กลับมาแล้วค้า พร้อมของฝาก

หมวดหมู่ของบล็อก: 

                              ต้องขอโทษทุกคนด้วยค่ะที่หายไปไม่ส่งใบลา แต่ไม่ได้กลับมามือเปล่ามีของมาฝากด้วยค่ะ เชิญชมค่ะ                           

             จากสวนในบ้านเองค่ะ ตัวเค้าใหญ่มากวัดขนาดจากปีกขวาถึงซ้าย ได้ 9 นิ้ว

 

 

                     

 

                    

                    

                    

                    

                         ผีเสื้อหนอนใบกระท้อน 1

            ผีเสื้อหนอนใบกระท้อน

ผีเสื้อหนอนใบกระท้อน

ผีเสื้อยักษ์

?

         Attacus atlas (Linnaeus, 1758)

        ขณะเป็นตัวเต็มวัย

        ขณะเป็นตัวหนอน

        ผีเสื้อหนอนใบกระท้อน หรือ ผีเสื้อยักษ์ เป็นผีเสื้อที่มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Attacus atlas อยู่ในวงศ์ Saturniidae

        จัดเป็นผีเสื้อกลางคืนชนิดหนึ่งที่มีขนาดใหญ่ ระยะที่เป็นตัวหนอนกินใบกระท้อน, ฝรั่ง, ขนุน และใบดาหลา

        ตัวเมียวางไข่บนใบพืชอาหาร ลักษณะไข่กลมสีน้ำตาล ขนาดประมาณเท่าเมล็ดถั่วเขียว ระยะฟักไข่ประมาณ 7 วัน

        เมื่อเป็นตัวหนอนมีปุ่มหนามทั่วตัว ลอกคราบ 5 ครั้ง หนอนวัยที่ 1 ขณะฟักออกจากไข่ ตัวยาวประมาณ 1

         เซนติเมตร หนอนวัยที่ 5 ขนาดตัวยาวประมาณ 6 เซนติเมตร ระยะเวลาที่เป็นตัวหนอนประมาณ 1 เดือน

       ก่อนเตรียมตัวเข้าดักแด้ โดยการถักรังไหมสีน้ำตาลขนาด 3x6 เซนติเมตร

       หนอนลอกคราบเป็นดักแด้อยู่ในรังไหม ระยะดักแด้ 1-6 เดือน

       และลอกออกเป็นตัวเต็มวัยประมาณช่วงเดือนกรกฎาคมไปจนถึงปลายปีและถึงต้นปีถัดไป

       เมื่อโตเต็มวัย มีความยาวจากปลายปีกข้างหนึ่งไปถึงข้างหนึ่งได้ประมาณ 1 ฟุต ลำตัวยาว 4-5 เซนติเมตร กว้าง

       1.5–2 เซนติเมตร ลำตัวและอกคลุมด้วยขนสีนํ้าตาลแดง

      ปีกสีนํ้าตาลแดงหรือสีน้ำตาลส้มมีลวดลายโดยเฉพาะบริเวณเกือบกึ่งกลางปีก มีลักษณะบางใสรูปคล้ายใบโพ

      และเมื่อเป็นตัวเต็มวัยแล้ว จะไม่กินอาหารและจะผสมพันธุ์เพื่อแพร่เผ่าพันธุ์อย่างเดียว

      พบกระจายได้ทั่วไปในอินเดีย จนถึงภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้, อินโดนีเซีย และตอนใต้ของจีน

      โดยจะพบมากในป่ากระท้อน

      ชื่อสกุลและชื่อสายพันธุ์ของผีเสื้อหนอนใบกระท้อนนี้ มาจากคำว่า Atlas ที่หมายถึงเทพแอตลาส 1

      ในหมู่เทพไททันในเทพปกรณัมกรีก ซึ่งเป็นเทพที่มีร่างกายใหญ่โตเหมือนยักษ์และที่ทำหน้าที่แบกโลกไว้นั่นเอง

      ในประเทศไทยได้กลายเป็นข่าวฮือฮาขึ้นมาในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553 ที่อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี

      เมื่อมีชายคนหนึ่งพบผีเสื้อชนิดนี้มาเกาะกินใบของต้นขนุนหน้าบ้าน ด้วยลำตัวที่มีขนาดใหญ่

      ชาวบ้านจึงเชื่อกันว่าเป็นผีเสื้อที่หายาก ใกล้สูญพันธุ์

      ซึ่งในความจริงแล้วผีเสื้อชนิดนี้ไม่ได้เป็นผีเสื้อที่หายากแต่ประการใด[1]

        

 

       ขอบคุณที่เข้ามาชมค่ะ

ความเห็น

ว๊าย...ตายแล้ว ยังเอามือไปเปรียบอีก:freezing:ตัวที่ ๒ ให้นู๋หวิ่งเอามือไปใกล้อย่างงั้น (ขอกลั้นใจตายก่อน):crying::crying::dying::shock:

ชีวิตไม่ได้เกิดมา เพื่อยอมแพ้

ป้าเห็นหนอนแล้วขนลุก บรื่อบรื่อ  

กลัวเหมือนกันค่ะ แต่ถูกบังคับ

:crying2:

.................

วันนี้มีแต่คนเอาหนอนมาฝาก........ไม่รับนะคะ...หนีๆๆ

ชีวืตที่เพียงพอ..

ปริศนา คลี่คลายแล้ว เจ้าตัวนี้ นี่เอง โตขึ้นสวยไม่เบา..



 

 

"ไม่มีอะไรอยู่กับที่ ถ้าเราไม่หยุดเดิน"

แต่ภาวนาอย่ามาใกล้ผักเราเล้ยย

ไปที่อื่นเถอะ :nonono:

""

 

วันนี้ก้จัดการไป 1 ตัว อ้วนๆแบบนี้เลยคะ  กินใบกระสังซะเกลี้ยงต้นเลย


 

หน้า