ครั้งหนึ่ง...ใบปริญญาเคยค้ำคอผม

หมวดหมู่ของบล็อก: 

ตั้งใจจะเขียนบล็อกนี้ตั้งแต่ปี ๒๕๕๔ แล้ว แต่ตอนนั้นเพิ่งกลับมาอยู่ที่บ้าน ยังไม่ได้ทำงานเกษตรเป็นชิ้นเป็นอันเลย

ตอนนี้ล่ะ กำลังทำอยู่เรื่อย ๆ ครับ กรีดยางพาราเป็นรายได้หลัก แต่ยางพาราอย่างเดียวก็มีปัญหาเวลาฝนตก ราคายางพาราที่ผันผวน

มีหลายความคิดที่อยู่ในหัวแต่ไม่ได้คิดมากครับ คิดเรื่องที่ควรคิด ตอนนี้มีความคิดเรื่องการทำเกษตรผสมผสาน จัดการความคิดเป็นระบบอยู่ในความคิดแล้ว อาจจะมีปรับปรุงบ้างบางขั้นตอน แต่เป้าหมายเหมือนเดิม ไปดูงานบ้าง หาข้อมูลทาง Internet บ้าง ได้ความรู้จากบ้านสวนพอเพียงบ้าง

หลายครั้งที่ความคิดที่จะเป็นเกษตรกรของผมต้องมีปัญหาสะดุดล้มลง คนรักคนแรกของผมเคยพูดว่า "บ้าหรือเปล่าพี่ เรียนมาตั้งสูงจะไปทำนา เลี้ยงวัวเลี้ยงควาย" สุดท้ายก็ต้องเลิกกัน (เรื่องการทำเกษตรเป็นสาเหตุหนึ่งของการเลิกกัน)

ส่วนคนรักคนปัจจุบันมีบางอย่างคล้าย ๆ กัน แต่บางอย่างก็แตกต่างกัน สิ่งที่เหมือนกันก็คือ ชอบงานเกษตรเหมือน ๆ กัน แฟนคนปัจจุบันเคยพูดเรื่องการทำเกษตรว่า "ไปสนใจคนอื่นทำไมพี่ ไม่ได้ขอเงินคนอื่นใช้สักหน่อย เค้าไม่ได้ให้เรากินสักหน่อย"

เรื่องเดียวกันแต่อุดมการณ์ต่างกัน ผมอาจจะเคยโชคร้ายในบางเรื่อง แต่ผมคิดว่า คนเราคงไม่โชคร้ายเสมอไปหรอก ผมให้ความหวังกับตัวเองเสมอมา บางทีก็คิดว่า เมื่อก่อนเราอยู่ผิดที่ผิดทาง อยู่กับงานที่เราไม่ถนัดไม่ชอบหรือเปล่า

อ๋อเกือบลืมบอกไปว่า "ผมจบภาควิชาออกแบบนิเทศศิลป์ คณะมัณฑนศิิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากรครับ" ผมทำงานเป็นครูสอนศิลปะอยู่ ๒ ปี ทำงานบริษัท ๙ ปี เต็ม ๆ ช่วงเวลาทำงานบริษัทฝันถึงการทำงานเกษตรอยู่ตลอดเวลาครับ...

ตอนนี้ออกจากงานมาปีกว่า ๆ แล้ว...มาเดินตามความฝันของตัวเองครับ...

ขอบคุณบ้านสวนพอเพียงครับผม

ความเห็น

ผมจบอิเล็กทรอนิกส์ครับและบริหารธุรกิจ แต่ทำเพราะใจรักครับ ทำไม่มากทำพอมีแรง ถึงที่ไม่มีก็อยากจะทำ ทำแล้วมีความสุขครับ ขอเป็นกำลังใจให้ครับ สู้ๆๆ ครับผม:cheer3:

เป็นกำลังใจครับ ปราโมทย์ ดีใจที่ครอบครัวอบอุ่นและพูดภาษาเดียวกัน...

