อึ้ง! ใช้ฟอร์มาลินชะลอปลาตาย
จากข่าวหนังสือพิมพ์ไทยรัฐวันนี้ ...อึ้ง..คิดได้ไงฮ่ะ..ใส่สารฟอร์มารลีนลงไปในกระชังปลา เพื่อชะลอการตายของปลา
อธิบดีกรมประมง แจง ฟอร์มาลินไม่ใช่สารต้องห้ามในการเลี้ยงปลา ระบุเป็นสารที่ระเหยง่าย แนะผู้บริโภค นำมาปรุงต้องใช้ความร้อนสูง...
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้เกษตรกรผู้เลี้ยงปลาในกระชังหลายราย นิยมใช้สารฟอร์มาลิน ซึ่งเป็นสารชนิดเดียวกันกับที่ใช้ในการรักษาสภาพศพ เป็นสารฆ่าเชื้อในการเลี้ยงปลา โดยเฉพาะการเลี้ยงปลาทับทิม โดยเกษตรกรจะใส่สารดังกล่าวในกระชังปลาที่ใกล้ตาย เพื่อฆ่าเชื้อและชะลอไม่ให้ปลาตาย ซึ่งจะสามารถขายได้ในราคาดีกว่าปลาที่ตายแล้ว ทั้งนี้ เกษตรกรผู้เลี้ยงปลาในกระชังรายหนึ่งใน จ.ปราจีนบุรี เปิดเผยว่า พนักงานขายบริษัทจำหน่ายอาหารปลาเป็นผู้แนะนำให้เกษตรกรใช้สารดังกล่าว โดยมีค่าใช้จ่ายในการใส่สารฟอร์มาลินกระชังละ 500 บาทเท่านั้น
นางสมหญิง เปี่ยมสมบูรณ์ อธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า ปัจจุบันสารฟอร์มาลินไม่ได้เป็นสารต้องห้ามตามกฎหมายในการเลี้ยงสัตว์ ซึ่งการจะห้ามหรือสั่งระงับไม่ให้เกษตรกรใช้ในการเลี้ยงปลา ต้องให้อยู่ในดุลพินิจของคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) แต่โดยทั่วไปแล้วสารฟอร์มาลินเป็นสารเคมีที่ระเหยง่ายเมื่อโดนความร้อน ฉะนั้น เมื่อผู้บริโภคนำมาปรุงอาหาร โดยใช้ความร้อนสูง สารดังกล่าวก็จะระเหยไปหมดเอง แต่หากเกษตรกรผู้เลี้ยงปลาใช้สารฟอร์มาลินในปริมาณมาก อาจยังมีกลิ่นตกค้างหลงเหลืออยู่ในเนื้อปลา
“อย่างไรก็ตาม เกษตรกรและผู้ส่งออกต้องระมัดระวังการใช้สารเคมีอย่างเข้มงวด นอกจากนี้สำหรับผู้ที่ผลิตเพื่อการส่งออกจะต้องติดตามอย่างใกล้ชิดด้วยว่าประเทศผู้นำเข้า บังคับหรือห้ามการใช้สารเคมีชนิดใดบ้าง เนื่องจากแต่ละประเทศมีบัญชีสารเคมีต้องห้ามที่แตกต่างกัน โดยเกษตรกรและผู้ส่งออกสามารถขอรายละเอียดบัญชีสารเคมีต้องห้ามของประเทศต่างๆได้ที่กรมประมง”.
