สเน่ห์ดอกลั่นทม
ดอกลั่นทม เป็นดอกไม้ที่เชื่อว่าหลายคนชอบมาก ยายอิ๊ดชอบคะ และชอบวาด ดอกลั่นทม จำได้ว่าเริ่มชอบตั้งแต่ครั้งหนึ่ง นานมากแล้วประมาณ ป.3ไปงานเผาศพ ใครก็ไม่ทราบ ที่วัดเมาที่เมืองนคร มีดอกลั่นทมสีขาวเต็มไปหมด ทั้งบนต้น และพื้นดิน หอมอ่อนๆ เก็บกลับบ้าน แม่ว่าไม่ได้นะ เป็นดอกไม้ที่เขาจะปลูกไว้ที่วัดที่เผาศพ แต่ยายอิ๊ดมีความรู้สึกว่าหอม และสวยมาก ความคิดนี่ใส่กันได้ว่าให้อะไรเป็นอะไร แม้แต่คนบางคน ไม่มีใครรู้จักยังทำการตลาด โดยการประชาสัมพันธ์ จนคนรู้จักทั้งประเทศยังมีเลย และทำไมหละ ลองเมื่อก่อนบรรพบุรุษ นำไปปลูกในที่ที่ไม่ใช่ที่เผาศพ อาจจะแปลความหมายเป็นอีกอย่างก็ได้ นำมาฝากนะคะ วาดไว้ที่เสื้อหลายเดือนแล้ว ในเฟมวาดอย่างไรก็ไม่เสร็จสักทีคะ อารมณ์ไม่ไป แต่ที่แบ่งปันให้ชมเพราะเป็นสิ่งสวยงามคะ สำหรับสมาชิกบ้านสวนทุกคนคะ
ลั่นทม มิตรมเศร้า ดอกของเจ้า งามจับใจ
สายลม โชยโบกไล้ กลิ่นหอมไกล ช่างอบอวล
...ลั่นทม ตรมเพราะรัก เขามาหัก รักมิหวน
เช้า สาย บ่าย ยังครวญ ดึกยิ่งป่วน ชวนคนึง
...เขาแปร เปลี่ยนไปแล้ว โอ้ว่าแก้ว แววน้ำผึ้ง
เคยรัก ประจักษ์ตรึง ปานประหนึ่ง ดวงชีวา..
... เขาไม่ใยยินดี แม้นาที มิปรารถนา
จะทัก จักพูดจา แม้คำลา มิลาคำ...
... เขาทิ้ง รอยหม่นเศร้า ร่องรอยเหงา ให้จดจำ
วันนี้ โลกสีดำ แต้มรอยช้ำ กับน้ำตา...
.. ฝากหอม ลั่นทมกลิ่น แนบดวงจินต์ จิตแห่งข้า
ภักดี ที่มีมา ให้จิตนา จงยองใย...
มีเรื่องราวเล่าต่อ ๆ กันมาว่า แต่ก่อนนี้ ดอกลั่นทมมีเพียงสีขาวบริสุทธิ์ และเป็นที่รักยิ่งของเทพแห่งแสงจันทร์ ทุกคืนที่แสงจันทร์สาดส่อง ดอกลั่นทมจะอวลกลิ่นหอมขจรไกล มีเทพแห่งแสงจันทร์เคียงใกล้อยู่ไม่ห่าง แต่เมื่อถึงคืนแรมอันไร้จันทร์ ดอกลั่นทม และเทพแห่งแสงจันทร์ก็โศกเศร้า ทุกคราวที่ต้องพรากจากกัน จนในคืนหนึ่ง เทพแห่งแสงจันทร์จึงเอ่ยชวนให้ดอกลั่นทมไปอยู่ด้วยกันบนดวงจันทร์
แต่ ณ ที่นั้น ไม่มีหลากสีสันเช่นบนพื้นโลก ทุกสิ่งล้วนอาบน้ำค้างแสงจันทร์จนเป็นสีเหลืองเรืองรอง
" ก่อนอื่นต้องใช้น้ำค้างแสงจันทร์ระบายให้ทั่วกลีบดอก พุ่มใบ
และลำต้นของเธอเสียก่อน "
เทพแห่งแสงจันทร์กล่าว
แต่ทำอย่างไรจึงจะนำน้ำค้างแสงจันทร์ลงมายังพื้นดินได้ ทันใดนั้นเทพแสงจันทร์พลันเหลือบไปเห็นดอกไม้สีขาวอีกชนิดหนึ่งซึ่งแย้มบานอยู่ใกล้ต้นลั่นทม
