การเตรียมตัวเดินป่า
สืบเนื่องมาจากงาน "กินดีมีสุข ฯ " ของคุณหยอย มีการพักค้างคืนในป่า ริมน้ำตกนกรำ แล้วมีสาวๆ หลายๆ คนไปร่วมงานครั้งนี้ด้วย จึงเขียน Blog นี้ขึ้นถ้าจะมีประโยชน์กับชาวบ้านสวนฯ บ้าง ต้องออกตัวว่าไม่ใช่มืออาชีพในการเดินป่า เมื่อเทียบกับอีกหลายคน เอาแค่ว่าเขียนจากประสบการณ์ที่ได้พบเห็น เป็นการเตรียมตัวง่ายๆ สำหรับการใช้ชีวิตในป่าที่ไม่มีเครื่องอำนวยความสะดวก ที่นอน อาหาร น้ำดื่มและการขับถ่าย ว่ากันเรื่องแรกเลยนะคะ
ที่นอน ส่วนมากที่สะดวกสุดก็จะเป็น เปล ซึ่งปลอดภัยเพราะกางสูงจากพื้นดินประมาณหนึ่งเมตร น้ำหนักเบา กางได้ทุกพื้นที่ โดยเฉพาะป่าใต้ ขอให้มีต้นไม้ระยะงามๆ สักสองต้นเป็นเรียบร้อย ไม่ว่าพื้นที่จะขรุขระ ต้นไม้เล็กๆ มากมาย ไม่เป็นปัญหาสำหรับเปล ประเภทของเปลที่ใช้ มีสองอย่างคือ
เปลธรรมดาและ เปลมุ้ง ง่ายๆ คือเปลธรรมดาก็ไม่มีมุ้ง เปลมุ้งมีมุ้งติดมาด้วย เพื่อป้องกันยุง ริ้น หรือมด เวลานอนก็จะสบายนิดนึง
ในรูปคือ "เปลมุ้ง" มีหลายรูปแบบว่ากันไป พื้นมุ้งจะเป็นสองชั้น ทำด้วยผ้าร่ม แห้งง่าย น้ำหนักเบา เปลพวกนี้เวลากางต้องดึงให้ตึง จะได้ไม่ปวดหลัง
สิ่งที่ต้องเตรียมต่อไปสำหรับการนอนเปล คือ Fly sheet จากในภาพที่ 1 ก็คือตัวหลังคาสีน้ำเงินน่ะค่ะ ทำจากผ้าร่มน้ำหนักเบาไว้สำหรับ กันฝน กันลม กันกิ่งไม้ที่จะหล่นใส่เวลานอน การกาง Flysheet ก็ถือเป็นศิลปะอย่างหนึ่ง ว่าจะกางอย่างไร ให้น้ำฝนไหลลงข้างๆ ไม่ตกท้องช้างน้ำขัง หรือว่ากางกันลมอันนี้แล้วแต่ประสบการณ์และชั่วโมงบิน เข้าป่าบ่อยๆ เจอฝนตกนอนหัวจมน้ำก็มี ไม่ต้องซีเรียส
อาหารและน้ำดื่ม เรื่องอาหารคงไม่ต้องกังวลเพราะทางคุณหยอยคงจัดหาไปเรียบร้อยแล้ว คงเป็นภาระสำหรับลูกหาบที่ต้องแบกอาหารเข้าไป แต่ส่วนมากก็จะเน้นอาหารที่น้ำหนักเบา ผักที่เสียยากๆ เช่น กระหล่ำปลี แครอท เนื้อสัตว์อาจต้องรวนเค็มเข้าไป อาหารเราไม่ได้เป็นคนจัดก็ผ่านตรงนี้ไปนะคะ ที่เน้นก็น่าจะเป็น น้ำดื่ม ปกติแล้วเข้าป่า ส่วนมากไม่มีใครแบกน้ำบรรจุขวดไป น้ำที่ดื่มก็จะเป็น น้ำจากลำธาร ต้องเลือกจากบริเวณที่น้ำไหลแรงๆ ห้ามดื่มน้ำจากบริเวณแอ่งน้ำขังเด็ดขาด เพราะเป็นที่เพาะพันธุ์เชื้อโรค กระติกทีใช้ ถ้าใครไม่มีกระติกแพงๆ ดีๆ ก็ไม่ต้องตกใจ จากประสบการณ์ ขวดน้ำดื่มใสๆ ขนาด 600 มล.