กอดป่าหน้าฝน # 1 ....เฮ้อออออ ชื่นใจ !!!

หมวดหมู่ของบล็อก: 

เคยโดนทั้งขู่ทั้งปลอบมานานหนักหนาแล้วว่าให้หลีกเลี่ยงการเที่ยวป่าหน้าฝนเถิดแม่คู๊ณณณณ เพราะนอกจากจะไม่สนุกแล้ว ยังอันตรายอีกด้วย เพราะป่าหน้าฝนจะเป็นอะไรที่เอาแน่เอานอนไม่ได้เลย  วันไหนเกิดฝนจะตก  ก็ตกแบบไม่ลืมหูลืมตา  ยิ่งช่วงนี้มีเหตุดินถล่ม ภูเขาสไลด์ให้ได้ยินอยู่บ่อยๆ   ไปเที่ยวป่าหน้านี้จึงเสี่ยงต่อการได้เป็นข่าวหน้าหนึ่งแบบไม่ตั้งใจได้   และเสียงเตือนก็ยิ่งหนาหูขึ้นขึ้นเรื่อยๆ    

ยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุหรือเปล่าเนี่ยะ  ?      แต่งานนี้จะว่าเราดื้อก็ไม่ถูกต้องซะทีเดียวนักนะคะ    เพราะทริปท่องป่าหน้าฝนนี้ได้ถูกวางไว้ตั้งแต่หลังสงกรานต์แล้วค่ะ   สาเหตุที่ต้องไปหน้าฝนก็เป็นเพราะสมาชิกในกลุ่มซึ่งเป็นชาวเกาะ (พีพี) ต้องหนีเที่ยวช่วงโลว์ซีซั่นของชาวเลเขาค่ะ  ทริปท่องเที่ยวจึงถูกจัดขึ้นตามความสะดวก (แต่อาจจะไม่ปลอดภัย  ซึ่งไม่มีใครแคร์ !!)      

แรงบันดาลใจที่ก่อให้เกิดการรวมตัวขึ้นในครั้งนี้    สืบเนื่องมาจากการที่เราได้จุดประกายเรื่องไร่กระหล่ำปลีที่ภูทับเบิกผ่านเฟสบุ๊คไปเมื่อต้นปีนี้  ซึ่งไม่รู้ว่าไปปลุกต่อมอยากให้สมาชิกชาวเกาะทั้งหลายมีความประสงค์จะได้ไปเห็นด้วยตาของตัวเองหรืออย่างไร   การนัดหมายจึงเกิดขึ้นในระหว่างที่เราอยู่พัทลุงและเราได้นัดหมายกันไว้ว่าวันที่  17   มิถุนายน 2554   เราจะมารวมตัวกันที่กรุงเทพ   โดยที่ชาวเกาะ  ต้องขึ้นเรือที่ท่า พีพี  มาที่กระบี่  และต่อเครื่องหางแดงมาลงที่สุวรรณภูมิ   หลังจากนั้นเรานัดเจอกันที่หลักสี่เพื่อขับรถขึ้นหล่มสักภายในวันเดียวกัน

ทริปนี้มีแต่สาวๆค่ะ .....เริ่มจาก หล่มสัก-เขาค้อ-พิษณุโลก-ทุ่งแสลงหลวง-ภูหินล่องกล้า-ล่องแก่งลำน้ำเข็ก-ภูทับเบิก  โดย 4 คนแรกเป็นเจ้าแม่จากเกาะ พีพี  อีกหนึ่งเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัย  ลาดกระบัง  และยังมีหมวยเล็กจากพัทลุงอีก 1  คนรับหน้าที่เป็นสารถีพาพี่น้องไปกอดป่า.....

