โรงเรียนพอเพียงอย่างยั่งยืนโดยชุมชน

เขียนโดย guys ka เมื่อ 12 พฤษภาคม, 2011 - 12:23
หมวดหมู่ของบล็อก: 
เศรษฐกิจพอเพียง
Keywords: 
โรงเรียนพอเพียงอย่างยั่งยืนโดยชุมชน

สวัสดีค่ะ.. คนบ้านเดียวกัน(บ้านสวนพอเพียง)..

โรงเรียนที่เบบี้ของกายส์เรียนอยู่ เป็นโรงเรียนรัฐบาล อันดับสาม ของจังหวัดเชียงใหม่ค่ะ และกำลังจะผลักดันให้เป็น

โรงเรียนพอเพียงอย่างยั่งยืนโดยชุมชน 

กายส์ก็จะมาขอคำแนะนำจาก ลุงๆ ป้าๆ พี่ๆ น้องๆ เพื่อนๆ  ว่า..โรงเรียนของหลานชาย ควรจะเป็นอย่างไร ควรจะทำ หรือมีการจัดการให้เป็นระบบ หรือครบวงจรอย่างไร ถึงจะได้สมน้ำสมเนื้อ สมหน้าสมตา กับความเป็นลูกหลานของบ้านสวนพอเพียงน่ะค่ะ ....แนะนำมาได้เต็มที่เลยค่ะ.

โครงการอาหารกลางวันของเด็กๆ  : 

ที่โรงเรียนมีพ่อค้าเข้ามาประมูลขายอาหารกลางวันให้กับลูกๆ ราคาจานละ 20 - 25 บาท  เบบี้กายส์บอกว่า กินยังไม่อิ่มน่ะค่ะ..ก็เลยคิดว่า น่าจะมีโครงการอาหารกลางวันนักเรียน คิดราคาแค่ 10 บาท แต่จะตักทานกี่รอบก็ได้ให้ลูกๆ ได้กินอิ่ม แต่ต้องไม่เหลือทิ้งจะถูกปรับอีก 20 บาท (ให้เรียนรู้การประมาณตน) เงินค่าข้าว 10 และเงินค่าปรับอีก 20 บาทนี้ก็จะเอาไว้ในบัญชีโครงการอาหารกลางวันของลูกๆ ไว้ซื้อ กะปิ น้ำปลา น้ำมันพืช อื่นๆ อีกมากมายที่ไม่สามารถจะปลูก จะทำเองได้ 

แล้วใครจะเป็นคนทำอาหาร  ...

งานนี้คงจะต้องไปขอความร่วมมือจาก อบต. เจ้าหน้าที่อนามัยสิ่งแวดล้อม โภชนากร ของเขามาช่วยจัดเมนูอาหาร ที่ถูกสุขลักษณะครบ 5 หมู่ (จากวัตถุดิบที่เรามีอยู่) ให้กับลูกๆ เป็นเดือนๆ ไป และให้เขาจัดส่งกลุ่มแม่บ้านในแต่ละตำบล แต่ละหมู่บ้าน ผลัดกันหมู่บ้านละ 1 เดือน มาทำอาหารให้ลูกๆ ทานกัน  และมีการมอบประกาศนียบัตรให้กับ อบต.และกลุ่มแม่บ้านในแต่ละเดือน ขึ้นบอร์ดประกาศเกียรติคุณในโรงเรียน ใน อบต. และในเวปของโรงเรียนด้วย และจะมี  การประกวดขวัญใจแม่บ้านอาหารกลางวัน ที่ทำอาหารได้อร่อย สะอาด ปลอดภัย อนามัยดี โดยจะมีลูกๆ เด็กนักเรียนเป็นคนโหวต รวบรวมผลชิงกันปีละ 1 ครั้ง ประกาศลงเวป บอร์ด และ หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นในหน้าข่าวการศึกษาสู่สาธารณะชน

