ตั้งใจว่าจะไม่หายไปไหน ถึงแม้จะอยู่ไกลสุดขอบฟ้า

หมวดหมู่ของบล็อก: 

 หลังจากตั้งคำถามประจำวันศุกร์ที่ 7/09/55 และทิ้งท้ายไว้ว่าจะต้องเดินทางไกล(มาก) แล้วก็หายตัวไปจากเวบ 7-8 วัน ทั้งๆ ที่ตั้งใจจะทำตัวให้เป็นปกติ แต่ก็ทำไม่ได้ดั่งที่ตั้งใจ ที่ว่าต้องเดินทางไกลนั้น ก็ไกลถึงซีกโลกใต้กันเลย ผมเดินทางไปปฏิบัติงานที่ ประเทศออสเตรเลีย หรือชื่ออย่างเป็นทางการเรียกว่า "เครือรัฐออสเตรเลีย" ที่บอกว่าตั้งใจจะไม่หายไปไหน ก็เพราะตอนจองโรงแรมที่พักได้ข้อมูลมาว่ามีอินเตอร์เน็ต(wireless)ให้ใช้ฟรี แบบนี้ก็เยี่ยมสิ อุตส่าห์หอบหิ้วโน๊ตบุ๊คเก่าๆ ที่แสนหนักติดตัวไปด้วยพร้อมกับความหวังอันเรืองรอง แต่เมื่อไปถึง...อุแม่เจ้า ค่าใช้ wireless วันละ 25 AUD คิดเป็นเงินไทยตกราวๆ 800 ร้อยกว่าบาท/วัน กินข้าวได้ 2-3 มื้อเลยนะเนี่ย โครงการเล่นเน็ตตอนกลางคืนจึงเป็นอันเป็นหมันไป ได้แต่เพียงออกกำลังหิ้วโน๊ตบุ๊คไป-กลับ เออ...ก็ดีเหมือนกัน เรื่องอินเตอร์เน็ตในโรงแรมนี่ ในหลายที่เขาให้ใช้กันฟรีแทบทั้งนั้น ในบ้านเรามีทั้งฟรีและไม่ฟรี หลายๆที่มีเครื่องกลางให้แขกใช้ด้วย ที่ไม่ฟรีหาได้น้อยแล้ว ที่จีนและเกาหลีที่เคยไปมีเครื่อง(PC)ให้ใช้ส่วนตัวในห้องด้วยช้ำไป ที่ออสเตรเลียเครื่องก็ไม่มีให้ใช้แถมคิดค่าใช้แพงมหาโหดอีกตากหาก ...เริ่มต้นด้วยการบ่นเล็กๆ ด้วยความผิดหวังมากๆ อย่าเพิ่งเบื่อนะครับ เปลี่ยนไปดูรูปภาพของเมืองที่ผมไปดีกว่า

โรงแรมที่พัก Crown Promenade Hotel ในเมือง Melbourne (เมลเบิร์น) โรงแรมนี้แหละที่คิดค่าใช้ wireless วันละ 800 กว่าบาท/วัน

โรงแรมที่พักอยู่ตรงข้ามกับ Casino ที่ใหญ่ที่สุดในเมลเบิร์น ใหญ่ที่สุดของออสเตรเลียหรือเปล่าไม่ทราบ คาสิโนแห่งนี้ชื่อ Crown เหมือนกับโรงแรม เวลาไปทำงาน และขากลับต้องเดินผ่านทุกวัน ไม่มีความคิดสักนิดที่คิดจะลองเล่น อย่างพวกสล็อตแมชชีน...เสียดายเงิน

รูปนี้ถ่ายจากห้องพัก

ตึกระฟ้ามีให้เห็นอยู่ทั่วไป โดยเฉพาะในตัวเมือง (downtown)

บริเวณที่ผมพักอยู่ติดๆ กับแม่น้ำยาร่า (Yarra River) ในแม่น้ำมีสัตว์หลายชนิดอาศัย เช่น นกนางนวล นกกาน้ำ นกเป็ดน้ำ ห่านป่า หงส์ดำ แม้กระทั่ง นากทะเล ก็มีให้เห็น

อีกด้านหนึ่งของแม่น้ำยาร่า ทางด้านซ้ายที่มีป้ายเฉียงขึ้น คือ Melbourne Convention & Exhibition Centre สถานที่ๆ ผมและคณะไปจัดแสดงนิทรรศการส่งเสริมสินค้าเกษตรของไทย

ด้านข้างตัวอาคาร

ไปร่วมงานนี้

บู้ทของสำนักงาน กับน้องที่ไปด้วย (ทั้งหมด 3 คน)

ด้านนอกอาคาร มีดอกไม้ให้ชม ไม่รู้จัก คงเป็นพวก ท้อ บ๊วย หรือซากุระ (เดามั่วไปเรื่อย)

เจ้าหงส์ดำ มาเดินเล็มหญ้ากินแถวๆนี้ด้วย

ที่ริมแม่น้ำ ยามที่มีแสงแดดดี จะเห็นผู้คนนั่งรับแสงแดดกันเป็นคู่ๆ และมีฝูงนางนวลเข้ามาใกล้ๆเพื่อขอเศษอาหาร

ปฏิมากรรมริมแม่น้ำ

นอกจากเดิน หรือนั่งรถแท็กซี่แล้ว คนที่นี่จะใช้รถรางไฟฟ้ากัน รถรางไฟฟ้าเรียกว่า "Trams" บางสายนั่งฟรี เสียดายไม่มีเวลาให้ลอง

อาหารมื้อแรก ที่เห็นนี่จานละ 330 บาท รสชาติไม่ต้องพูดถึง คนละเรื่องกับราคา แต่อย่างว่า คนเมลเบิร์นคงชอบรสแบบนี้ สำหรับเราบอกได้คำเดียวว่ามันเลี่ยน จะแก้เลี่ยนด้วยน้ำสักหน่อย โอ้...พระเจ้าจอร์จ ขวดละ 100 บาท (600 มล.)

เอาพอหอมปากหอมคอ แค่นี้ก่อนเด้อ มีเวลาจะลงตอนที่ 2

ความเห็น

เมืองดูดี  แต่ของแพงจัง  อยู่บ้านเราดีกว่า   อย่าไปอยู่เลยเมืองนอก

โห...แพงจริง ๆ บ้านเค้าไม่ค่อยมีต้นไม้เลยนะคะ

"ความสุขของชีวิตในวันนี้ คือทำตามวิถีพอเพียงของพ่อ"

 ที่จริงบ้านเขามีสวนสาธารณะเยอะมากกว่าบ้านเรา แต่ที่ผมไปเป็นในเมืองต้นไม้ไม่เยอะมากนัก

บ้านเมืองเขาสวยนะคะ แต่ค่าครองชีพสูงจัง อยู่บ้านเราดีกว่านะ

 

 

ใช่แล้ว อยู่ บ้านเรา ดีกว่า ปลุกกินเอง ทำกินเอง ดีทีสุด

Cool

สู้ส้มตำบ้านเราก็ไม่ได้ ราคาถูกอีกต่างหาก

Cool คงจะดี ถ้า...

ผมว่าเอามาแลกกับหมูหวานบ้านเรา คงไม่มีใครยอม

อย่างว่าแหละ เราคุ้นชินกับอาหารที่มีรสชาติจัดจ้าน ส่วนฝรั่งเขากินแบบเลี่ยนๆ เห็นเขากินกันจานใหญ่ๆทั้งนั้นเลย ไอ้เราตักกินได้นิดเดียวก็จอด ต่อไม่ได้

หน้า