 เจ้าภาพใหญ่ของเราเป็นสาวสวยคมขำชาวหล่มสักแต่กำเนิดค่ะ  เธอยินดีมากที่มีเพื่อนๆแวะเวียนไปเยี่ยมอย่างน้อยปีละ 2 กรุ๊ป   ครั้งนี้ก็อีกเช่นกัน ชาวเลทั้งหลายจะได้มีประสบการณ์แรกกับการปีนเขาในครั้งนี้ ย่อมตื่นเต้นเป็นธรรมดาใช่ไหมคะ

เสียเพลงในโทรศัพท์มือถือดังขึ้นจนฉันสะดุ้ง       เนื่องด้วยเพราะฉันกำลังง่วนอยู่กับการพยายามเชื่อมต่อ internet จากซิมที่ฉันเพิ่งซื้อมาใหม่   ความจริงฉันไม่มีความเดือดร้อนกับการเชื่อต่อ NET มานานแล้ว  หากไม่ใช่เป็นเพราะฉันต้องเดินทางไปหล่มสักในบ่ายวันนี้    เพราะปกติในเขตพื้นที่ที่ฉันอยู่จะมีระบบ 3G  รองรับอยู่แล้วอย่างสะดวกสบาย     แต่วันนี้ฉันต้องวิ่งโร่ไปซื้อซิมในระบบ  GPRS  กลับมาใช้อีกครั้ง  เพราะระบบ 3G  ยังไม่รองรับในเขตจังหวัดที่ฉันจะไป 

ฉันเหลือบมองนาฬิกาเป็นเวลา  12.00 น พอดี    เสียงในสายแจ้งมาว่าให้ฉันเตรียมตัวได้แล้วเพราะกรุ๊ปที่เดินทางมาจากกระบี่  กำลังจะเทคออฟ ภายใน  5  นาทีนี้แล้ว     ฉันรีบวางมือจากการเชื่อมต่อที่แสนจะปวดหัวนี้ทันที และหันมาคว้าเป้ใบเก่งจับยัดทุกสิ่งทุกอย่างที่คิดว่าจะจำเป็นสำหรับการเดินทาง  5  วัน      เชื่อมั้ยคะว่าฉันใช้เวลาไม่ถึง  10  นาที  ทุกอย่างที่ฉันคิดว่าจำเป็นก็เข้าไปนอนอย่างไม่เป็นระเบียบอยู่ในเป้ของฉัน  และพร้อมที่ลุยทันที   หลังจากนั้นฉันก็หันมาจัดการกับซิม  ของ DTAC  ต่อด้วยความเคียดแค้น    !!!

ความจริงฉันคงไม่ต้องเดือดร้อนเท่านี้หรอกค่ะ  หากว่าฉันตัดสินใจซื้อซิมของ  AIS  เสียตั้งแต่แรก  เพราะ Air Card ของฉันอันนี้เคยใช้ได้กับซิมของ AIS  มาหลายครั้งแล้ว   แต่วันนี้ฉันเกือบจะมีเรื่องกับพนักงานขายของที่ร้าน Telewiz  ซะแล้ว   เพราะแม่นั่นชักทั้งสีหน้าและน้ำเสียงใส่ฉันเหมือนกับฉันเป็นคนพูดไม่รู้เรื่องเมื่อฉันถามหาซิมที่ถูกและคุ้มที่สุด  (ก็ต้องการใช้แค่ไม่กี่วัน จะให้ซื้อทำไมแพงละคะ ?)   หลังจากที่ฉันเหวี่ยงใส่ยัยกุ้งแห้งดำสนิทคนนั้นไปแล้วและไม่ได้ซิมของ Ais    ฉันก็เดินเชิดไปที่ร้าน  Detac ซึ่งอยู่ตรงข้ามกันทันที  ฉันได้ซิม  Dtac มา  1  อันสมใจอยากค่ะ    ราคา  69  บาท  เล่นเนทได้   600  นาที  และมีเงินแถมมาอีก  5  บาท   !    ฉันรีบกลับมาที่ห้องเพื่อลองเชื่อมต่อทันทีเพราะหากเกิดปัญหาการเชื่อมต่อไม่ได้   ฉันจะได้มีเวลาจัดการให้เสร็จก่อนเดินทาง