แล้วพืชผักที่ใช้ทำอาหารล่ะ

จัดการประกวดการแข่งขันโครงการเศรษฐกิจพอเพียง ให้ลูกๆ แต่ละห้องทุกชั้นเรียนส่งประกวด 1 โครงการและร่วมมือทำด้วยกัน (สามัคคี) และมีคุณครูประจำชั้นเป็นครูพี่เลี้ยง สมาคมผู้ปกครองของแต่ละห้อง (พ่อแม่ต้องเรียนรู้ควบคู่ไปกับลูกๆ สร้างความใกล้ชิดให้มากขึ้น) เป็นที่ปรึกษาไปด้วย  โดยจะต้องทำกิจกรรมปลูกพืชผัก หรือ เลี้ยงเป็ด ไก่ หรือเรื่องแก๊สหุงต้มจากขยะเหลือใช้ หรืออะไรก็ได้ ตามแต่ที่ลูกๆ อยากจะทำ ซึ่งลูกๆ จะต้องไปสอบถาม ไปเรียนรู้จากปราชญ์ท้องถิ่น  ผลงานผลผลิตจากการแข่งขันจะต้องใช้งานได้จริง โดยนำมาใช้ในโครงการอาหารกลางวันต่อไป หากเหลือก็นำออกขายในราคาถูก นำรายได้มาเป็นรางวัลกินข้าวฟรี 1 เดือน สำหรับห้องของลูกๆ ครูพี่เลี้ยง และปราชญ์ที่ปรึกษา ที่ชนะเลิศการแข่งขัน ส่วนเงินที่เหลือก็นำเข้าโครงการอาหารกลางวันต่อไป...

ตอนนี้ก็จะมาขอความคิดเห็นจากลุงๆ  ป้าๆ  พี่ๆ น้องๆ เพื่อนๆ สมาชิก บ้านสวนพอเพียง ว่า จากที่กล่าวมาข้างต้น ควรจะปรับปรุง แก้ไข อย่างไรบ้าง น้อมรับฟังทุกความคิดเห็นค่ะ..แนะนำได้เต็มที่ไม่ต้องเกรงใจนะคะ จัดมาให้หนักๆ เลยค่ะ.. เพื่อที่โรงเรียนของหลานชายจะได้เป็นโรงเรียนต้นแบบพอเพียงอย่างยั่งยืนโดยชุมชน คุณลุงคุณป้าเตรียมยืดอกรับความภาคภูมิใจไว้ได้ก่อนเลยค่ะ..Smile

ขอเพิ่มเติมอีกนิด.. ท่านผอ.โรงเรียนแจ้งมาว่า กำลังทำการปรับหน้าดินในโรงเรียน เพื่อจะทำนาข้าวในโรงเรียน  โดยจะเริ่มปลูกในวันแม่  และเกี่ยวข้าวในวันพ่อ..เพื่อนำผลผลิตมาให้ลูกๆ กิน ในโครงการอาหารกลางวันค่ะ 

ขอบคุณล่วงหน้านะคะ 

ความเห็น

ชวิน

12 พฤษภาคม, 2011 - 12:31

ไม่ทราบว่าเป็นโรงเรียนระดับชั้นไหน ม.ต้นหรือประถม แล้วสถานที่พอรองรับกับการทำ


กิจกรรมการเกษตร มากน้อยแค่ไหน ครับ

พอเพียงเพื่อเพียงพอ


jabee_68@hotmail.co.th

guys ka

12 พฤษภาคม, 2011 - 12:37

โรงเรียนนวมินทราชูทิศ พายัพ สอนมัธยม ตั้งแต่ ม.1-ม.6 ค่ะ 


มีเนื้อที่กว้างหลายสิบไร่  หนองน้ำก็น่าจะใหญ่เกือบไร่ เลยนะคะ..


อากาศดีมาก เย็นสบายตลอดปี  อยู่ติดกับสนามกีฬา 700 ปี ด้วยนะคะ..

.................

