ปั่นจักรยานท่องเมืองเก่าและทำผ้ามัดย้อมคราม Ride in Sukhothai Historical Park and made natural indigo dyeing

สวัสดีเพื่อนสมาชิกบ้านสวนพอเพียงทุกท่าน สัปดาห์ที่ผ่านมาไร่สุโขทัยนี้ดีมีโอกาสต้อนรับคณะผู้เข้าร่วมประชุมของคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ผู้ร่วมประชุมก็มาจากหลายชาติของอาเซียนประกอบด้วย ลาว เวียดนาม กัมพูชา มาเลเซีย ฟิลิปินส์ อินโดนีเซียและไทย ไร่สุโขทัยนี้ดีได้รับการประสานให้จัดกิจกรรมแก่ชาวคณะฯ จึงได้เลือกกิจกรรมปั่นจักรยานท่องเมืองเก่าและทำผ้ามัดย้อมครามให้กับแขกผู้มาเยือนครับ หลายท่านอาจได้เคยอ่านหรือผ่านตา Blog ที่ผมเคยเขียนไว้เมื่อครั้งก่อน ๆ หรือ Blog ที่ผมได้ไปขี่จักรยานท่องเที่ยว ณ ประเทศญี่ปุ่น ผมมีความรู้สึกว่าอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยนั้นเหมาะสมอย่างมากสำหรับรูปแบบการท่องเที่ยวด้วยการขี่จักรยาน ขอเพียงทุกฝ่ายทุกคนได้มาร่วมมือพัฒนาปรับปรุงจุดที่สมควรปรับปรุงน่าจะทำให้ดีขึ้นยิ่งไปกว่านี้ได้อีก (ถ้าไปกันคนละทาง Convert! ก็คงไปเรื่อย ๆ แต่อาจจะช้าหน่อย)

กิจกรรมเริ่มด้วยนักท่องเที่ยวมาถึงประมาณ 9 โมงเช้า หลังจากทำธุระส่วนตัวเรียบร้อยก็เลือกจักรยานที่เหมาะสมทดลองขี่ หลังจากเลือกจักรยานที่เหมาะสมกับตัวแล้ว ชาวคณะฯ เริ่มปั่นจักรยานออกจากบริเวณไร่สุโขทัยนี้ดีลัดเลาะไปด้านข้างของวัดพระพายหลวงเพื่อตรงไปยังโบราณสถานวัดศรีชุม ปั่นจักรยานด้านซ้ายมือเลียบคูน้ำวัดพระพายหลวง บริเวณขวามือจะเห็นเตาทุเรียงเรียงรายตามข้างทาง (ปัจจุบันอยู่ระหว่างการบูรณะให้สมบูรณ์เพื่อเปิดเข้าชมต่อไป) บรรยากาศสองข้างทางร่มรื่นประกอบกับวันนี้พระอาทิตย์ไม่ค่อยโผล่ออกมาและมีต้นไม้ตามรายทางสามารถสูดอากาศสดชื่นบริสุทธิ์ครับ ปั่นจักรยานมาไม่ถึง 10 นาทีก็ถึงบริเวณโบราณสถานวัดศรีชุม ซึ่งเป็นสถานที่แห่งแรกตามกำหนดการ

การทำกิจกรรมบางครั้งมักมีอุปสรรคเล็ก ๆ น้อย ๆ เกิดขึ้นได้ตลอด อาทิเช่น บางท่านปั่นจักรยานไม่เป็น (จัดให้นั่งรถยนต์หรือนั่งซ้อนจักรยาน) บางท่านเข่าไม่ดี (จัดจักรยานแบบปั่น 2 คน) หรือบางท่านเป็นมุสลิม ผมก็ไม่แน่ใจว่าท่านจะเข้าวัดหรือไม่ (คำอธิบายผมคือเป็นโบราณสถานที่นักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชม ทั้งชาวพุทธ คริสต์ อิสลาม ฮินดู ฯ ก็สามารถมาเยี่ยมชมได้โดยไม่ต้องทำความเคารพ –ปัจจุบันไม่มีพระจำพรรษา ณ สถานที่แห่งนี้) (ก็วัดใจว่าชาวต่างชาติที่ไม่ได้นับถือพุทธจะเข้าหรือไม่ สรุปว่าทุกคนเข้าครับ)

ผมก็นำชาวคณะฯ ทั้งหมดเยี่ยมชมพร้อมบรรยายเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยประกอบ อาทิเช่น ตำนานพระพูดได้ (พระอัจนะ) ภาพลักษณ์ของ Big Hand Buddha ที่คนมักกล่าวถึง ต้นมะม่วง (กะล่อน) ขนาดใหญ่เป็นต้น ผมรับรู้ถึงความรู้สึกทุกท่านที่มาประทับใจครับโดยไม่เกี่ยงว่านับถือศาสนาอะไร พวกเราได้ร่วมกันถ่ายรูปหมู่เป็นที่ระลึกครับ