" กรวยของดอกไม้นี้ลึกพอที่จะใช้ใส่น้ำค้างได้ "
เทพแห่งแสงจันทร์กล่าวอย่างยินดี
ดังนั้นเทพแห่งแสงจันทร์จึงนำดอกไม้สีขาวกลับไปยังดวงจันทร์เพื่อใช้บรรจุหยาดน้ำค้าง เมื่อกลับมาที่ต้นลั่นทมอีกครั้งเทพแห่งแสงจันทร์ใช้พู่ดอกหญ้าจุ่มน้ำค้างแสงจันทร์จากกรวยดอกไม้ และเริ่มระบายลงที่กึ่งกลางดอกลั่นทม อย่างแผ่วเบา ยังผลให้ส่วนกลางของดอกไม้กลายเป็นสีเหลืองสดใส แต่ทว่าเมื่อเทพแห่งแสงจันทร์จุ่มพู่กันลงในกรวยดอกไม้เป็นครั้งที่สาม เขาพบว่าในนั้นไม่มีน้ำค้างแสงจันทร์หลงเหลืออยู่เลย และดอกไม้แต่เดิมที่เคยเป็นสีขาวบริสุทธิ์ ก็กลับกลายเป็นสีเหลืองสดใสไปทั้งดอก
"ดอกไม้ที่ร้ายกาจขโมยน้ำค้างแสงจันทร์ไปเสียหมด "
เทพแห่งแสงจันทร์ร้องอย่างโกรธแค้น
" ฉันไม่ได้ตั้งใจ และไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไรด้วย "
ดอกไม้สีเหลืองปฏิเสธ
แต่เทพแห่งดวงจันทร์ไม่รับฟัง
ผลุนผลันกลับไปยังดวงจันทร์อย่างรีบร้อน
มีเวลาเพียงแค่คืนนี้เท่านั้น ที่น้ำค้างจะเปลี่ยนสีของดอกลั่นทมได้ เมื่อใดที่แสงอาทิตย์สาดมาต้อง
ต่อให้ใช้น้ำค้างแสงจันทร์มากเท่าไรก็ไม่อาจเปลี่ยนสีของดอกไม้ได้อีก เทพแห่งแสงจันทร์กลับมาหาดอกลั่นทมอีกครั้ง ด้วยความโศกเศร้า ดวงดาวที่เหนื่อยล้าดื่มกินน้ำค้างแสงจันทร์หมดสิ้น ไม่เหลือน้ำค้างแม้เพียงสักหยดเดียวสำหรับดอกลั่นทม ก่อนรุ่งอรุณ ทั้งสองลาจากกันด้วยความเศร้าระทม แต่ต่างให้สัญญาว่าจะมั่นคงกันตลอดไป
ดอกไม้สีขาวรู้สึกละอายใจ ที่เป็นเหตุแห่งความเศร้านี้
จนไม่กล้าบานรับแสงจันทร์ได้เหมือนอย่างเคย มันแย้มกลีบบานเวลาเช้าตรู่ และนอนหลับตลอดคืนอันยาวนาน จนกลายเป็นดอกไม้บานของเวลาเช้าในที่สุด แต่สำหรับดอกลั่นทม ยังคงเศร้าใจอยู่ไม่คลาย สีเหลืองของน้ำค้างแสงจันทร์ที่ระบายไว้ คอยย้ำเตือนให้มันระลึกถึงเรื่องราวอันแสนเศร้านี้อยู่เสมอๆ
ลั่นทมจึงกลายเป็นดอกไม้แห่งความเศร้าระทมตั้งแต่นั้นมา
มีเรื่องราวเล่าต่อ ๆ กันมาว่า แต่ก่อนนี้ ดอกลั่นทมมีเพียงสีขาวบริสุทธิ์ และเป็นที่รักยิ่งของเทพแห่งแสงจันทร์ ทุกคืนที่แสงจันทร์สาดส่อง ดอกลั่นทมจะอวลกลิ่นหอมขจรไกล มีเทพแห่งแสงจันทร์เคียงใกล้อยู่ไม่ห่าง แต่เมื่อถึงคืนแรมอันไร้จันทร์ ดอกลั่นทม และเทพแห่งแสงจันทร์ก็โศกเศร้า ทุกคราวที่ต้องพรากจากกัน จนในคืนหนึ่ง เทพแห่งแสงจันทร์จึงเอ่ยชวนให้ดอกลั่นทมไปอยู่ด้วยกันบนดวงจันทร์