สู้ต่อไปน่ะครับ 

ผมก็มีวิถีชีวิตคล้ายๆ คุณ ตอนนี้ก็ฝึกกรีตยางอยู่เหมือนกัน

ยามท้อก็แวะเวียนมาหากำลังใจในบ้านแห่งนี้แหละครับ

     คุณปราโมทย์คิดถูกแล้วค่ะ...เข้ามาให้กำลังใจนะค่ะ โดยส่วนตัวแล้วคิดว่าเราเกิดมาครั้งหนึ่งในชีวิตน่าจะได้ทำในสิ่งที่เราอยากจะทำ บางครั้งมีอุปสรรคบั่นทอนสุขภาพจิตก็ต้องปล่อยก็ต้องวาง คิดเหมือนกันค่ะว่าคนเราล้มแล้วต้องลุกได้เสมอ ให้กำลังใจคุณปราโมทย์มากๆค่ะ

ชีวิตเป็นเรื่องง่ายๆ จะทำให้ยากทำไม


 

อย่าฟังคำคน..อย่าสนใจใคร..อย่าเปลี่ยนแนว..คนแน่แน่วเท่านั้น..ผู้ชนะ  สู้ๆนะครับผม:cheer3: :cheer3: :cheer3:

 หลายๆคนเรียนมาแต่ไม่ได้ใช้วิชาที่ร่ำเรียนมาในการประกอบอาชีพรวมทั้งผมด้วย ถ้าจะคิดเข้าข้างตัวเอง ต้องบอกว่าก็ไม่แปลกอะไร เพราะยังมีคนแบบนี้อีกตั้งมากมาย ส่วนคนที่มีโอกาสได้ใช้วิชาที่ตนเองเรียนมาในการทำงานก็เป็นเรื่องที่ดีไม่น้อย การได้ใช้หรือไม่ได้ใช้วิทยายุทธที่ได้มาสมัยเรียน อาจไม่ใช่ประเด็นสำคัญมากนัก(คิดเข้าข้างตัวเองอย่างที่บอก) แต่การใช้หัวสมองและความคิดนี่สิผมว่าสำคัญกว่า คนเราถ้ารู้จักคิดก็สามารถสร้างสรรอะไรได้มากมาย ไม่เช่นนั้นคนที่ไม่จบอะไรเลย หรือเรียนมาน้อยคงไม่ประสบความสำเร็จอะไรใช่ไหม แต่ในความเป็นจริงหาเป็นเช่นนั้นไม่ เพราะฉะนั้นเรียนหรือไม่ได้เรียนอาจไม่แตกต่างกัน ถ้าคนๆนั้นรู้จักคิดรู้จักแสวงหาความรู้ คือความรู้ต่างๆ สามารถเรียนรู้ทันกันได้ บทพิสูจน์ที่ดีที่สุดคงหนีไม่พ้น ผลงานที่จะเกิดขึ้นจากการกระทำของเรา ซึ่งจะเป็นเครื่องชี้วัดที่ดีที่สุด ที่ใครๆได้ประจักก็ไม่อาจปฏิเสธได้ ทำเถอะครับถ้าทำแล้วดี

ทำผสมผสานไปเลยครับพี่ :bye:

:love: ป้ายาเป็นครูแต่เรียนส่งเสริมการเกษตร  มาเป็นครูสอนทำขนม  ทำอะไรก็ได้ที่ตัวเองชอบแล้วก็รักที่จะทำ  แค่นี้ก็มีความสุขแล้วค่ะ

ป้าเล็ก  ขอพูดความจริง  ให้อ่านค่ะ  จบอิเล็ก  จบโท บริหาร ทำงานเป็นครู   ชอบการค้าขาย   ปลูกต้นไม้ลดความเครียด  แล้วก็ได้พบว่า  ปลูกต้นไม้หลากหลายแล้วมีความสุขมาก  ทีนี้ก็เอาทุกอย่างมาใช้ให้เกิดประโยชน์  ปลูกต้นไม้ก็จับเวลาเป็นวงจรนึกถึงวงจรอิเล็ก  แล้วก็เมื่อมีต้นไม้1อย่าง  ก็มองหาประโชน์  ปลูกแล้ว  สำเร็จ  ได้กิน  ได้ให้ ได้ขาย  ก็เริ่มอย่างที่2 3 4 5ถึงตอนนี้ 140 อย่างแล้วค่ะ  ทุกอย่างก็ทำเป็นวงจร  ป้าเล็กลงทุนราว20%ของการได้ขายแต่ละครั้ง  แต่ทั้งนี้  ยังไม่รวมต้นทุนเรื่องที่ดิน กับ สิ่งปลูกสร้าง 

คิดว่า  ทุกคน  มีความเก่งในตัวเอง  ดูตัวเองให้ออกค่ะ  ดึงมาใช้ให้หมดทุกด้าน  ทำเกษตร  ก็สำเร็จได้ค่ะ

หน้า