สายพิน

12 พฤษภาคม, 2011 - 12:52

มีเคล็ดลับนิดหนึ่งในการตอบความคิดเห็นค่ะ คุณกายส์ (จำมาอีกทีนะคะ พอทำได้สนุกเลย) หากว่าต้องการตอบความเห็นใดคุณกายส์คลิกที่มุมล่างขวามือในความเห็นนั้นๆตรงคำว่า reply นะคะ

guys ka

12 พฤษภาคม, 2011 - 22:31

โอ้ สุดยอดเซียนประจำบล๊อคจริงๆ เลยค่ะพี่สาวคนดีของกายส์


แนะนำได้ตรงใจกายส์เลยล่ะค่ะ  สุ๊ดยอดดดดดด ....:admire2:

.................

Thanawit

12 พฤษภาคม, 2011 - 12:59

ม.1 - ม.6 โครงการใหญ่ ไม่ใช่เล่นนะครับเนี่ย ตอนแรก นึกว่าเป็นโรงเรียนประถม  ขอให้ประสบความสำเร็จครับ .... 

เมื่อรู้สึกว่ากำลังแย่ จงให้กำลังใจตัวเอง ด้วยการคิดว่า "ยังมีคนอื่นที่แย่กว่าเราอีก"

guys ka

12 พฤษภาคม, 2011 - 22:34

ใช่ค่ะ โรงเรียนใหญ่มา มีนักเรียนสองเกือบสองพันคน


พลิกวิกฤตความยากให้เป็นง่าย มองอีกมุม คิดว่าลูกๆ ที่โตแล้ว


จะทำงานที่ยาก เช่นแก๊สชีวภาพ ได้ดีกว่าน้องๆ  หรือเปล่าคะ.. :confused:

.................

สายพิน

12 พฤษภาคม, 2011 - 12:48

คุณกายส์ เป็นโครงการที่หากว่าทำได้จะเป็นโครงการโรงเรียนระดับชาติเลยนะคะ ทราบมาจากคุณกายส์ว่าการจัดโครงการนี้เพื่อเป็นการสานต่อพระราชดำริในเรื่องความพอเพียง  ในการจัดโครงการนี้มีคณะกรรมการของโครงการอยู่ก่อนใช่ไหมคะ คณะทำงานของโครงการนี้หมายถึงคณะครูอาจารย์และผู้ปกครองของโรงเรียนแห่งนี้เช่นนั้นใช่ไหมคะ ...ในส่วนที่เป็นระยะเวลาของโครงการดังกล่าว มีการแบ่งโครงการเป็นระยะด้วยไหมคะ ทราบกันว่าในส่วนของการจัดทำโครงการที่มีความต่อเนื่อง มักพบว่าจะแบ่งโครงการเป็นสามระยะ ตัวอย่างเช่น ระยะเริ่มต้น ระยะพัฒนา และระยะต่อเนื่องระยะ  การจัดแต่ละระยะจำเป็นต้องมีเวลาที่เหมาะสม เน้นการได้ลงมือทำและเรียนรู้ร่วมกันมากกว่าเน้นให้ได้ผลงาน ดังนั้น เบื้องต้นเสนอว่าหากมีการปูลาดความเข้าใจให้กับทุกๆท่านที่เข้ามามีส่วนร่วม เมื่อแต่ละท่านเกิดความเข้าใจมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นหรือเสนอยุทธวิธีที่จะก้าวไปให้ถึงเป้าหมาย น่าจะเป็นสิ่งที่สนับสนุนให้เกิดความกระตือรือล้นในการลงมือทำ มีการประเมินผลอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ หากว่าไม่เน้นว่าต้องผลเลิศเลย ย่อมทำให้ทรัพยากรบุคคลต่างได้เรียนรู้และมีการพัฒนาร่วมกัน ...แม้จะช้าในเบื้องต้น แต่ด้วยระยะเวลาที่ผ่านการเรียนรู้บ่มเพาะประสบการณ์ร่วมกัน มีการให้กำลังใจซึ่งกันและกัน เชื่อว่าศักยภาพที่มีในทุกๆคนจะนำไปสู่การลุล่วงถึงเป้าหมาย ...ยิ่งทราบว่าผู้บริหารมีความมุ่งมั่นตั้งใจ เปิดโอกาสให้ และมีความกระตือรือล้นพร้อมในการทำงาน ...สำคัญที่ระวังอารมณ์ก่อนงานนะคะ งานเป็นผลพวงที่งดงามเมื่อผู้ทำงานมีอารมณ์ดี มีความสุขและกระตือรือล้นทำเพื่อเป้าหมายเดียวกัน...เอาใจช่วยนะคะ

