ยามะเร็ง “สูตรหมอสมหมาย”

หมวดหมู่ของบล็อก: 

อภ.เผยยามะเร็งหมอสมหมายขึ้นทะเบียน อย.

ยามะเร็ง “สูตรหมอสมหมาย” ได้รับการขึ้นทะเบียน อย.แล้ว เป็นยาสมุนไพร

แก้น้ำเหลืองเสีย แต่ติดปัญหา “สมุนไพรปีกไก่ดำ” ขาดแคลน

พูดถึงเจ้า "สมุนไพรปีกไก่ดำ หรือ ม้าอีก่ำ" มีใครรู้จักไหมคะ??

ชื่ออื่นๆขาไก่ , แข้งไก่ดำ , ขาไก่เขียว,กระดูกไก่,

http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryI...

http://hilight.kapook.com/view/51484

สมุนไพรต้านมะเร็ง

จากข้อสรุปที่ว่าร่างกายของคนเรามีเซลล์มะเร็งเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา แต่ถ้าร่างกายเรามีภูมิต้านทานที่ดีมีความสมบูรณ์ แข็งแรง ก็จะสามารถต่อสู้กับโรคมะเร็งได้ ดังนั้นระบบภูมิคุ้มกันที่ถูกทำลายด้วยวิธีต่างๆ ล้วนเป็นสาเหตุสำคัญที่ก่อมะเร็ง ได้แก่ การกินอาหารที่ไม่ถูกต้อง อาหารมีสารพิษ ไม่สะอาด มีสารก่อมะเร็ง การไม่ออกกำลังกาย ความเครียด การอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่เต็มไปด้วยสารพิษรอบๆ แล้ว ปัจจัยต่างๆ เหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการทำลายระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายทั้งนั้น ดังนั้นการป้องกันการเกิดมะเร็งที่ดี คือ การมีพฤติกรรมสุขภาพที่ถูกต้อง โดยเฉพาะการเลือกรับประทานอาหารที่เน้นเป็นอาหารธรรมชาติ เส้นใย (fiber) สูง เช่น ผักพื้นบ้านที่อุดมไปด้วย วิตามิน เอ อี ซี สูง เช่น ผักใบเขียว กระเทียม หัวหอม ข่า  กระเทียม โหระพา ตำลึง มะระ ฯลฯ

 

 

                ตามที่มีข่าวลงในหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 15 ธันวาคม 2543 เกี่ยวกับเครื่องปรุงในต้มยำกุ้งป้องกันการเกิดมะเร็งนั้น ในสูตรของต้มยำกุ้ง ประกอบด้วยเครื่องปรุงหลักที่เป็นสมุนไพร ดังนี้

 

1.              ข่า

2.              ตะไคร้

3.              ใบมะกรูด

4.              พริก

5.              มะนาว

                ตามตำราการแพทย์แผนไทยพบว่า ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด พริก มีรสเผ็ดร้อน มีสรรพคุณตามตำรายาไทยช่วยขับลม ช่วยย่อย แก้ปวดท้อง ช่วยเจริญอาหาร และมีวิตามินซี ช่วยบำรุงร่างกาย กระดูกและฟัน

 

จากข้อมูลทางวิทยาศาสตร์พบว่า

เหง้าข่า     มีน้ำมันหอมระเหย ได้แก่ methyl cinnamate 48 % ,cincol 20-30 % น้ำมันหอมระเหยจากเหง้าข่ามีฤทธิ์ขับลมต้านเชื้อแบคทีเรีย และมีฤทธิ์ต้านเชื้อรา นอกจากนี้ยังไม่พบพิษเฉียบพลันและพิษเรื้อรัง และไม่มีฤทธิ์ก่อสารกลายพันธุ์

ตะไคร้   ใบและลำต้นประกอบด้วยน้ำมันหอมระเหยและสารประกอบที่สำคัญ ได้แก่  citral 65-85%, myrcene, citronellal, geraniol , menthol , citxonellol, engenol  มีฤทธิ์ขับลม ลดการบีบตัวของลำไส้ มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียและเชื้อราบางชนิด

พริก  มีสารสำคัญคือ มีวิตามินซีสูง มีสารที่มีฤทธิ์เป็นแอนตี้ออกซิแดนท์แต่ในขณะเดียวกันสารแคบไซซินในพริกจะทำให้เกิดการระคายเคือง ไม่ควรใช้ในปริมาณมาก โดยเฉพาะรายที่เป็นโรคกระเพาะอาหารอักเสบ

ใบมะกรูด  มีน้ำมันหอมระเหย มีฤทธิ์ช่วยขับลมในลำไส้

มะนาว   ผิวเปลือกมีสารสำคัญเป็นน้ำมันหอมระเหย มีฤทธิ์ขับลม แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ ส่วนน้ำมะนาวมีสาร slaronoid , oranic  acid , citral และวิตามินซี ช่วยรักษาโรคลักปิดลักเปิด ขับเสมหะ แก้ไอ

                ดังนั้น จึงสรุปได้ว่าในเครื่องปรุงต้มยำซึ่งเป็นอาหารไทยที่บรรพบุรุษได้ใช้กันมา อย่างยาวนานจนกระทั่งปัจจุบันไม่พบความเป็นพิษอีกทั้งยังมีสรรพคุณทางยาไทย ช่วยขับลม ช่วยย่อย แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ เจริญอาหาร และที่สำคัญเครื่องปรุงเหล่านี้มีเส้นใยอาหารมาก จะช่วยดูดซับสารพิษในลำไส้ระบบทางเดินอาหารและขับถ่ายของเสียได้ดี นอกจากนี้ปัจจุบันยังมีข้อมูลทางวิชาการสนับสนุนว่าสมุนไพรแต่ละชนิดที่นำมา ปรุงในต้มยำมีสารสำคัญช่วยยับยั้งและฆ่าเชื้อแบคทีเรียและเชื้อราได้ และยังมีรายงานยืนยันว่าไม่มีฤทธิ์ก่อกลายพันธุ์

