การ บำรุงดิน...
หลังจากฝนตกผ่านไป ดินก็ได้น้ำจนอิ่ม หน้าที่จะต้องทำคือ การใส่ปุ๋ย(เป็นปุ๋ยหมักไว้คราวก่อน) http://www.bansuanporpeang.com/node/989 หมักไว้ วันที่ 7-2-53 อยากให้นานกว่านี้อีก แต่ถึงเวลาแล้ว อาศัยธรรมชาติที่ให้ฝนมาช่วงนี้ เอาแน่นอนไม่ได้ด้วย...ต้องเป็นไปตามนั้น... และมีรอบใหม่ที่จะต้องหมักรออยู่ ก็เลยจัดการใส่ก่อน..
การหมักครั้งนี้ถือว่าผ่าน...เป็นคำตอบจากเจ้าของสวน (แต่คราวหน้าขออยู่ด้วยตอนหมัก แอนชอบมั่วสูตร).
แต่จากใช้กับผักและต้นไม้ก่อนบ้างแล้วบางส่วน ถือว่าเห็นผลเป็นที่น่าพอใจจากการสำรวจสวนครั้งที่ผ่านมา..
.เคยอ่าน เจอจาก http://www.bansuanporpeang.com/node/35
ของผู้ใหญ่ว่า เราใส่ปุ๋ยให้ดินหรือให้ต้นไม้
อาหารของต้นไม้
โกย โกย และก็โกย เหนื่อยเราก็เหนื่อย เมื่อยเราก็เมื่อย...
แต่ต้นไม้เอาไปใช้ได้เป็นปี....เราก็ชื่นใจ
ในบรรดาปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการเจริญเติบโตทั้งทางกิ่ง ใบ และการผลิดอกออกผลของไม้ผล นอกจากฟ้าอากาศแล้ว อาหารพืชหรือปุ๋ยนับว่าเป็นปัจจัยโดยตรงในการส่งเสริมการเจริญเติบโตของพืช อาหารพืชเกือบทั้งหมดจะได้มาจากดิน ชาวสวนจึงมักจะคำนึงถึงเรื่องดินแต่เพียงอย่างเดียว ในปีหนึ่งๆ ต้นไม้จะดูดอาหารไปใช้เป็นจำนวนมาก ถ้าไม่มีการเติมธาตุอาหารลงไปแทนส่วนที่สูญหายไป จะทำให้ดินจืดลงทุกทีและในที่สุดดินที่ว่านั้นจะใช้ปลูกต้นไม้ไม่ได้ผล เมื่ออาหารไม่เพียงพอ การเจริญเติบโตของพืชก็จะผิดปกติ และในที่สุดพืชอาจจะตายได้
พืชต้องการธาตุอาหารต่างๆ จากดิน คือไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม แคลเซี่ยมแมกนีเซียม กำมะถัน นอกจากนี้ต้องการธาตุ อาหารรอง เช่น แมงกานีส โบรอน ทองแดงเหล็ก สังกะสี และโมลีบดินัม อาหารพืชที่เราให้ลงไปในดินจะมีทั้งอินทรียสาร และอนินทรียสารอินทรียสาร เช่น ใบไม้ผุ หญ้าหมัก มูลสัตว์ จะช่วยปรับปรุงคุณสมบัติทางกายภาพของดินให้ดีขึ้นเช่น ทำให้ดินร่วนซุย อุ้มน้ำได้ดี นอกจากนี้จะเพิ่มธาตุอาหารให้แก่ดินบ้าง แต่น้อยมาก ตัวอย่างเช่น มูลวัวหรือควาย จะมีธาตุอาหารโดยประมาณ คือ ไนโตรเจน ๐.๘-๑.๓% กรดฟอสฟอริก ๐.๓-๐.