แต่ยิ่งรีบเหมือนยิ่งช้านะคะ  ซิม  Detac  อันนี้  ไม่สามารถใช้ได้กับ Air card  ของฉัน   ฉันจึงได้โทรเข้าที่ Cal l center  ของ  Detac   ซึ่งในเวลาเช่นนั้นสายของ call center  ไม่สามารถติดต่อได้เลย  ฉันพยายามอยู่หลายครั้งแต่ไม่สำเร็จ   และฉันก็ไม่มีเวลาแล้วค่ะ อีกไม่เกินชั่วโมงพวกที่มาจากกระบี่ก็จะถึงกรุงเทพ    ฉันจึงตัดสินใจเก็บโน๊ตบุ๊คใส่กระเป๋าและคิดว่าเมื่อถึงหล่มสักแล้ว  ฉันจะโทรเข้าที่ call cente  อีกครั้งหนึ่ง  และหวังว่าฉันคงผ่านขั้นตอนอันยุ่งยากนี้ไปได้   หากฉันเข้าเนทไม่ได้ภายในคืนนี้ ฉันคงต้องประสบปัญหามากพอสมควร  เพราะฉันสัญญากับลูกค้าว่าจะต้องส่งไฟล์งานให้ในคืนวันศุกร์

ไม่เกินหนึ่งชั่วโมงหลังจากนั้น   ฉันก็ได้รับกรุ๊ปที่บินตรงมาจากกระบี่  ดูจากสีหน้าท่าทางที่แสนจะอิดโรยของแต่ละคนแล้วฉันก็ได้แต่แปลกใจว่า   นี่พวกเค้าถูกบังคับให้ไปเที่ยวกันหรืออย่างไร   ทำไมแต่ละคนถึงได้ทำสีหน้าเบื่อโลกเช่นนั้น  สอบถามไปสอบถามมาได้ความว่าหาได้มีใครบังคับพวกเขาไม่   แต่สาเหตุที่หน้าตา บ่จอยเยี่ยงนี้   เพราะพวกเค้าต้องโต้คลื่นสูง  4 เมตรอยู่ร่วมชั่วโมงค่ะ   เพราะช่วงนี้ทะเลกระบี่ก็หาใช่ย่อย   นี่ขนาดพวกเขาเป็นชาวเกาะแท้ๆ   ยังเอาของเก่าออกกันแทบไม่ทัน      ถ้าเราต้องไปโต้คลื่นแบบเขามั่งเช่นนี้เห็นทีต้องขอยานอนหลับกินให้สลบไปเลยจะยังดีกว่า  

       ครบองค์ประชุมแต่เลยเวลานัดหมายไปเล็กน้อย  จุดหมายปลายทางของเราวันนี้อยู่ที  อ.หล่มสัก จ.  เพชรบูรณ์ ค่ะ   ด้วยประสบการณ์การขับรถในเส้นทางนี้ของฉัน    ฉันประมาณการว่าคงถึงหล่มสักไม่เกิน  1  ทุ่มแน่นอน

รถออกจากรุงเทพวิ่งไปทางถนนมิตรภาพ  ยังมาทันผ่านสระบุรีเลยค่ะ  ท้องฟ้าก็เริ่มมืดครึ้มจนน่ากลัว   ก้อนเมฆดำทะมึนลอยขวางเราอยู่เบื้องหน้าหลายก้อน   และหลังจากนั้นไม่เกินห้านาที    ฝนก็กระหน่ำเทลงมาอย่างไม่ลืมหูลืมตา   รถทุกคันเปิดไฟสูงใส่กัน   ที่ปัดน้ำฝนถูกเปิดในระดับที่เร็วที่สุดแต่ทัศนวิสัยก็ยังแย่มาก มองเห็นไม่เกินหนึ่งเมตร   ผู้ขับขี่ต่างคนต่างขับกันด้วยความระมัดระวัง   เวลา   5  ชั่วโมง  ที่ฉันคิดว่าจะต้องถึงหล่มสักแน่นอนนั้น    ตอนนี้ฉันเริ่มไม่แน่ใจเสียแล้วค่ะ   เพราะยิ่งขับไป ฝนก็ยิ่งตกหนัก  และบรรยากาสรอบด้านก็เริ่มมืดค่ำลงเรื่อยๆ   