ของสปริงเกิล หรือ ออรา หรือ ฯลฯ ใช้ได้ดีค่ะ ฝาเกลียวปิดสนิด น้ำหนักเบา ไม่แตกง่าย หาง่าย ราคาถูก พกพาง่าย ใช้เสร็จแล้วทิ้งได้เลย รับรองค่ะ
ทาก สัตว์ร้ายที่หลายๆ คนกลัว คนที่แพ้ทากจะคัน และรู้สึกขยะแขยง การแต่งตัวกันทาก ก็แต่งปกตินะคะ สาวๆ ที่ชอบใส่เสื้อตัวเล็กเอวลอยนิดๆ ก็หาเสื้อกล้ามตัวยาวใส่ข้่างในทับชายไว้ในกางเกง ส่วนล่างถ้ากลัวมันจะเข้าไปกัด สำหรับสาวๆ ก็ใส่นี่เลยค่ะ "ถุงน่องเต็มตัว" รับรองค่ะ ทากไม่เข้าไปทำอันตรายอย่างเด็ดขาด
ถุงกันทากจำเป็นมั้ย?... ตอบได้ว่าไม่จำเป็นค่ะ สำหรับคนไม่มีไม่ต้องไปเดือดร้อนซื้อหาราคาแพง ขโมยถุงเท้ายาวๆ สำหรับนักบอลที่หนุ่มๆ เค้าใส่นั่นแหละค่ะ ใส่กางเกงขายาว ทับชายขากางเกงไว้ในถุงเท้า เท่านี้ก็เรียบร้อยค่ะ นอกจากจะป้องกันทากแล้ว ยังป้องกันชายขากางเกงไม่ให้สกปรกด้วยค่ะ พอมองออกมั้ยคะ
รองเท้า ควรเป็นรองเท้าผ้าใบค่ะ แต่ทริปนี้ไม่แน่ใจว่าเข้าป่าลึกขนาดไหน คาดว่าไม่น่าจะลึกมาก ควรเป็นรองเท้าผ้าใบที่ใช้บ่อยๆ แล้ว ใครที่ไปถอยมาใหม่ ก็ลองเอาไปใส่ซ้อมๆ ซะก่อนนะคะ เดี๋ยวมันจะกัดเป็นแผล ควรเลือกไซด์รองเท้าให้ใหญ่กว่าเบอร์ปกติสัก 1 เบอร์ แล้วใส่ถุงเท้าสักสองคู่ อันนี้จะเห็นผลเวลาเดินลงเขา นิ้วเท้าจะได้ไม่กระแทก พอเลิกทริปแล้วต้องไปถอดเล็บ ไม่คุ้มกัน
การขับถ่าย เรื่องใหญ่สำหรับผู้หญิง....ป่าใต้เป็นป่าที่ชุมไปด้วยทาก สรีระของผู้หญิงต่างจากผู้ชายเวลาขับถ่าย ฉนั้นจะเน้นเรื่องของหญิงๆ เท่านั้นนะคะ ถ่ายเบา....ก็เริ่มจากเคลียร์พื้นที่ค่ะ ใช้เท้ากวาดๆ ให้โล่งๆ มองสำรวจทากให้ดี ก่อนทำภารกิจ ถ่ายหนัก ก็เหมือนกันค่ะ เคลียร์พื้นที่แล้วขุดหลุม ทำภารกิจ แล้วกลบ จากนั้นใช้ทิชชูวางข้างบน marking ไว้ว่าตรงนี้เป็นหลุมระเบิดนะจ๊ะ...ห้ามใครมาเหยียบ ไม่งั้นจะโดนระเบิดชีิวภาพ
