เล่าจื๊อ สุดยอดปรัชญาทางการบริหาร

หมวดหมู่ของบล็อก: 

เล่าจื๊อ

 

เล่าจื๊อผู้ก่อกำเนิดลัทธิเต๋า ได้ให้คำจำกัดความสำหรับผู้บริหารที่ดีต้องมีคุณสมบัติเปรียบกับธรรมชาติดังนี้

ฮุ้ง(ภาษาจีนแต้จิ๋ว) แปลว่าเมฆ กล่าวคือผู้นำต้องอยู่สูงเหมือนเมฆ จะได้มีสายตาที่กว้างไกลมองเห็นรอบด้าน เปรียบเสมือนผู้นำต้องมีวิสัยทัศน์(Vision) นั่นเอง

 

ซัว(ภาษาจีนแต้จิ๋ว)แปลว่าภูเขา กล่าวคือผู้นำต้องมีใจหนักแน่นดั่งขุนเขา ต้องไม่เป็นคนหูเบา.

 

ฉิว(ภาษาจีนแต้จิ๋ว)แปลว่าต้นไม้ กล่าวคือผู้นำต้องเหมือนต้นไม้ใหญ่ มีกิ่งก้านและร่มเงาให้นกกามาเกาะและอาศัยได้ เสมือนว่าให้บริวารพึ่งพาอาศัยได้นั่นเอง

 

จุ้ย(ภาษาจีนแต้จิ๋ว)แปลว่าน้ำ กล่าวคือผู้นำต้องเปรียบเสมือนน้ำไม่ว่าอยู่ในภาชนะใดๆก็สามารถปรับตัวให้เข้ากับภาขนะนั้นๆได้ เสมือนว่าผู้นำต้องรู้จักปรับตัวตามสถานการณ์นั่นเอง

 

เล่าจื๊อ

 

ภาพของขงจื๊อตอนที่พบกับเล่าจื๊อ

 

ตอนขงจื๊อได้มาขอพบเล่าจื๊อ ตามประวัติศาสตร์จีนว่ากันว่าขงจื๊ออายุประมาณ35-36ปี ได้มาขอศึกษาจากเล่าจื๊อเพิ่มเติม

ขงจื๊อได้ถามเล่าจื๊อว่า อย่างไรถึงเรียกได้ว่าเป็นความกตัญญูต่อบุตรที่มีต่อบิดามารดา

เล่าจื๊อตอบว่า เพียงท่านปฏิบัติต่อบิดามารดาท่านให้ได้เพียงครึ่งหนึ่งของที่ท่านปฎิบัติต่อบุตรท่าน เท่านี้ก็เรียกได้ว่ากตัญญูแล้ว (ขอบคุณคุณศิลาเทพ เมธีกุศลธาร ที่ให้ข้อมูลจาการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน)

แนวทางของลัทธิเต๋าและลัทธิขงจื๊อ จะแตกต่างกัน ของเต๋าเน้นการปรับตัวเข้ากับธรรมชาติ ส่วนของขงจื๊อค่อนข้างจะทันสมัยกว่า ถึงได้นำมาเป็นหลักในการปกครองบ้านเมืองของจีนในอดีต อย่างไรก็ตามทั้งสองลัทธิล้วนเป็นเสาหลักและแบบอย่างในการนำมาใช้เป็นแนวทางในการปกครองของจีนตลอดมา.


ความเห็น

ขอบคุณค่ะที่นำหลักคิดดีๆมาให้สมช.ได้เปิดโลกทัศน์บ้างค่ะ

แบ่งปันน้ำใจส่งต่อกันไป ....ไม่รู้จบ

ขอบคุณครับสำหลักคิดดีๆ ที่นำมาแบ่งปันครับ

"เพียงท่านปฏิบัติต่อบิดามารดาท่านให้ได้เพียงครึ่งหนึ่งของที่ท่านปฎิบัติต่อบุตรท่าน เท่านี้ก็เรียกได้ว่ากตัญญูแล้ว"




ขอบคุณสำหรับข้อคิดดีๆครับ

หลักการใช้ได้เสมอ ไม่ว่าจะกี่ยุคสมัย

อ่านแล้วได้ความรู้ดีนะคะ  ยังสงสัยว่าท่านผู้นำของประเทศ(ทุกประเทศ)ได้อ่านและปฏิบัติหรือป่าวนะ?

หลักปฏิบัติที่คนเป็นใหญ่แล้ว มักลืมตัว คิดว่าตัวเองเก่งและดีแล้ว ไม่ต้องหาความรู้อีก และยิ่งหูเบา ยิ่งไปกันใหญ่


(ด่าตัวเองหรือเปล่าไม่รู้...)