ปั่นจักรยานเที่ยวไทยไปได้ค่ะ ตอน เขาคอหงส์ หาดใหญ่ ไปมาแล้ว

อ้อยหวานกลับบ้านคราวนี้ ไม่ได้อยู่ในแผน ที่วางไว้ แผนเดิมคือกลับบ้านหลังปีใหม่ จะได้ไปไว้พระ ทำบุญกับแม่ กลับบ้านเร็วไปนิดก็ดีเหมือนกัน ทำให้เจอเพื่อนเก่าที่ห่างหายไปนานแสนนาน…

เพื่อนเก่าคือ..ฟ้าฝนของปักษ์ใต้  ฝนฟ้าที่ตกแบบไม่ลืมหูลืมตา ตกได้ตกดี จนทำให้หลายๆพื้นที่ต้องอยู่ใต้น้ำ ..หวัดดีเพื่อน ไม่ได้เจอกันนาน เกือบลืมไปเลยว่า เพื่อนเป็นยังไง คราวนี้ได้เจอเพื่อนจนจุใจ เอาไว้อีกหลายปีค่อยมาเจอกันอีกนะ

ถึงแม้ฟ้าฝนไม่เป็นใจ แต่อ้อยหวานก็ถือโอกาสที่ฟ้าหยุดพัก (ซึ่งมีค่อนข้างน้อย) ออกไปปั่นจักรยานเที่ยว ทำให้มีรูปและเรื่องมาเล่าสู่กันฟัง

กลับเมืองไทยคราวนี้เริ่มต้นที่หาดใหญ่ค่ะ หลังจากที่ติดฝน ไปไหนมาไหนไม่ได้ถึง 5-6 วัน เช้าวันสุดท้ายก่อนออกจากหาดใหญ่ อ้อยหวานคิดว่าเป็นไงเป็นกัน ฝนตกหรือไม่ ก็จะเอาจักรยานคันเก่าออกไปปั่น

จุดหมายที่อยากไปชมไม่ใกล้ไม่ไกลจากที่พัก (บ้านน้องสาว) คือ เขาคอหงส์  ที่เห็นแว็ปไปแว็ปมา ขนะนั่งรถผ่าน เช้านี้ฝนตกโปรยปรายเล็กน้อย พอให้เย็นสบาย

แวะกินขนมอร่อยๆ รองท้อง ไม่มีที่ไหนในโลก ที่จะมีของกินอร่อยๆ ทำสดๆ ใหม่ๆ ขาย ในเวลาหกโมงเช้า เท่าประเทศไทย ขนมครกเป็นขนมที่อร่อยมากในความเห็นของอ้อยหวาน กลิ่นกะทิหอมกลุ่น รสชาติทั้งหวาน ทั้งมัน เปลือกที่กรอบกรุ้บ แถมยิ้มสยามของแม่ค้า อิ่ม อร่อย สิบบาท

ก่อนไป อ้อยหวานไม่มีข้อมูลของเขาคอหงส์เลย เช่นไม่รู้ว่าสูงแค่ไหน?  ขึ้นเขาทางไหน?  มีอะไรให้ชมบนเขา?  นึกอยากจะปั่นขึ้นเขาก็ไปเลย เรียกว่าไปเจอเอาข้างหน้า ไปถึงสวนสาธารณะแล้วค่อยไปหาทางขึ้นเขาเอา  และแล้วก็ขึ้นผิดทางจนได้ ย้อนศรเสียด้วย ทางขึ้น (ทางลง) ต้นไม้ร่มครึ้ม แวะถามทางที่ร้านอาหารบนเขา ทำให้รู้ว่าทางที่อ้อยหวานขึ้นมานั้น เป็นทางอ้อม เส้นทางเปรี่ยวและชันกว่าอีกทางหนึ่ง จึงจำใจต้องกลับลงไปตั้งต้นใหม่