การแต่งตัว....อย่าไปเชื่อหนังฝรั่งที่นางเอกใส่กางเกงขาสั้นจู๋ เดินป่าปาปัวนิกินี หรือเกาะบอร์เนียว หนังมันทำเอามันค่ะ ถ้าแต่งแบบนั้นรับรอง กลับออกจากป่า อาจเนื้อตัวลายพร้อย เป็นอีเย็นนางทาส ตอนถูกเจ้าคุณเฆี่ยน นะคะ ฉะนั้น เลือกเสื้อผ้าที่โปร่งๆ ระบายอากาศดีๆ แห้งง่าย กางเกงแขนยาว เสื้อแขนยาวหรือใครขี้ร้อน ไม่ชอบใส่เสื้อแขนยาว ตอนนี้มีปลอกแขนลายสวยๆ ให้สาวๆ เลือกใช้นะคะ เดินป่าเราก็สวยได้
ไฟส่องสว่าง อันนี้ประโยชน์ของมันก็มีมากอยู่ ที่เรารู้จักกันทั่วไปก็คือ "ไฟฉาย" อันนี้ถ้าจะให้ดีแนะนำว่า เป็นไฟฉายคาดหัว คล้ายๆไฟส่องกบนั่นแหละค่ะ จะสะดวกเวลาทำกิจกรรมต่างๆ แต่ถ้าไม่มีไฟฉายธรรมดาก็ใช้ได้ค่ะ ที่สำคัญคือ เตรียมให้แน่ใจว่าถ่านและไฟฉายใช้ได้จริงๆ อันนี้เป็นของส่วนตัวที่จะต้องมี เผื่อจะไปทำกิจกรรมส่วนตัวตอนกลางคืน
หมดหรือยังเอ่ย....พอแล้วดีกว่าเนอะ.....ใส่สงสัยอะไรถามไว้ได้นะคะ แล้วจะมาตอบให้เท่าที่ทราบค่ะ
ขอบคุณภาพสวยๆ จากเวปไซด์
http://www.e-travelmart.com/accessories_02_02_01.html
http://smilehandmade.blogspot.com/2009/11/recycling-dangerous-water-bott...
- บล็อกของ Slowlife
- อ่าน 9046 ครั้ง
ความเห็น
ประไพ ทองเชิญ
20 กรกฎาคม, 2011 - 20:11
Permalink
555555อาจารย์ตั้ม พี่เท่งใช้เกือกคีบนันยางเดินป่าตลอด
ให้ตายเถอะ ผ้าบงผ้าใบมันเดินไม่สะดวก จริงๆ ยิ่งเจอฝนบนเขาหลวง นันยางสบายบรื่อ รองเท้าผ้าใบหนักตายเลย
ขึ้นเขาหลวง นอนระหว่างทางหนึ่งคืน สนมั้ย มหาดเล็กตั้ม555555
Slowlife
20 กรกฎาคม, 2011 - 21:04
Permalink
คุณหยอย...จัดเต็มให้ป๋าตั้มไปเลยค่ะ
รีบๆ เข้านะคะ เงินทองไม่มีก็กู้ยืมมาได้ แต่แรงกาย ไม่มีธนาคารไหนให้กู้มาเที่ยวนะคะ ทุภาษิตของ Slowlife นะคะ
คุณหยอย...จริงๆ แล้ว Slowlife ไม่เคยขึ้นเขาหลวงนครสักยอดเลยนะคะ ไม่ว่ายอด 1500 หรือ ยอด 1800 พูดแล้วอายนะเนี่ย...