๙% เป็นต้น ต้นไม้จะไม่ใช้ปุ๋ยอินทรีย์ในทันที แต่จะ ปล่อยให้ปุ๋ยผุพังโดยผ่านกระบวนการต่างๆ เสียก่อน และจะมีจุลินทรีย์ในดินเข้าช่วยด้วยอาหารพืชที่อยู่ในรูปอนินทรียสาร เช่น แอมโมเนียมซัลเฟต แอมโมเนียมไนเตรต โซเดียมไนเตรต แอมโมเนียมฟอสเฟต ยูเรีย สารเหล่านี้ เป็นแหล่งที่มาของธาตุไนโตรเจน (N) สารพวกซุปเปอร์ฟอสเฟต ดับเบิลซุปเปอร์ฟอสเฟต แคลเซียมฟอสเฟต กระดูกป่น และแอมโมเนียมฟอสเฟตจะให้ธาตุฟอสฟอรัส (P) ส่วนสารที่ให้ธาตุโพแทช (K) ที่นิยมกันมากคือ โพแทสเซียมคลอไรด์ และโพแทสเซียมซัลเฟต ดินจำเป็นต้องได้ธาตุอาหารจากปุ๋ยอนินทรีย์เมื่อดินที่ไม้ผลขึ้นอยู่นั้นมี ธาตุอาหารต่างๆ ไม่เพียงพอ การใส่ปุ๋ยควรกระทำเมื่อพืชขาดธาตุอาหารและใส่ในจำนวนพอดีไม่ขาดไม่เกินตลอด จนให้ธาตุอาหารที่พืชต้องการ
การให้ปุ๋ยไม้ผลนั้นแตกต่างจากการให้ปุ๋ยพืชที่มีรากตื้นๆ เช่น พืชไร่หรือผัก และเนื่องจากไม้ผลยืนต้นมีอายุยืนนานผลของการใส่ปุ๋ยจึงมีความสำคัญยิ่ง กว่า เพราะการขาดธาตุอาหารบางอย่างใช้เวลานานจึงจะแสดงอาหารให้เห็น การให้ปุ๋ยไม้ผลมีปัจจัยที่จะต้องพิจารณาหลายอย่างด้วยกัน เช่น ดิน อายุของต้นชนิดของไม้ผล ปริมาณน้ำฝน ตลอดจนวิธีปฏิบัติงานสวน จึงไม่สามารถกำหนดวิธีและอัตราการให้ปุ๋ยที่แน่นอนตายตัวลงไปได้ ฉะนั้นการให้ปุ๋ยในแต่ละสวนอาจแตกต่างกันออกไป สำหรับหลักทั่วไปในการพิจารณาให้ปุ๋ย ควรมีดังนี้
๒.๑ ควรทราบปริมาณธาตุอาหารที่มีอยู่ในดินหรือในส่วนต่างๆ ของต้นไม้ว่ามีเพียงพอหรือไม่และธาตุอาหารเหล่านั้นพืชสามารถจะเอาไปใช้เป็น ประโยชน์ได้มากน้อยเพียงไร การทดสอบเพื่อหาปริมาณธาตุอาหารอาจทำได้หลายวิธีด้วยกัน เช่น การวิเคราะห์ดิน การวิเคราะห์ส่วนของพืชและการทดลองปุ๋ย ตลอดจนการสังเกตอาการของต้นไม้
๒.๒ ควรทราบความต้องการของต้นไม้ในระยะต่างๆ ของการเจริญเติบโตว่าระยะไหนต้นไม้ต้องการอาหารมากที่สุด และระยะไหนต้นไม้ต้องการธาตุอาหารอะไรมาก ปกติเราแบ่งการเจริญเติบโตของต้นไม้ออกเป็น ๒ ตอน คือ การเจริญทางกิ่งใบ กับการเกิดดอกติดผล ระยะต่างๆ ของการเจริญเติบโตจะต้องการธาตุอาหารแตกต่างกัน ตัวอย่างเช่น กล้วยเมื่อเราปลูกจากหน่อ ในช่วง ๓ เดือนแรกจะกินปุ๋ยน้อย พอเริ่มเข้าเดือนที่ ๔ ซึ่งเป็นระยะแตกเนื้อสาวของกล้วย และจะกินเวลาจนถึงสิ้นเดือนที่ ๖ ช่วงนี้กล้วยต้องการปุ๋ยเป็นจำนวนมากและต้องการไนโตรเจนสูง