ทำบุญบ้านนา

      สวัสดีครับทุกท่าน วันนี้ผมขอพาชมภาพบรรยากาศการสมโภชน์เทียนพรรษา ของหมู่บ้านบ้านแม่ตีนะที่ผมอยู่กันนะครับ

     แต่ก่อนที่จะไปชมภาพบรรยากาศดังกล่าว ขอเฉลยคำถามที่ถามไว้ในบล็อกที่ผ่านมาก่อนนะครับ

     กับคำถามที่ว่า "ทำไมค้างคาวจึงอยู่ถ้ำหรือที่มืดๆ และหากินกลางคืน"

     คำตอบคือ

     ค้างคาวนั้นอวดดีว่ามันมีปีกเหมือนนก มีหูเหมือนสัตว์ทั่วๆไป เมื่อพวกนกกับสัตว์ยกพวกตีกัน มันจะเฝ้าดูเมื่อฝ่ายไหนชนะมันจะเข้าข้างฝ่ายนั้น ทั้งนกและสัตว์ผลัดกันแพ้และชนะ มันจะเข้าข้างฝ่ายชนะตลอด เมื่อนกและสัตว์ทำสัญญาสงบศึกต่อกัน จึงไล่ค้างคาวไม่ให้เข้าพวก ค้างคาวอับอายจึงหนีไปอยู่ถ้ำและออกหากินเฉพาะเวลากลางคืนเท่านั้น

     เรื่องก็จบลงแค่นี้แหละครับ นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า

   "ผู้ที่ขาดความจริงใจ ไม่มีใครอยากคบหาด้วย"

ช่วงเช้าของวันอาทิตย์ ณ ศาลาริมทุ่งของหมู่บ้านแห่งนี้ ห่างจากบ้านผมประมาณ๑๐๐เมตร

เทียนพรรษาและสำรับอาหารหวานคาวที่ทุกคนเตรียมมาเข้าพิธีและถวายพระฉันเพล

พิธีเสร็จพระก็ฉันเพล

เรามาพักสายตากันกับท้องทุ่งข้างศาลา

บอนจีน หรือ ตาลปัตรฤาษี หรือผักก้านจองในทุ่งนา

อีกด้านของท้องนา

และใต้กอไผ่ด้านหลังของศาลา น้องคนหนึ่งไปเจอเห็ดโคนกลุ่มนี้.. ทำบุญแล้วโชคดี ว่าเข้าไป

"ถ่ายผมมั่งแหละลุงเสิน ถ่ายแต่ไอ้อื่น ผมก็หล่อเหมือนกันล่ะ อิอิ"

พระฉันเสร็จก็ล้อมวงทานข้าวกัน

บีฟอร์

อัฟเตอร์... ตัวใครตัวมัน

เช้านี้(วันจันทร์) ณ วัดพลานุภาพ หรือวัดทุ่งพลา ห่างจากบ้านประมาณ๒กิโลเมตรกว่าๆ

ร่วมทำบุญตักบาตรเข้าพรรษา

    ในเทศกาลช่วงเข้าพรรษานี้ทุกท่านคงมีโอกาสได้ร่วมทำบุญกัน ขอให้มีความสุขทุกท่านนะครับ สวัสดี.