊ย

อารมณ์ศิลมากมายค่ะ คิดฮอดไผอยู่น้อ ฮ่อๆ

ทำวันนี้ให้ดีที่สุด

   ไม่ได้คิดถึงใครดอก  อารมณ์เหงาน่ะ   ไม่ได้ออกไปชมป่าชมเขา  เครียดน่ะ  ขี่ม้าไม่ได้  เลยลองคิดเรื่องเกาๆสมัยเพิ่งรุ่นหนุ่มเล่นๆ

เป็นบทกลอนที่ไพเราะมกๆ

ทำความดีนะครับ จะได้มีความสบายใจ   msn/krawmovie@hotmail.com

ว่าไปตามตัวอักษรน่ะ    เผื่อว่านานๆไป  เด็กๆจะได้ไม่ลืมกลอนแปด  ตอนนี้  กลอนแปดตามฉันทลักษณ์  และ นักแต่งกลอน  หายหมดแล้ว  ตั้งแต่ยุคหลังระบบการศึกษาแบบใหม่

โอ้คุณพี่ วิษณุ อารมณ์ไหน  แต่งได้ไง โคตรไพเราะ เสนาะหู

จนต้องเรียก ให้ผู้คุม ตามมาดู  ให้ได้รู้ ว่าผู้แต่ง หน้าตาเป็นไง

 

 

 

อิอิ

พอเพียง และ เพียงพอ บ้านไร่จันทร์เจ้า 

วันก่อนถามน้องแอนว่าพบจันทร์มั๊ย  พอดีไม่เห็นในบ้าน ในเอ็มก็ไม่ออน  อีกอย่างข้าพเจ้า มาบ้านสวนแว๊บๆ  ไม่ได้อยู่นาน  ก็เลยไม่เห็น  นึกถึงอยู่  


อ้อ  อารมณ์ที่เขียนนี่นะเร้อ   อารมณ์ว่างนะสิ  หง่าวววว   เหงาๆ  คิดไปเรื่อย  ปกติเย็นๆจะไปขี่ม้าไง  ตอนนี้ทำอะไรไม่ได้ก็เบื่อๆ     เอา  เต่งต่อให้อีกบทเอามั๊ย   "  ศรดอกแรกแรงร้าวสะท้านจิต   ระรานพิษซ่านในฤทัยสมาน    ศรสองสอนสามทรามซมซาน   จนอกกร้านไม่เจ็บหนักดังสักทรวง"      ต้องย้ำนะ  ว่าบทกลอนบทกวี  ต้องสร้างอารมณ์สะเทือนใจ  แต่ต้องแยกจากชีวิตจริง  ชีวิตจริงน้าณุ  มีแต่คุณแม่ต้นกล้า  ไม่นอกลู่นอกทางจ้า   

หน้า