สถานที่แห่งที่สองคือโบราณสถานวัดสะพานหิน เช่นเดิมครับทุกท่านเริ่มปั่นจักรยานออกจากวัดศรีชุมตรงไปยังวัดสะพานหินใช้เวลาเพิ่มขึ้นนิดหน่อยประมาณ 15 นาที แต่ทุกคนก็ยังไม่มีท่าทีเหนื่อยล้ายังคงสนุกกับการตั้งหน้าตั้งตาปั่นจักรยานไปเรื่อย ๆ ครับ หลังจากทุกท่านมาถึงก็พักผ่อนโดยจัดน้ำดื่มไว้รับประทานกับของว่างเล็กน้อย พร้อม ๆ กับรับดอกไม้เพื่อนำไปถวายพระอัฎฐารสด้านบนของวัดสะพานหิน ชาวคณะนักท่องเที่ยวก็เดินขึ้นตามสะพานหินที่เรียงไว้ทอดยาวขึ้นสู่ด้านบนเปรียบเหมือนขึ้นสู่สรวงสวรรค์ตามคติความเชื่อครับ เมื่อถึงด้านบนทุกท่านที่นับถือศาสนาพุทธก็กราบสักการะพระพุทธรูป (พระอัฎฐารส) เพื่อเป็นศิริมงคล ส่วนท่านที่ไม่ได้นับถือศาสนาพุทธก็เดินชมทิวทัศน์ครับ จากนั้นก็ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกสักเล็กน้อยครับ

หลังจากเดินลงมาเรียบร้อยร้อยแล้ว ชาวคณะฯ ก็ปั่นจักรยานมุ่งสู่ใจกลางอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ณ บริเวณแห่งนี้จัดให้ทุกท่านขี่จักรยานชมตามอัธยาศัย หากบางท่านที่สนใจนอกเหนือจากเส้นทางที่ผมแนะนำ โดยผมขี่จักรยานนำชมไปยังวัดสระศรี วัดตระพังเงิน วัดศรีสวาย วัดมหาธาตุ และรูปสักการะพ่อขุนรามคำแหงตามลำดับ เมื่อได้เวลาประมาณเที่ยงวัน บางท่านเริ่มร้องถามอาหารจึงได้นำขี่จักรยานจากใจกลางอุทยานไปยังไร่สุโขทัยนี้ดีประมาณ 5 นาทีเศษก็ถึงครับ

ช่วงพักกลางวันนอกจากรับประทานอาหารแล้ว จัดให้สมกับนักท่องเที่ยวต่างชาติ เลยจัดให้น้องตีระนาดตามคอนเซ็ป อาหารดี-ดนตรีไพเราะครับ อาหารทั้งคาว-หวาน ผลไม้พร้อมเครื่องดื่มจัดเสริฟ์จนทุกท่านอิ่มเต็มที่ (ไม่อิ่มไม่ให้กลับ 555) น้องก็ได้รับทิปเล็ก ๆ น้อย ๆ สร้างความดีใจให้กับน้องที่อุตส่าห์ฝึกฝนมาครับ

กิจกรรมช่วงบ่ายผมจัดการโยนงานให้คุณแม่บ้านครับ (จริง ๆ ให้เป็นผู้นำครับ แฮ่ ๆ) เริ่มต้นด้วยการแนะนำที่มาของผ้าย้อมคราม ต้นคราม อธิบายวิธีการได้มาของเนื้อคราม การทำผ้ามัดย้อมครามด้วยเทคนิคชิโบริ (การพับผ้าก่อนย้อมเพื่อให้เกิดลวดลายตามต้องการ) เนื่องด้วยทุก ๆ ท่านที่มาต่างไม่มีประสบการณ์หรือเคยทำมาก่อน จึงรู้สึกสนอกสนใจมาก ถามจนตอบไม่ค่อยทัน แต่โดยรวมเป็นการสาธิตตัวอย่างลวดลายที่จะเกิดขึ้นจากการพับ/มัดผ้า หลังจากนั้นทุกท่านก็ได้ใช้ความคิด ideas ของตนเองเพื่อจะประดิษฐ์ลวดลายขึ้นมา ทุกท่านก็ได้ทำตามกรรมวิธีที่ได้อธิบายไว้แต่ละขั้นตอน จนสุดท้ายทุก ๆ ท่านก็ได้ชมผลงานฝีมือของตนเอง DIY. (Do It Yourself)

สุดท้ายชาวคณะฯ ที่ได้มาร่วมกิจกรรมต่างได้รับประสบการณ์ (ขี่จักรยาน) และผลงาน (ผ้าย้อมคราม) กลับไป แต่ละท่านก็ได้กล่าวถึงความประทับใจกับกิจกรรมที่จัดให้ ผมก็ขอขอบคุณชาวคณะฯ เช่นกันที่ได้รับความไว้วางใจให้จัดกิจกรรมให้ครับ หากมีโอกาสก็กลับมาเยี่ยมเยือนกันได้ครับ สำหรับผ้าย้อมครามของทีมงานก็นำมาใช้กับที่ร้านครับ สวัสดีครับ Enjoy