guys ka

12 พฤษภาคม, 2011 - 22:51

:info: พี่สายพินคะ  ทุกเรื่องที่แนะนำมา พูดได้ถูกต้อง ตรงประเด็นมากเลยค่ะ 


กายส์เห็นช่องว่างได้มากขึ้น และเห็นทางที่จะแก้ปัญหาได้มากขึ้น ความสำเร็จก็จะมีมากขึ้น โครงการที่ทำ ไม่สามารถทำได้โดยกลุ่มคนกลุ่มเดียว ต้องระดมทั้งครู นักเรียน บุคคลากรในโรงเรียน สมาคมผู้ปกครองทุกคน ลามออกไปจนถึง อบต อำเภอ และผู้นำชุมชน ไปจนถึงปราชญ์ของท้องถิ่น และมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ที่จะต้องขอให้พี่ๆ นักศึกษา มาช่วยสอน มาช่วยเป็นต้นแบบในหลายๆ เรื่อง ที่ลูกๆ ทำเองไม่ได้ และจะต้องเรียนรู้ จากประสบการตรงจากทุกท่าน ทุกคน ในชุมชน  ที่จะต้องลงมาช่วยกัน และต้องสร้างจิตอาสาในวัฒนธรรมอันดีงามของเราที่กำลังถูกกลืนกินไปจนแทบไม่เหลือแล้ว


และกายส์อยากจะบอกว่า โครงการนี้ไม่ได้อยู่แค่ตรงนั้น แต่น้ำใจ และจิตอาสาที่ยิ่งใหญ่ มาจาก ลุงๆ  ป้าๆ  พี่ๆ น้องๆ เพื่อนๆ ในบ้านสวนพอเพียงหลังนี้  และแรงบันดาลที่ยิ่งใหญ่ของกายส์ มาจากตรงนี้มากถึง 99% เลยค่ะ


โครงการนี้ไม่ได้เป็นของกายส์คนเดียว ไม่ได้เป็นของโรงเรียนคนเดียว  และกายส์อยากตั้งชื่อ โรงเรียนบ้านสวนพอเพียงแบบยั่งยืนโดยชุมชน มากกว่า  เพราะลุงๆ ป้าๆ ทุกคนเป็นคนให้การบ้าน ลูกๆ หลานๆ ในโรงเรียนเอาไปปฏิบัติ ส่งการบ้านให้ป้าครู ลุงครู  ต่างหาก... ค่ะ...



:admire2:

.................

guys ka

15 พฤษภาคม, 2011 - 13:07

:confused: กายส์นำเสนอไปแล้วค่ะ รอลุ้นผลนะคะ ลุ้นๆๆๆๆ 


ขอกำลังใจสองกระสอบ... นะคะ...   :admire2:

.................

ลุงแอ้ด

12 พฤษภาคม, 2011 - 13:22

หากคาดหวังให้เป็นโรงเรียนพอเพียงอย่างยั่งยืนโดยชุมชน  ก็ให้ชุมชนได้มีส่วนร่วมจริงๆครับ แล้วก็จะไปได้ดี นักเรียนที่พ่อแม่มีรายได้น้อยก็ส่งเสริมให้นักเรียนเหล่านี้มาช่วยโครงนี้อย่างเต็มที่ อย่างน้อยให้เด็กๆเหล่านี้้ได้ทานข้าวฟรีทุกวัน จุดประสงค์จริงๆของโครงการอาหารกลางวันคือนักเรียนทุกคนต้องได้ทานอาหารเที่ยง จะจ่ายหรือไม่จ่ายตังค์ ก็ขอให้เด็กได้ทานข้าวเที่ยง


ขอให้สำเร็จผลนะครับ

หน้า