ชาวบ้านสวนฯ อ่านแล้วคิดเห็นอย่างไร บ้างกับข่าวนี้ค่ะ
- บล็อกของ ยุพิน
- อ่าน 4583 ครั้ง
ความเห็น
หนุ่มชาวสวน
6 มิถุนายน, 2011 - 23:00
Permalink
น่าเห็นใจ
น่าเห็นใจผู้บริโภคครับ ต้องเลี้ยงปลากินแล้วมั้ง
ยุพิน
7 มิถุนายน, 2011 - 12:46
Permalink
ค่ะ..คุณหนุ่มฯ
ถ้าเลี้ยงเองยากกว่าน๊า ๆๆๆ เลือกแหล่งซื้อกันดีกว่า
munthana
6 มิถุนายน, 2011 - 23:15
Permalink
คุณยุพิน ค่ะ
ขอบคุณที่ให้ข้อมูลค่ะ :bye:
กินอยู่อย่างพอเพียง ไม่ขี้อิจฉา ชอบสันโดษ รักธรรมชาติ
ยุพิน
7 มิถุนายน, 2011 - 12:42
Permalink
ได้จ๊ะ..
ว่าง ๆ ก็แวะมาค่ะ อยากให้อ่านกันเยอะ ๆค่ะ ขอบคุณมัน ฯ ที่ทักทายค่ะ
ดาวเรือง
6 มิถุนายน, 2011 - 23:19
Permalink
ทำอะไรไม่คิดถึงผู้บริโภค...น่าเกลียดจริงๆ
ปลาตายก็เอามาแปรรูปขายซิ ทำไมจะใส่ฟอร์มาลีนให้ชาวบ้านกิน เรายังมีชีวิตอยู่นะ....ยังไม่ได้เป็นศพซะหน่อยเอาฟอร์มาลีนมาให้เรากินซะแล้ว
จริงอย่างคุณหนุ่มชาวสวนว่า เห็นทีจะต้องเลี้ยงปลากินเองซะแล้ว......
ยุพิน
7 มิถุนายน, 2011 - 12:38
Permalink
จ๊ะ..คุณดาวเรือง
นั่นซิ...แปรรูปเป็นอย่างอื่นคงเสียเวลา ทำแบบนี้ได้เงินเร็วดีด้วย ถ้าให้เลื้ยงเองคงยากเนอะ เวลาจะซื้อก็เลือกแหล่งซื้อกันหน่อยละกัน ..ค่ะ
ยุพิน เทลเก็น
6 มิถุนายน, 2011 - 23:43
Permalink
เห็นใจ
เห็นใจทั้งสองฝ่ายแหละค่ะ ผู้เลี้ยงก็ไม่อยากให้ปลาตาย ผู้ซื้อก็ไม่กินสารเคมีตกค้าง แล้วมันมีวิธีอิ่นที่ป้องกันหรือค่ะ
แผ่นดินไหนก็ไม่มีความสุขเหมือนแผ่นดินเกิด อยากกลับบ้านจัง
ทดสอบ
ยุพิน
7 มิถุนายน, 2011 - 12:31
Permalink
mrs.เทลเก็น
ค่ะ..ค่อนข้างน่าเห็นใจ และใจหาย ที่แนวคิดของชาวเกษตรกร ชาวประมงคนในปัจจุบัน ต่างจากแนวคิดในอตีดโดยสิ้นเชิง ..คนทำอาหารขายสมัยก่อนทำอาหารให้อร่อยได้ ผัก-เนื้อหมู-ปลา-กุ้ง -พริกแกง อะไรหลาย ๆ ต้องสดและใหม่เสมอ ปัจจุบันมีทั้งสารกันบด กันเชื้อราถ้าไม่อร่อย ก็ รสดี คนอร์ชูรสกันเข้าไป อร่อยกันทั้งบ้าน เฮ้อ !!!
Plaloma
7 มิถุนายน, 2011 - 00:45
Permalink
เคยแต่ใช่รักษาโรคในปลาสวยงาม
เคยแต่ใช่รักษาโรคในปลาสวยงาม ปลาคาร์ฟ แต่สำหรับปลากิน อึ๋ยยยยยยยยยยยยยยยย
ยุพิน
7 มิถุนายน, 2011 - 12:22
Permalink
ใช่ซิ..คุณโลมา
เคยได้ยินว่าเขาไว้ใช้กับปลาตู้ ปลาสวยงาม ..กันเท่านั้น
หน้า