มารู้จักสวนสวรรค์บนดิน

สวัสดีค่ะ   ห่างหายไปพอควร   เพราะต้องทำงานประจำ  และในวันหยุด ก็ยุ่งอยู่กับปฏิบัติการสีเขียว   “Green Please”

ความเดิมตอนที่แล้ว  ได้แนะนำบ้านสวนมูนไล้ท์   สวนบนเนื้อที่ 2 ตรม.    ในระหว่างนั้น  มีความคิดอหังการ อยากมีที่ดินที่เราจะสามารถทำสวนได้อย่างจริงจัง   แต่แล้วก็ถูกคนรอบข้าง (ตั้งแต่ญาติ และเพื่อนๆ )   แสดงความไม่เห็นด้วย  อาทิ เช่น มันเหนื่อยมากน๊ะ    อึ๊ย   งู เงี้ยว เขี้ยวขอ  น่ากลัวทั้งนั้น   สบายๆ  อยู่แล้ว  อย่ารนหาความลำบากเลย  เกษตรพอเพียงไร้สารน่ะรึ   ไม่มีทางทำสำเร็จหรอก   ไม่ทันใจ ใครๆ  เขาก็ใช้สารเคมีกันทั้งนั้น  และ บลา ๆๆ   ตอนแรก ก็นึกโกรธ   เพราะเขายังไม่เคยศึกษา อย่างจริงจังเลย ก็มาด่วนสรุปเสียแล้ว  บางคนก็เป็นคนรักความสะดวกสบาย    อาหารการกินก็ไม่เคยทำ  พึ่งพาแต่อาหารขยะหรืออาหารถุงพลาสติก  ดิฉันเคยคิดว่า  บ้านเมืองเรามีพื้นดินอุดมสมบูรณ์เหมาะกับการทำเกษตรอย่างยิ่ง  ทำไมคนในสังคมส่วนใหญ่ จึงมองเกษตรกรเป็นคนต้อยต่ำ   อาจเป็นเพราะคนไทยยังมองคนที่ภาพลักษณ์มากกว่าที่การกระทำ เมื่อหลายคนไม่เห็นด้วย  ก็เลยหลีกเลี่ยงที่จะคุยเรื่องนี้  เพราะพูดไปก็รังแต่จะเกิดความขัดแย้งกันเปล่าๆ   แต่เราก็ยังมีความฝัน   ไปดูที่หลายๆ แห่ง  ก็ยังไม่ตรงกับสเปกที่อยากได้ จริงๆ แล้ว มักน้อยอยากได้ซักแค่ 2-3 ไร่ เพราะเราตั้งใจจะทำเกษตรแบบประณีต    แล้วในที่สุด  เมื่อเวลาและปัจจัยต่างๆ  ถึงจุดที่ลงตัว เหมือนสวรรค์บันดาล  ทำให้เราได้ที่ดินมาแปลงหนึ่ง   ดีกว่าที่คิดไว้  โดยการแนะนำของคุณแม่เพื่อนสนิทโดยบังเอิญ  เป็นที่ดินประมาณสี่เหลี่ยมจตุรัส ขนาด 10 ไร่   ติดกับถนนซอย  ห่างจากถนนหลักไม่ถึง 100 เมตร น้ำไฟเข้าถึงพร้อม   เห็นแล้วปิ๊งทันทีใช้เวลาตัดสินใจเพียงแค่สองวัน  ก็โอเคเลย

นี่คือสภาพที่ดินบางส่วนก่อนการปรับปรุง

เนื่องจากที่ดินเดิมพื้นไม่ราบเรียบ    เลยปรับที่ดิน ให้เสมอกัน   กันที่ดินไว้สามไร่  ส่วนหนึ่ง  ขุดบ่อน้ำประมาณสี่งาน   ลึกห้าเมตร   โดยต่อน้ำเข้าบ่อจากลำรางสาธารณะ  ดินที่เหลือจากการปรับที่ และจากบ่อก็นำมาถมบริเวณที่จะสร้างบ้านในอนาตค ส่วนหนึ่งจะทำเป็นบ้านดินหลังน้อยๆ  