 

 

                นอกจากนี้ยังมีสมุนไพรที่เป็นอาหารหลายชนิดที่มีฤทธิ์ต้านมะเร็งและมีสารแอนตี้ออกซิแดนท์  ได้แก่

 

กุยช่าย

มะแว้งเครือ

มะแว้งต้น

ขมิ้นชัน

มังคุด

หอมแดง

กะเพรา

โหระพา

กระเทียม

งา

ขนุน

ชะเอม

ดีปลี

ขมิ้นอ้อย

มะนาว

ตำลึง

ถั่วลิสง

ขิง

ตะไคร้

น้ำเต้า

พริก

ผักกาดน้ำ

มะขามป้อม

สะเดา

พลู

มะเขือพวง

แมงลัก

ฟักทอง

มะละกอ

มะม่วงสุก

ฟักข้าว

มะปราง

มะกรูด

มะอึก

มะขามเทศ

ว่านหางจระเข้

มะเขือยาว

ส้มเขียวหวาน

มะระขี้นก

องุ่น

 

สมุนไพรไทยที่มีการวิจัยในการยับยั้งเซลล์มะเร็ง

สมุนไพรไทยที่มีการทดลองในหลอดทดลองมีหลายชนิด ได้แก่

บวบขม

ขันทองพยาบาท

จำปีป่า

ปลาไหลเผือก

ดองดึง

ทองพันชั่ง

เจตมูลเพลิงแดง

เจตมูลเพลิงขาว

ราชดัด

ฝาง

โทงเทง

แสมสาร

จำปา

ขมิ้นต้น

ฟ้าทะลายโจร

ปรู่

กระเทียม

ประยงค์

พลับพลึง

รงทอง

ข่อย

แพงพวยฝรั่ง

สมอไทย

หญ้าปีกไก่ดำ

แกแล

กะเม็ง

เครือเถาวัลย์

ทับทิม

มังคุด

โล่ติ๊น

ไพล

จำปีหลวง

สีเสียด

สมอพิเภก

ข้าวเย็นเหนือ

ลิ้นงูเห่า

ไฟเดือนห้า

 

 

ส่วนตัวอย่างนี้เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง

ตัวอย่างของผู้ป่วยมะเร็งระยะ3กับการบริโภคน้ำหมักเพื่อการบริโภค

ผศ.ดร.ไชยวัฒน์  ไชยสุต  อาจารย์คณะเภสัชศาสตร์ ม.เชียงใหม่

ผู้ได้รับทุนจากสวทช.(สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ)

ซึ่งโพสต์ลงyoutube


 

ผู้สนใจหารายละเอียดแบบเต็มได้ที่ สวทช.02-5647000

http://www.bansuanporpeang.com/blog/%E0%B8%A1%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%A3...

ความเห็น

ถือว่าช่วยๆกันนะคะมีอะไรน่าสนใจ  คุณEmsland ก็บอกต่อๆ

กันบ้างนะคะ..ขอบคุณค่ะ

แบ่งปันน้ำใจส่งต่อกันไป ....ไม่รู้จบ

งั้นพวกเราไปหามาปลูกให้ได้(ใบล๊อกนี้ถ้าปลูกคนละอย่าง พอโตเต็มที่ก็แบ่งให้ สมช.แลกไปมากันต่อไป สมช.ก็จะมีสมุนไพรครบทุกคน ทุกๆอย่าง) น่าเริ่มนะป้าจิ๊ด

อยากเริ่มจังเลย  ติดอยู่ที่ว่าไม่ค่อยรู้จักสมุนไพรมากนัก ส่วนตัวป้าจี๊ด

สนใจมากเพราะว่าเป็นคนสุขภาพไม่ค่อยดี-แพ้ยาง่าย  เวลาไม่สบาย

ก็รักษาโดยวิธีธรรมชาติก่อน  ถ้าไม่หายจริงๆจึงจะหาหมอ  อย่างเช่น

บางคนเป็นเริมที่ปากจะมียาที่เจ้าพระยาอภัยภเบศรสกัดเรียกกันว่า

พญายอ มีสรรพคุณดีกว่ายาฝรั่งเสียอีก(จากผู้ใช้เอง)แต่คนกลับ

ให้ความเชื่อถือยานอกมากกว่า

แบ่งปันน้ำใจส่งต่อกันไป ....ไม่รู้จบ

ขอบคุณมากครับป้าจี๊ดมีประโยชน์มาก

...อาหารการกินแบบบ้านๆ นี่แหละดีทีสุดแล้ว

ขอบคุณมากค่ะ  มีสมุนไพรอะไรน่าสนใจบอกกันบ้างนะคะ

แบ่งปันน้ำใจส่งต่อกันไป ....ไม่รู้จบ

ข้อมูล ดี มากเลย ครับ ป้าจี๊ด

ได้ความรุ้อีกแล้ว

บ้านเราประโยชน์ เยอะจริงๆค่ะ ป้าจี๊ด

 

 

:admire: ขอบคุณมากครับ เยี่ยมมากเลย..


ได้ยินชื่อคุณหมอสมหมายมานานแล้วคะ มีน้องที่ทำงานไปรับการรักษาได้ข่าวว่าหายแล้วคะLaughing

    

 

หน้า