บ้านสวนพชร:เมื่อมนุษย์เงินเดือนอยากทำสวน
ประไพ ทองเชิญ
20 กรกฎาคม, 2011 - 21:15
Permalink
slowlife ยังบินมาหาดใหญ่ทันนะ อติสัยรอรับได้
มาเถอะ หมู่เฮาคนรักเรียนรู้อยู่กับป่า
ตั้ม
20 กรกฎาคม, 2011 - 19:41
Permalink
ยังมะเคย
เคยแต่นอนเต็นท์ ยังมะเคยนอนเปล น่าสนใจแฮะ..ต้องหาโอกาสบ้างเด๋วประเดิมซ้อมนอนในสวนบ้านเราก่อนดีก่า ขอบคุณที่ช่วยจรรโลงความอยากลอง ดีจัง
แสวงหาชีวิตที่สงบ..หลบลี้หนีความวุ่นวาย
jo korakod
20 กรกฎาคม, 2011 - 19:50
Permalink
เตรียมตัวเข้าป่า
ฮ่าๆๆๆ จะไปป่าอยู่เหมือนกันค่ะ ยังไม่เตรียมอะไรสักอย่าง
กำลังคิดว่าระหว่างรองเท้าผ้าใบ กับ เกือกบอกจะเอาอะไรไปดีหนอ :confused:
facebook https://www.facebook.com/ninkmax
Slowlife
20 กรกฎาคม, 2011 - 21:00
Permalink
เลือกที่ตัวเองถนัดสุดค่ะ
เลือกคู่ที่ตัวเอถนัดที่สุด ใส่สบายที่สุด ใส่แล้วมั่นใจ ยกเว้นรองเท้าส้นสูงนะคะ ใครถนัดอย่างไหน ก็ใช้แบบนั้น การเดินป่าไม่มีอุปกรณ์ที่ดีที่สุด ไม่มีสูตรสำเร็จ อยู่ที่การปรับตัว การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า travel gear ที่ราคแพง ที่ดีๆ อาจไม่ใช่อุปกรณ์ที่ดี ที่เหมาะกับเราก็ได้ค่ะ Slowlife เห็นลูกหาบ กระเหรี่ยงใส่รองเท้าหูคีบตราดาวเทียม เดินฉับๆ ก็มีค่ะ
บ้านสวนพชร:เมื่อมนุษย์เงินเดือนอยากทำสวน
เม mopa
20 กรกฎาคม, 2011 - 20:22
Permalink
โห..โดนมากเลยพี่
โห..โดนมากเลยพี่ ..เมละชอบมากเลยเเบบนี้ เสียดายที่กลับไทยคราวนี้ไม่ได้ทำอะไรเเบบนี้เลย เเต่ไม่เป็นไร ไว้ปลายปีกลับมาใหม่ ได้ทำเเน่ๆ ปีนี้ได้ไปอยู่บนเขาเเค่สองวันเอง ตัดขาดจากโลกภายนอกโดยสิ้นเชิง ไม่มีไฟฟ้า ไม่มีอินเตอร์เนต กางมุ้ง จุดตะเกียง นั่งเขียนบันทึกมืดๆ ได้อารมณ์สุดๆ เเต่ไม่ได้ทำอาหารกินนะ เเอบเอาอาหารสำเร็จขึ้นไปกิน ^^
ไว้ปลายปีได้กลับมาอีกเเน่ๆ :cheer3:
sam k.
20 กรกฎาคม, 2011 - 21:50
Permalink
ป่าจริงๆ
ที่เราได้สัมผัสกันอยู่นี่น่ะ เป๋นป่าเบญจพรรณ แต่ป่าจริงต้องแม่น้ำกษัติย์ติดชายแดนพม่าและที่ป่าบางกลอย เพขรบุรี มันทึบมากจริงแทบจะแหวกทางเดินไม่ได้ สปาต้าต้องนำหน้าตลอดทางรกจนเหยียบไม่ถึงพื้น ที่หน้ากลัวคือเห็บป่าปากแข็งมันกัดแล้งฝังตัวเข้าในเนื้อเราเจ็บมาก กว่าทาก...ยัมีอีกมากครับไว้ค่อยมาเล่าเป็นเรื่องป่าดีกว่า....
พัฒน์..ลูกธรรมดา
20 กรกฎาคม, 2011 - 21:51
Permalink
โดนครับ
สงสัยจะใด้ใช้วิธีนี้สักครั้งถ้าไปเที่ยวจะนอนเต็นท์ครับนอนเปลแบบนี้ยังไม่เคยครับ
อ่าน
หน้า