แต่ขึ้นทางผิดก็ไม่เสียเปล่า เพราะทำให้ได้เจอะเจอน้ำใจคนไทย พี่ที่ร้านอาหารบนเขาบอกทางให้เสร็จ ก็เฉาะมะพร้าวอ่อนยื่นให้  ปั่นมาเหนื่อยๆ น้ำมะพร้าวหอมเย็นชื่นใจ แต่น้ำใจเย็นชื่นจิต ขอบคุณมากค่ะ

ทางขึ้นอีกทางดีกว่าจริงๆ มีศาลาให้พักหลบฝนด้วย

ถนนโล่งไม่ร่มครึ้ม แถมมีน้ำตกของแถมจากฟ้าฝน ให้ดูเป็นระยะๆ

ถนนโค้งสวย อากาศบริสุทธิ์ เข็น เอ้ย ปั่นขึ้นเขาแบบสบายๆ

ไม่นานก็มาถึงจุดนี้ เจ้าแม่กวนอิมหยก (ขาว) ปางประทานพร

****************************************

ประวัติการก่อสร้างเจ้าแม่กวนอิมหยก

พระโพธิสัตว์กวนอิมปางประทานพรองค์นี้ สร้างด้วยหินหยกสีขาว โดยนายเคร่ง สุวรรณวงศ์ นายกเทศมนตรีเทศบาลนครหาดใหญ่ พร้อมด้วยคณะเทศมนตรีและข้าราชการพ่อค้าประชาชนรวมทั้งสมาคมมูลนิธิหาดใหญ่ทั้ง 13 สมาคม ร่วมใจกันสร้างถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 เนื่องในอภิลักขิตมงคลสมัยที่ทรงครองสิริราชสมบัติ ครบ 50 ปี พระโพธิสัตว์กวนอิมแกะสลักโดยช่างชาวจีนจากมณฑลเห่ยเป่ย ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ทั้งองค์แบ่งเป็นหินหยกขาว จำนวน 8 ท่อน ขนาดความสูง 9.90 เมตร น้ำหนักโดยรวมประมาณ 80 ตัน นำขึ้นประดิษฐานบนเขาคอหงส์ ภายในสวนสาธารณะเทศบาลนครหาดใหญ่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ได้ทำการพิธีมหาพุทธาภิเษกและสมโภชเป็นเวลา 3 วัน ในวันพุธที่ 7 เมษายน 2540 เริ่มต้นด้วยพิธีจีน นำโดยพระคณาจารย์จีนธรรมสมาธิวัตร (เย็นเต็ก) เจ้าคณะใหญ่ฝ่ายจีน พิธีพุทธาภิเษกนำโดยสมเด็จพุฒาจารย์ (เกี่ยว) วัดสระเกศ เป็นองค์ประธานจุดเทียนชัย พร้อมพระเกจิอาจารย์ชื่อดังทั่วประเทศกว่า 200 องค์ ร่วมนั่งปรกอธิษฐานจิต ในวันศุกร์ที่ 9 เมษายน 2540 สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปรินายก ได้ถวายให้สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ เป็นองค์ประธานดับเทียนชัยและทำพิธีเปิดผ้าแพรคลุมองค์พระโพธิสัตว์กวนอิม เวลา 15.39 น. และก่อนถึงเวลาที่จะทำพิธีดับเทียนชัย ฝนได้ตกลงมาอย่างหนัก พอเสร็จพิธีกรรมของสงฆ์ฝนได้หยุดตกอย่างเป็นที่อัศจรรย์

ขอบคุณ ข้อมูลจาก touronthai.com

ภายใต้ที่ประดิษฐานขององค์เจ้าแม่กวนอิม

ไปกันต่อค่ะ จากจุดนี้ไป อ้อยหวานมีผู้นำทางและผู้ผู้คุ้มกันติดตามไปด้วย ทางชันได้ใจจริงๆ