แต่ในที่สุดเราคลานกันมาก็ถึงจังหวัดเพชรบูรณ์ด้วยความสะบักสะบอม       ถนนช่วงที่โหดที่สุดสำหรับทริปนี้ก็คือ  ช่วง  40  กิโลสุดท้ายจากเพชรบูรณ์เช้าหล่มสักนี่แหละค่ะ     เพราเป็นช่วงที่เขากำลังปรับปรุงถนน  จึงทำให้ช่วงนี้รถต้องวิ่งสวนทางกัน   และด้วยสถานการณ์เช่นนั้น   ฝนก็ตก   ถนนก็แฉะ  มืดก็มืด   พวกเราได้ไต่มาจนถึงห้าแยกพ่อขุนรามฯ   และเลี้ยวขาวไปทางขอนแก่นตามที่เพื่อนบอกทางเข้าบ้าน  และให้เลี้ยวขวาอีกทีเมื่อถึงไฟแดงหน้า และเลี้ยวซ้ายหน้าศาลาลงไปทางทุ่งนา  บ้านเพื่อนจะแทรกอยู่ในป่านั้น     เชื่อมั้ยคะว่าเวลามืดค่ำเช่นนั้น แต่เราไม่หลงเลย  และนี่เป็นครั้งแรกที่เราไม่หลงทั้งๆที่เป็นเวลากลางคืน  แต่ถ้าเป็นกลางวันเราจะหลงตลอด   นั่นหมายความว่าเรดาห์นำทางของเรามีประสิทธิภาพมากกว่าในตอนกลางคืน

พอถึงบ้านเพื่อนได้ทักทายสวัสดีคุณแม่และทานข้าวเรียบร้อยแล้ว   เป็นเวลาประมาณ   3  ทุ่มกว่าๆ  ฉันก็ไม่ลืมที่จะต้องเชื่อต่อInternet อีกครั้ง    คราวนี้ฉันติดต่อ  call center  ได้ทันที  เพราะเป็นช่วงกลางคืน คู่สายจึงไม่ค่อยยุ่งเท่าไหร่  

สวัสดีครับผม ......... รับสาย  ยินดีให้บริการครับ  

ได้ยินเสียงนุ่มๆ สุภาพๆแบบนี้ บอกว่ายินดีให้บริการ   ฉันก็ใจชื้นขึ้นเยอะ  คิดว่ายังไงซะวันนี้คงมีอัศวินขี่มาขาวมาช่วยฉันแก้ปัญหาเรื่อง Sim Net ได้แน่นๆ   เจ้าหน้าที่ไอทีท่านนั้น รับทราบปัญหาของฉันและได้สอบถามสิ่งที่เกิดขึ้นจากหน้าจอของฉันนิดหน่อย  หลังจากนั้นก็แนะนำให้ฉันทำโน่น  คลิ๊กนี้   ฉันก็พยายามทำตามทุกสเตป   สุดท้าย   เรา (ฉันกับเขา) ก็เจอปัญหาว่ามัน  error  ซึ่งเจ้าหน้าก็งงว่า  error  ได้อย่างไร  แต่ก็ได้พยายามเปลี่ยนโน่น นี่ นั่นให้ฉัน อีกหลายครั้ง   แต่ฉันก็ยังต่อเชื่อม Net ไม่ได้สักที จนเวลาล่วงเลยมาเกือบ ห้าทุ่ม   