ปฏิบัติการ  “Green Please”  ขั้นแรก คือปลูกไม้ยืนต้น  เพื่อตอบแทนคุณแผ่นดินส่วนหนึ่ง และสร้างความหลากหลายทางชีวภาพตามที่ใจปรารถนา  อาทิเช่น

 สักทอง  กล้าไม้มงคลที่เพาะเนื้อเยื่อ จากต้นที่ถูกตัดมาทำเสาชิงช้า

ยางนา   ตามพระราชดำรัสของในหลวงที่อยากให้อนุรักษ์พันธุ์ไม้นี้ไว้   มี 7-8 ต้น ตอนนี้ กำลังเพาะเมล็ดอยู่ด้วยค่ะ

 ไผ่ต่างๆ  ไม้โตเร็ว หลากหลายสายพันธ์ เช่น ไผ่ปักกิ่ง หม่าจู ซางนวล ไผ่หวานหนองโดน

กล้วย  ต้นไม้เบสิก ปลูกควบคู่กับต้นไม้ต่างๆ  เพื่อให้ร่มเงา เอื้อประโยชน์ให้กันและกัน

 มะพร้าวน้ำหอม     

ไม้ผลต่างๆ และพืช ที่ชอบ  อาทิ เช่น

และยังมีอื่นๆ อีก  ที่ไม่สามารถกล่าวถึงได้หมด

 ภาพรวมของสวน

ทุ่งรวงทองบนที่ดินของเรา

ทำสวนนี้มาได้ระยะหนึ่ง   ทำให้คิดถึงพ่อ ตอนที่พ่อป่วยอยู่ที่โรงพยาบาล  ทุกคนรู้ดีว่า อีกไม่นาน...... พ่อเล่าว่า เมื่อคืนมีคนมาพาพ่อไปแล้ว   ที่ที่พ่อไปมีต้นไม้ร่มครึ้ม   พ่อนั่งอยู่ริมน้ำลมพัดเย็น ช่างน่ารื่นรมย์และงดงามยิ่งนัก   ซักพัก พ่อก็ต่อรองกับคนคนนั้นว่าอยากกลับบ้านก่อน  เพราะไม่อยากอยู่ในชุดของโรงพยาบาลในที่ที่สวยงามเช่นนี้

หลังจากที่พาพ่อกลับบ้าน   เราจัดให้ในสิ่งที่พ่อต้องการ   พ่ออยากตัดผม โกนหนวดเครา  เราเชิญช่างมาทำให้  

พ่อชอบกินเป็ดพะโล้  เราจัดให้    ให้พ่อได้ใส่บาตร  นิมนต์พระมาเทศน์ที่บ้าน  และอื่นๆ อีกมากมาย เท่าที่จะสามารถทำได้  และเหนือสิ่งอื่นใด คือ คำมั่นสัญญาว่า จะดูแลแฟนพ่อ (แม่) ให้ดีที่สุด

พ่อยู่กับเราอีกหนึ่งเดือน  ก็จากไปอย่างสงบที่บ้าน  ตามเจตนารมณ์ อย่างมีศักดิ์ศรี

ไม่มีใครเสียน้ำตา  เพราะรู้ว่าเราทำดีที่สุดแล้ว  และเชื่อว่าพ่อได้ไปอยู่บนสวรรค์อย่างแน่นอน

ช่างน่าอัศจรรย์ใจยิ่งนัก  สวนนี้   คือสิ่งที่พ่อส่งมาให้   (แรงบันดาลใจ)นั่นเอง และเมื่อย้อนกลับไปตอนยังเป็นเด็ก  พ่อมักจะบอกพวกเราเสมอว่า  “ถ้าอยากได้อะไร ก็ต้องลงมือทำด้วยตนเอง “ 

นั่นก็คือ "สวรรค์บนดินสามารถสร้างได้ด้วยมือของเรา"

 สวัสดีค่ะ   จนกว่าจะพบกันใหม่