แล้วผู้นำทางก็พามาถึงจุดนี้ ก่อนที่จะแยกย้ายกันไป

พระพุทธรูปประจำเมืองหาดใหญ่ พระพุทธมงคลมหาราช เป็นพระพุทธรูปปางห้ามญาติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามของพระพุทธรูปนี้ว่า “พระพุทธมงคลมหาราช” ณ วันที่ 12 ตุลาคม พ.ศ.2542 โดยมี สมเด็จพระญารสังวร สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังคปรินายกเสด็จเป็นองค์ประธานพิธีเททองพระหัตถ์พระพุทธมงคลมหาราช ณ มณฑลพิธีพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม เมื่อวันอาทิตย์ที่ 19 มีนาคม พ.ศ.2543 จากนั้นสมเด็จพระเทพรัตนสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จทรงประกอบพิธีเททองหล่อพระเกตุมาลาเมื่อวันพฤหัสที่ 10 สิงหาคม พ.ศ.2553 ขึ้นมายังเขาคอหงส์

ขอบคุณ ข้อมูลจาก เมืองไทย ดอท คอม

ลานด้านหน้าของพระพุทธรูป เป็นจุดชมวิว

มองเห็นเมืองหาดใหญ่ท่ามกลางเมฆฝน

มองไกลออกไปคือ มัสยิดกลาง ศูนย์รวมจิตใจของชาวมุสลิม ในสงขลา และทะเลสาบสงขลาเป็นฉากหลัง

มัสยิดกลางประจำจังหวัดสงขลา เริ่มตอกเสาเข็มต้นแรกเมื่อวันที่ 18 มกราคม 2545 มีความยาว 17 เมตร จำนวน 433 ต้น ซึ่งการก่อสร้างได้ดำเนินการในระยะที่ 1 ตั้งแต่ปี 2544 – 2548 งานก่อสร้างโครงสร้างอาคารมัสยิดได้แล้วเสร็จเมื่อปี 2548

ขอบคุณ ข้อมูลจาก ศูนย์ข้อมูลกลางทางวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม

บันไดลงไปสู่เจ้าแม่กวนอิมหยก

สระน้ำของสวนสาธารณะเทศบาลหาดใหญ่ และเจดีย์วัดคลองเปล

อ้อยหวานได้เดินเล่นเก็บภาพ ไปอย่างสุขใจ เช้าๆอย่างนี้ ยังไม่มีผู้คนอื่นใด

สุขและสงบ

จนอยากหยุดเวลา

ไว้ที่ตรงนี้

ก้อนหิน ใบโพธิ์ ….กลมกลืน

แล้วต้องตกใจ ความสงบแตกกระเจิง จนเกือบทำกล้องหล่น เพราะเจ้าตัวนี้

เธอคือ หนอนหัวฆ้อน หรือไส้เดือนหัวฆ้อน (Hammerhead worm) ชื่อ สามัญคือ land planaria (Bipalium kewense) หนอนชนิดนี้พบได้ในเขตร้อนชื้น เจอทั้งออสเตรเลีย อเมริกา เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การกระจายค่อนข้างกว้าง อาหารที่ชื่นชอบของไส้เดือนหัวฆ้อนคือ ไส้เดือน

ขอบคุณ ข้อมูลจาก  WIKIPEDIA

http://en.wikipedia.org/wiki/Bipalium

ขณะนี้ที่เขียนบล็อกนี้ ที่ออตตาวา แคนาดา หิมะกำลังตกค่ะ เลยได้ทดลองลงภาพนี้ 

อ่านรายละเอียดเขาคอหงส์ และ หาดใหญ่ ได้ที่นี่ค่ะ

http://www.rakkhaokhohong.psu.ac.th/2011-07-22-05-14-45/58-article.html

http://www.muangthai.com/thaidata/71935

http://www.touronthai.com/%E0%B8%AA%E0%B8%A7%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%98%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%93%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%A8%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%8D%E0%B9%88-74000017.html#.Uq1f6ifsuSo

http://m-culture.in.th/album/114690/

โปรดติดตามอ้อยหวานเล่าเรื่อง ปั่นจักรยานเที่ยวไทยไปได้ค่ะ ในตอนต่อไป

ขอให้เพื่อนๆมีแต่ความสุข

ขอบคุณค่ะ

 อ้อยหวาน