เล่าสู่กันฟัง เรื่องของมะเดื่อ ตอน มะเดื่อปล้อง มะเดื่ออุทุมพร

หมวดหมู่ของบล็อก: 

 

     Laughing สวัสดีครับทุกท่าน ห่างหายกันไปหลายวัน  ไปหาเก็บภาพต้นมะเดื่อมาครับ  วันนี้เอามาเล่าอีกสัก๒ต้น ถ้าเราสังเกตดีๆก็จะเห็นความแตกต่างของมะเดื่อ๒ต้นจากบล็อกที่ผ่านมาอย่างเห็นได้ชัด  ไม่ว่าจะเป็นลักษณะ ต้น ใบ ผล สีของผล รูปทรง และขนาด จะต่างกัน..วันนี้ มีมะเดื่อชื่ออะไรติดตามผมมาเลยครับ

มารู้จักกับต้นแรก

มะเดื่อปล้อง, เดื่อปล้อง, เดือย, เดือยปล้อง

   มะเดื่อปล้อง หลายภาค หลายถิ่น หลายที่เรียกแตกต่างกัน ทางใต้มักจะเรียกสั้นๆว่า” เดือย”หรือว่า"ลูกเดือย" ไม้ต้นนี้มีการนำมาใช้ประโยชน์กันน้อยมาก ไม้ก็เนื้ออ่อน ยอดผมก็ไม่เคยลองกินนะ เพราะ ใบคายสากมือมาก ผลอ่อนกินได้แต่ไม่อร่อยชิมแล้ว จึงไม่นิยมกินกัน

มะเดื่อปล้อง เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงใหญ่  สูงได้ถึง12เมตร ไม่ผลัดใบ ต้นและกิ่งมีลักษณะเป็นข้อปล้องชัดเจน ทุกส่วนของต้นมีน้ำยางขาวขุ่น  ท่านใดอยากทราบการใช้ประโยชน์และข้อมูลเพิ่มเติม ค้นได้จากกูเกิ้ล หรือดูจากลิงค์เหล่านี้ได้ครับ http://www.phargarden.com/main.php?action=viewpage&pid=261

หรือ

http://frynn.com/%E0%B8%A1%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87/

    

มะเดื่อปล้องขึ้นง่าย โตได้ทุกที่ มีอยู่ทั่วไป ส่วนที่นำมาให้ชมนี้เป็นต้นข้างกำแพงข้างบ้านผมเองครับ

ต้นต่อมา

มะเดื่ออุทุมพร,มะเดื่อชุมพร

  ไม้ต้นนี้ผมรู้จักมาพอสมควร ที่บ้านปลูกไว้แล้วหนึ่งต้นแต่ยังไม่ติดผล มะเดื่ออุทุมพร หรือมะเดื่อชุมพรนี้ นิยมปลูกไว้กินผลอ่อน เป็นผักเคียงได้หลายเมนูอาหาร ผลสุกรสชาติไม่ดีเท่าไหร่ไม่นิยมกินผลสุกกัน ผมเคยนำรายละเอียดมาลงไว้ที่นี่ http://www.bansuanporpeang.com/node/26622

ลองเข้าไปดูนะครับ หรือจะดูเพิ่มเติมจากกูเกิ้ล ตามลิ้งค์นี้ก็ได้ครับ

http://frynn.com/%E0%B8%A1%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B8%B7%E0%B9%88%...

 

ต้นนี้อยู่ที่วัดแหลมวัง ต.คูขุด อ.สทิงพระ จ.สงขลา

    

ส่วนต้นนี้อยู่ใกล้ๆตัวอ.สทิงพระ โดนพายุเมื่อปี๕๔ เจ้าของเผาไปเรียบร้อยแล้ว

   

จากภาพแรกทั้งสองภาพ จะเห็นได้ว่า ผลมะเดื่อปล้อง กับ ผลมะเดื่ออุทุมพร มีความแตกต่างกันชัดเจ นทั้งรูปทรงและที่ก้านผล ถัดมาลักษณะใบ ก็ไม่เหมือนกันอีก ใบมะเดื่ออุทุมพรจะคล้ายใบฉิ่งมากกว่า หน้าและหลังใบไม่มีขน ส่วนมะเดื่อปล้องจับดูใบจะคาย สากมือมากเพราะมีขนด้วย

    สำหรับมะเดื่อทั้งสองชนิดที่นำมาเล่าวันนี้ ข้อมูลอาจไม่สมบูรณ์นัก แต่คิดว่าหลายท่านพอจะแยกได้ว่าต้นไหนเป็น มะเดื่อปล้อง ต้นไหนมะเดื่ออุทุมพร หากสงสัยสอบถามมาได้ครับ สวัสดี.