แต่ ณ ที่นั้น ไม่มีหลากสีสันเช่นบนพื้นโลก ทุกสิ่งล้วนอาบน้ำค้างแสงจันทร์จนเป็นสีเหลืองเรืองรอง
" ก่อนอื่นต้องใช้น้ำค้างแสงจันทร์ระบายให้ทั่วกลีบดอก พุ่มใบ
และลำต้นของเธอเสียก่อน "
เทพแห่งแสงจันทร์กล่าว
แต่ทำอย่างไรจึงจะนำน้ำค้างแสงจันทร์ลงมายังพื้นดินได้ ทันใดนั้นเทพแสงจันทร์พลันเหลือบไปเห็นดอกไม้สีขาวอีกชนิดหนึ่งซึ่งแย้มบานอยู่ใกล้ต้นลั่นทม
" กรวยของดอกไม้นี้ลึกพอที่จะใช้ใส่น้ำค้างได้ "
เทพแห่งแสงจันทร์กล่าวอย่างยินดี
ดังนั้นเทพแห่งแสงจันทร์จึงนำดอกไม้สีขาวกลับไปยังดวงจันทร์เพื่อใช้บรรจุหยาดน้ำค้าง เมื่อกลับมาที่ต้นลั่นทมอีกครั้งเทพแห่งแสงจันทร์ใช้พู่ดอกหญ้าจุ่มน้ำค้างแสงจันทร์จากกรวยดอกไม้ และเริ่มระบายลงที่กึ่งกลางดอกลั่นทม อย่างแผ่วเบา ยังผลให้ส่วนกลางของดอกไม้กลายเป็นสีเหลืองสดใส แต่ทว่าเมื่อเทพแห่งแสงจันทร์จุ่มพู่กันลงในกรวยดอกไม้เป็นครั้งที่สาม เขาพบว่าในนั้นไม่มีน้ำค้างแสงจันทร์หลงเหลืออยู่เลย และดอกไม้แต่เดิมที่เคยเป็นสีขาวบริสุทธิ์ ก็กลับกลายเป็นสีเหลืองสดใสไปทั้งดอก
"ดอกไม้ที่ร้ายกาจขโมยน้ำค้างแสงจันทร์ไปเสียหมด "
เทพแห่งแสงจันทร์ร้องอย่างโกรธแค้น
" ฉันไม่ได้ตั้งใจ และไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไรด้วย "
ดอกไม้สีเหลืองปฏิเสธ
แต่เทพแห่งดวงจันทร์ไม่รับฟัง
ผลุนผลันกลับไปยังดวงจันทร์อย่างรีบร้อน
มีเวลาเพียงแค่คืนนี้เท่านั้น ที่น้ำค้างจะเปลี่ยนสีของดอกลั่นทมได้ เมื่อใดที่แสงอาทิตย์สาดมาต้อง
ต่อให้ใช้น้ำค้างแสงจันทร์มากเท่าไรก็ไม่อาจเปลี่ยนสีของดอกไม้ได้อีก เทพแห่งแสงจันทร์กลับมาหาดอกลั่นทมอีกครั้ง ด้วยความโศกเศร้า ดวงดาวที่เหนื่อยล้าดื่มกินน้ำค้างแสงจันทร์หมดสิ้น ไม่เหลือน้ำค้างแม้เพียงสักหยดเดียวสำหรับดอกลั่นทม ก่อนรุ่งอรุณ ทั้งสองลาจากกันด้วยความเศร้าระทม แต่ต่างให้สัญญาว่าจะมั่นคงกันตลอดไป
ดอกไม้สีขาวรู้สึกละอายใจ ที่เป็นเหตุแห่งความเศร้านี้
จนไม่กล้าบานรับแสงจันทร์ได้เหมือนอย่างเคย มันแย้มกลีบบานเวลาเช้าตรู่ และนอนหลับตลอดคืนอันยาวนาน จนกลายเป็นดอกไม้บานของเวลาเช้าในที่สุด แต่สำหรับดอกลั่นทม ยังคงเศร้าใจอยู่ไม่คลาย สีเหลืองของน้ำค้างแสงจันทร์ที่ระบายไว้ คอยย้ำเตือนให้มันระลึกถึงเรื่องราวอันแสนเศร้านี้อยู่เสมอๆ