 เมื่อพยายามจนเหนื่อยอ่อนกันทั้งสองคนแล้ว  ในที่สุดเจ้าหน้าที่ก็บอกฉันว่าให้ช่วยดูที่ช่องสัญญานทีว่าขึ้นกี่ขีด  ฉันก็บอกไปว่าขึ้นสองขีด     เจ้าหน้าที่ท่านนั้นก็พูดว่า”สงสัยสันญานคงจะอ่อนนะครับ ต่างจังหวัดก็เป็นอย่งนี้”   ฉันเองซึ่งขณะนั้นก็เหนื่อยอ่อนจากการขับรถพอสมควรจึงบอกเค้าไปว่า   ถ้าอย่างนั้นพรุ่งนี้ฉันจะเข้าไปในเมือง  และฉันจะพยายามเชื่อมต่ออีกครั้งก็แล้วกัน และคิดว่าเมื่อสันญานดีกว่านี้ฉันคงเชื่อมต่อได้        

ต่างฝ่ายต่างเห็นตรงกันว่ายังไงซะคืนนี้คงไม่สำเร็จ  เพราะฉันก็เหนื่อยเหลือเกินและเขาก็ได้พยายามทุกวิถีทางแล้ว   ฉันก็คงต้องยอมให้ลูกค้าด่าไปก่อนที่ไม่รักษาสัญญา     หลังจากนั้นฉันก็ได้กล่าวขอบคุณคุณเจ้าที่เสียงหล่อ ที่ให้ความช่วยเหลืออย่างใจเย็น    และเค้าก็กล่าวขอบคุณที่ใช้บริการ  (ถึงแม้จะไม่สำเร็จ)  

 แต่ก่อนจะวางสายเสียงนุ่มๆนั้นก็พูดกลับมาว่า   รักษาสุขภาพนะครับ    เฮ้อออออ  ......    ชื่นใจ  !!!

ความเห็น

 ตั้งใจอ่านค่ะ  อ่านมาก แล้ว ตาลาย..:woa:


อ่านแล้ว คิดตาม บางตอนก็เคยเกิดขึ้นกับเรานี่หน่า.....:admire2:


(แต่ยังไม่เคยไปหล่มสักเลย ค่ะ. คอยติดตามนะคะ..:bye:

....ความสุขอย่างแท้จริง ด้วยหลักเศรษฐกิจพอเพียง....

ตอนไหนที่เคยเกิดขึ้นกับน้องแอนคะ   แล้วน้องแอนแก้ปัญหายังไงบ้าง   แนะนำพี่บ้างสิ     คนเราบางทีก็โง๊ โง่  ในบางเรื่องนะคะ  โดยเฉพาะเรื่องไฮเทคทั้งหลาย  เพราะพี่เป็นคนโลว์เทคค่ะ  แก้ปัญหาไม่ค่อยได้


ทริปนี้มีเด็กคอนไปด้วย 1 คนค่ะ   นอกนั้นเป็นสาวตรังทั้งหมด  ขับรถไปคุยแลกเปลี่ยนความคิดกันไป   ได้ทองแดงมาเป็นกระบุงค่ะ   แล้วจะเอามาถามเซียนภาษาใต้แถวนี้ว่ามันแปลว่าพรือ  !!!:uhuhuh:

อ่านแล้วครับ จะคอยติดตามต่อนะครับ


อ่านที่เพชรเขียนทุกตอน   ตาลายกะเค้าบ้างไหมคะ

ไปช่วยพี่หยอยเขียนหนังสือถ้าจะดี...พี่หยอยหาคนช่วยอยู่นะ...

คิดให้แตกต่าง...แต่อย่าแตกแยก

คงเห็นแววแล้วใช่ไหมคะว่าหนูคงปลูกผักไม่รุ่งแน่


ก็เลยทั้งถอง ทั้งดัน  ให้หนูไปเขียนหนังสือดีกว่า  :uhuhuh:


ล้อเล่นนะคะป้าต่าย   ตอนนี้หนูยังอยู่ กทม ค่ะ  กลับบ้านเมื่อไหร่   จะมีภาพสวยๆมาโชว์ค่ะ   เพราะที่บ้านบอกว่า  อัญชันของป้าต่ายที่หนูปลูกไว้  5  ต้น  งอกแล้ว  1  ต้นค่ะ

หน้า