เชื่อว่าสำหรับครอบครัวที่มีผู้ป่วยเป็นโรคเส้นเลือดในสมองตีบ คงมีความกังวลใจอยู่ไม่น้อย ว่าจะต้องดูแลรักษาอย่างไรให้เหมาะสม เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถใช้ชีวิตร่วมกับคนที่เขารักต่อไปได้ ดังนั้น เพื่อเป็นการช่วยคลายความกังวลใจให้แก่คุณ เราจะพาไปรู้จักกับโรคเส้นเลือดในสมองตีบให้มากขึ้น พร้อมมีแนวทางในการดูแลรักษามาบอกกัน ตามไปดูในบทความนี้เลย
โรคเส้นเลือดในสมองตีบคืออะไร
โรคหลอดเลือดสมองตีบ (Ischemic Stroke) คือ ภาวะที่สมองขาดเลือดไปเลี้ยง เพราะมีการอุดตันของเส้นเลือดที่นำเลือดไปเลี้ยงสมองส่วนต่าง ๆ ส่งผลให้สมองขาดเลือด อยู่ในภาวะที่ทำงานไม่ได้ กลายเป็นโรคหลอดเลือดสมองตีบตัน อาการเบื้องต้นที่พบบ่อยของ โรคหลอดเลือดสมองตีบตันได้แก่
-
อ่อนแรงหรือชาครึ่งซีก มักเกิดที่ใบหน้า แขน หรือขาข้างใดข้างหนึ่ง
-
พูดไม่ชัดหรือพูดลำบาก
-
มองเห็นภาพซ้อนหรือตามัว
-
เวียนศีรษะหรือทรงตัวไม่อยู่
-
ปวดศีรษะอย่างรุนแรง
-
มีปัญหาในการคิดหรือตัดสินใจ
โรคเส้นเลือดในสมองตีบมีวิธีรักษาอย่างไร
โรคเส้นเลือดในสมองตีบ มีวิธีการรักษาขึ้นอยู่กับความรุนแรงและระยะเวลาตั้งแต่ผู้ป่วยเริ่มมีอาการ โดยแบ่งตามลักษณะของโรค ดังนี้
-
หากผู้ป่วยมาพบแพทย์ภายในระยะเวลาไม่เกิน 4.5 ชั่วโมงนับจากมีอาการ แพทย์อาจพิจารณาให้การรักษาด้วยยาละลายลิ่มเลือด (rtPA) เพื่อละลายลิ่มเลือดที่อุดตันหลอดเลือดอยู่ออกเพื่อช่วยให้เลือดกลับไปเลี้ยงสมองอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ยาละลายลิ่มเลือดอาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น เลือดออกในสมอง ดังนั้น แพทย์จะพิจารณาให้การรักษาเฉพาะในกรณีที่เหมาะสมเท่านั้น
-
หากผู้ป่วยมาพบแพทย์หลังจาก 4.5 ชั่วโมงไปแล้ว แพทย์อาจพิจารณาให้การรักษาด้วยการผ่าตัดหลอดเลือดสมอง เช่น การใส่ขดลวดเพื่อขยายหลอดเลือดสมอง หรือการผ่าตัดเปิดหลอดเลือดสมองเพื่อเอาลิ่มเลือดออก
-
ผู้ป่วยโรคเส้นเลือดในสมองตีบแตกส่วนใหญ่จะได้รับการรักษาด้วยการผ่าตัด เพื่อห้ามเลือด ซึ่งอาจใช้วิธีการผ่าตัดเปิดสมองหรือการผ่าตัดหลอดเลือดสมอง
นอกจากการรักษาด้วยวิธีทางการแพทย์แล้ว ผู้ป่วยโรคเส้นเลือดในสมองตีบยังควรได้รับการรักษาด้วยการฟื้นฟูสมรรถภาพเพื่อลดผลกระทบจากอาการที่เกิดขึ้น เช่น การฟื้นฟูการเดิน การฟื้นฟูการพูด การฟื้นฟูการกลืนอาหาร เป็นต้น
วิธีการป้องกันโรคเส้นเลือดในสมองตีบ
โรคหลอดเลือดสมองตีบเป็นภาวะที่ป้องกันได้ โดยสามารถลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหลอดเลือดสมองตีบได้ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและการดูแลสุขภาพ ดังนี้
-
ควบคุมปัจจัยเสี่ยง ที่ทำให้เกิดโรคหลอดเลือดสมองตีบ ได้แก่ ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง เบาหวาน การสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์ โรคหัวใจ เป็นต้น ดังนั้น ควรควบคุมปัจจัยเสี่ยงเหล่านี้ให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
-
ควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ครบ 5 หมู่ หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง โดยเฉพาะไขมันอิ่มตัว อาหารที่มีน้ำตาลสูง และอาหารที่มีโซเดียมสูง
-
ควรออกกำลังกายอย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน อย่างน้อย 5 วันต่อสัปดาห์
-
ควรนอนหลับพักผ่อนอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมงต่อคืน
-
ควรรักษาน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
-
ควรเลิกสูบบุหรี่
-
ควรดื่มแอลกอฮอล์ให้อยู่ในปริมาณที่พอเหมาะ