ลั่นทมจึงกลายเป็นดอกไม้แห่งความเศร้าระทมตั้งแต่นั้นมา
มีเรื่องราวเล่าต่อ ๆ กันมาว่า แต่ก่อนนี้ ดอกลั่นทมมีเพียงสีขาวบริสุทธิ์ และเป็นที่รักยิ่งของเทพแห่งแสงจันทร์ ทุกคืนที่แสงจันทร์สาดส่อง ดอกลั่นทมจะอวลกลิ่นหอมขจรไกล มีเทพแห่งแสงจันทร์เคียงใกล้อยู่ไม่ห่าง แต่เมื่อถึงคืนแรมอันไร้จันทร์ ดอกลั่นทม และเทพแห่งแสงจันทร์ก็โศกเศร้า ทุกคราวที่ต้องพรากจากกัน จนในคืนหนึ่ง เทพแห่งแสงจันทร์จึงเอ่ยชวนให้ดอกลั่นทมไปอยู่ด้วยกันบนดวงจันทร์
แต่ ณ ที่นั้น ไม่มีหลากสีสันเช่นบนพื้นโลก ทุกสิ่งล้วนอาบน้ำค้างแสงจันทร์จนเป็นสีเหลืองเรืองรอง
" ก่อนอื่นต้องใช้น้ำค้างแสงจันทร์ระบายให้ทั่วกลีบดอก พุ่มใบ
และลำต้นของเธอเสียก่อน "
เทพแห่งแสงจันทร์กล่าว
แต่ทำอย่างไรจึงจะนำน้ำค้างแสงจันทร์ลงมายังพื้นดินได้ ทันใดนั้นเทพแสงจันทร์พลันเหลือบไปเห็นดอกไม้สีขาวอีกชนิดหนึ่งซึ่งแย้มบานอยู่ใกล้ต้นลั่นทม
" กรวยของดอกไม้นี้ลึกพอที่จะใช้ใส่น้ำค้างได้ "
เทพแห่งแสงจันทร์กล่าวอย่างยินดี
ดังนั้นเทพแห่งแสงจันทร์จึงนำดอกไม้สีขาวกลับไปยังดวงจันทร์เพื่อใช้บรรจุหยาดน้ำค้าง เมื่อกลับมาที่ต้นลั่นทมอีกครั้งเทพแห่งแสงจันทร์ใช้พู่ดอกหญ้าจุ่มน้ำค้างแสงจันทร์จากกรวยดอกไม้ และเริ่มระบายลงที่กึ่งกลางดอกลั่นทม อย่างแผ่วเบา ยังผลให้ส่วนกลางของดอกไม้กลายเป็นสีเหลืองสดใส แต่ทว่าเมื่อเทพแห่งแสงจันทร์จุ่มพู่กันลงในกรวยดอกไม้เป็นครั้งที่สาม เขาพบว่าในนั้นไม่มีน้ำค้างแสงจันทร์หลงเหลืออยู่เลย และดอกไม้แต่เดิมที่เคยเป็นสีขาวบริสุทธิ์ ก็กลับกลายเป็นสีเหลืองสดใสไปทั้งดอก
"ดอกไม้ที่ร้ายกาจขโมยน้ำค้างแสงจันทร์ไปเสียหมด "
เทพแห่งแสงจันทร์ร้องอย่างโกรธแค้น
" ฉันไม่ได้ตั้งใจ และไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไรด้วย "
ดอกไม้สีเหลืองปฏิเสธ
แต่เทพแห่งดวงจันทร์ไม่รับฟัง
ผลุนผลันกลับไปยังดวงจันทร์อย่างรีบร้อน
มีเวลาเพียงแค่คืนนี้เท่านั้น ที่น้ำค้างจะเปลี่ยนสีของดอกลั่นทมได้ เมื่อใดที่แสงอาทิตย์สาดมาต้อง
ต่อให้ใช้น้ำค้างแสงจันทร์มากเท่าไรก็ไม่อาจเปลี่ยนสีของดอกไม้ได้อีก เทพแห่งแสงจันทร์กลับมาหาดอกลั่นทมอีกครั้ง ด้วยความโศกเศร้า ดวงดาวที่เหนื่อยล้าดื่มกินน้ำค้างแสงจันทร์หมดสิ้น ไม่เหลือน้ำค้างแม้เพียงสักหยดเดียวสำหรับดอกลั่นทม ก่อนรุ่งอรุณ ทั้งสองลาจากกันด้วยความเศร้าระทม แต่ต่างให้สัญญาว่าจะมั่นคงกันตลอดไป