ความเห็น

ครับ ผมก็ชอบมะเดื่ออุทุมพร รสชาติมันดี กรอบอีกต่างหาก

..โอกาสไม่ได้มีทุกวัน..

 

ชอบมะเดื่อฉิ่งค่ะ อร่อยดี

งั้นบล็อกหน้ามากินนะน้อง

..โอกาสไม่ได้มีทุกวัน..

 

พี่เสิน ต้นส้มมวงยังเหลยม้าย ที่เอามาวันกอนนานแล้วติดนะ ต้มโดกหมูกินประจำหลายปีแล้ว แต่ที่บ้านแม่หาม้ายที อีหาสักต้นเหลย อิอิ ชอบส้ม ๆ

 

 

msn:lekonshore@hotmail.com

ชีวิตคนเรานั้นสั้นนัก จงมีความสุข สนุกกับชีวิต อย่ามัวคิดอิจฉาใคร

อ้ะ !!... น้องเล็ก เขาแหลงต้นเดือย ไปส้มมวงเฉยเลย

ยังลุยแหม็ด ทั้งต้นเล็กต้นใหญ่ พี่ว่าต้นเล็กๆอย่าปลูกเหลยไม่ได้กินง่าย เสียเวลา มาขุดเอาต้นใหญ่ดีหวา พารถมาขนเอาเลย อิอิ...

..โอกาสไม่ได้มีทุกวัน..

 

เดื่อปล้อง เมี่อสัก 30 กว่าปีที่แล้วตามริมทางเคยเก็บลูกสุกกินก็อร่อยดี แต่มะเดื่ออุทุมพรกับลูกฉิ่งบ้านเราคล้าย ๆ กันนะครับพี่เสิน

 การทำงานต้องรู้จริงทำจริงจึงประสบกับความสำเร็จ

สมัยก่อนที่น้องว่า น่าจะไม่ใช่มะเดื่อปล้องครับ เพราะพี่ก็เคยเก็บกินเหมือนกัน ผลออกสีชมพูแดง แถวบ้านพี่เขาเรียกลูกด็อง(เสียงขึ้นจมูก) ปัจจุบันหาต้นไม่ได้แล้ว

ครับ มะเดื่ออุทุมพร กับฉิ่ง ถ้าไม่สังเกตก็คล้ายกัน ถ้าเราจำอะไรได้บ้างก็จะแยกได้ชัดครับ คือ มะเดื่ออุทุมพรก้านผลสั้น ผลโตกว่า เนื้อแน่นกว่า ช่วงผลอ่อนจะไม่มีช่องว่าในผลเลยครับ

..โอกาสไม่ได้มีทุกวัน..

 

ขอบคุณพี่เสินสำหรับข้อมูลดีๆ ลูกฉิ่งแกงได้ค่ะ เคยใส่ในแกงไตปลาหรอยดี

ความพอเพียงจะทำให้ชีวิตมีความสุขแบบยั่งยืน

ครับ แกงกับเนื้อก็ใช้ได้น้อง หลงเข้ากันไม่รู้ชิ้นไหนเนื้อชิ้นไหนลูกฉิ่ง ฮ่าา

..โอกาสไม่ได้มีทุกวัน..

 

เคยเห็นทุกมะเดื่อคะแต่ไม่รู้จักชื่อน่าจะกินผลสุกได้นะคะ เสียดายจัง ได้ความรู้มากเลยคะพี่เสิน

ความสะดวกสบายมีขาย แต่ความสุขเงินซื้อไม่ได้ เพราะความสุขมิใช่เงิน

หน้า