ดอกไม้สีขาวรู้สึกละอายใจ ที่เป็นเหตุแห่งความเศร้านี้
จนไม่กล้าบานรับแสงจันทร์ได้เหมือนอย่างเคย มันแย้มกลีบบานเวลาเช้าตรู่ และนอนหลับตลอดคืนอันยาวนาน จนกลายเป็นดอกไม้บานของเวลาเช้าในที่สุด แต่สำหรับดอกลั่นทม ยังคงเศร้าใจอยู่ไม่คลาย สีเหลืองของน้ำค้างแสงจันทร์ที่ระบายไว้ คอยย้ำเตือนให้มันระลึกถึงเรื่องราวอันแสนเศร้านี้อยู่เสมอๆ
ลั่นทมจึงกลายเป็นดอกไม้แห่งความเศร้าระทมตั้งแต่นั้นมา
ดอกลั่นทม(ลีลาวดี) เป็นสัญลักษณ์ วันงดสูบบุหรี่โลก
- บล็อกของ ยายอิ๊ด
- อ่าน 18216 ครั้ง
ความเห็น
สวนสุขารมย์
30 มีนาคม, 2010 - 00:28
Permalink
พี่นุ
ถ้ายังไม่ง่วงก็อ่านบันทึกของบุ๋มไปพลางก่อนนะ จะไปนอนแล้ว พี่จะได้อยู่เป็นคนสุดท้ายงัย....
เวลาพบกันสั้นนิดเดียว
peenukrab
30 มีนาคม, 2010 - 00:32
Permalink
ครับ
ไม่อยู่เป็นเพื่อนกันก่อนเหรอ
msn ครับ ยินดีรับการแอดพี่น้องบ้านสวนทุกคนครับ trang_ch@hotmail.com
สวนสุขารมย์
30 มีนาคม, 2010 - 00:36
Permalink
ไม่ไหวแล้ว
ไม่ไหวแล้วค่ะพรุ่งนี้ต้องตื่นมาล้างถั่วงอกแต่เช้า บายค่ะ ...
เวลาพบกันสั้นนิดเดียว
ติดดิน
30 มีนาคม, 2010 - 00:43
Permalink
มันเกิดอะไรขึ้น
กุ้ง ล็อกอิน เข้าไม่ได้เนี่ย
ทำวันนี้ให้ดีที่สุด
peenukrab
30 มีนาคม, 2010 - 01:02
Permalink
ฟ้าดินลงโทษ
เป็นตามยายอี๊ดว่าแหละ บางคนฟ้าดินลงโทษ เข้าไม่ได้ ฉมน้ำหน้า
msn ครับ ยินดีรับการแอดพี่น้องบ้านสวนทุกคนครับ trang_ch@hotmail.com
เริง..รมย์
29 มีนาคม, 2010 - 23:51
Permalink
ขอบคุณ แล้วจะลองดู
ขอบคุณครับยายอี๊ด แล้วจะลองดูครับ วันนี้แค่นี้ก่อนนะครับชาวบ้านสวนทุกท่าน พรุ่งนี้ค่อยเจอกันใหม่ครับ..
ยายอิ๊ด
29 มีนาคม, 2010 - 23:53
Permalink
บายคะ
#แตกต่าง.แต่.ไม่แตกแยก#
ann
29 มีนาคม, 2010 - 23:54
Permalink
ราตรีนี้ ฝันดีทุกคน
ราตรีนี้ฝันดีทุกคน ค่ะ....
....ความสุขอย่างแท้จริง ด้วยหลักเศรษฐกิจพอเพียง....
ยายอิ๊ด
29 มีนาคม, 2010 - 23:55
Permalink
บายคะ
เช่นกันคะ
#แตกต่าง.แต่.ไม่แตกแยก#
ติดดิน
29 มีนาคม, 2010 - 23:58
Permalink
ฝันดีค่ะ
ฝันดีเช่นกันค่ะ
ทำวันนี้ให้ดีที่สุด
หน้า