จึงควรโหมให้ปุ๋ยตั้งแต่เดือนที่ ๔ ถึงเดือนที่ ๖ พอเลยระยะนี้ไปแล้วพืชจะต้องการปุ๋ยลดลง ถ้าเราใส่ปุ๋ยมากพืชก็จะนำไปใช้เป็นประโยชน์ได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้นการให้ ปุ๋ยกล้วยเมื่อเลยเดือนที่ ๖ หลังจากปลูกไปแล้วควรเป็นปุ๋ยที่ช่วยปรับปรุงคุณภาพของกล้วย นั่นคือ ควรมีธาตุโพแทชสูง
๒.๓ ควรใส่ปุ๋ยเพื่อให้ต้นไม้ให้ผลกำไรมากที่สุด พืชโดยทั่วไปต้องการธาตุอาหาร N:P:K: ในอัตราส่วน ๕:๑:๒ ซึ่งในอัตราส่วนนี้ธาตุอาหารทั้ง ๓ จะมีอำนาจเท่าๆ กัน และธาตุอาหารจะเป็นประโยชน์ต่อพืชมากที่สุด หรือจะกล่าวอีกอย่าง หนึ่งถ้าดินปลูกพืชไม่มีธาตุอาหารอะไรอยู่เลย และสภาพแวดล้อมอื่นเหมาะแก่การเจริญเติบโตของพืช ถ้าเราให้ปุ๋ยพืช N:P:K: ในอัตรา ๕:๑:๒: แล้วพืชนั้นจะเจริญเติบโตสามารถให้ดอกผลอย่างดียิ่งเพราะธาตุทั้งสามไม่เป็น ปฏิปักษ์ต่อกัน
๒.๔ การใส่ปุ๋ยควรแบ่งใส่หลายๆ ครั้งต่อปีธาตุอาหารบางอย่าง เช่น ไนโตรเจน เมื่อให้ลง ไปในดินแล้วจะไหลซึมได้ง่าย ถ้าเราให้ในปริมาณมากๆ ในครั้งเดียวพืชจะเอาไปใช้ไม่ทัน และธาตุอาหารอื่นๆ ก็มีลักษณะคล้ายๆ กัน กล่าวคือ พืชจะทยอยใช้ เพื่อป้องกันไม่ให้ปุ๋ยเสียไปโดยเปล่าประโยชน์ การใส่ปุ๋ยจึงควรแบ่งใส่ ๒-๓ ครั้ง หรือมากกว่าต่อปี ทั้งนี้ต้องคำนึงถึงอายุของต้นไม้ด้วยไม้ผลที่ยังเล็กอยู่ควรแบ่งใส่หลายๆ ครั้ง เพราะระบบรากยังไม่แข็งแรงพอ ไม้ผลที่โตแล้วมักแบ่งใส่เป็น ๓ ครั้งต่อปี เช่น ครั้งแรกให้ก่อนหรือต้นฤดูฝน ครั้งที่สองให้ตอนปลายฤดูฝน และอีกครั้งหนึ่งตอนก่อนออกดอก หรือหลังเก็บเกี่ยวผลแล้วอย่างไรก็ดีควรพิจารณาสภาพท้องที่ และชนิดของไม้ผลประกอบด้วย
- บล็อกของ ann
- อ่าน 10215 ครั้ง
ความเห็น
กระต่ายดำ
1 เมษายน, 2010 - 23:15
Permalink
เก่งเกินตัว
คุณแอนเก่งจังครับ ลงมือทำด้วยตัวเองเลยหรือ ผู้หญิงตัวเล็กๆ น่าชื่นชม
จะปลูกต้นไม้ในใจเธอ
ป้าเล็ก..อุบล
2 เมษายน, 2010 - 04:19
Permalink
ขยัน
น้องแอนขยันจริง
084-167-4671
anongrat2508@hotmail.com
สุชญา
2 เมษายน, 2010 - 04:44
Permalink
หญิงเหล็ก
หญิงเหล็ก ทำงานเก่งจริงๆๆ
จันทร์เจ้า
2 เมษายน, 2010 - 07:34
Permalink
โห..น้องแอน
น้องจำสูตรทั้งหมดนี่ได้เหรอเนี่ยปวดหัวแทนเลย
น้องสุดยอดมากๆทำเองกับมือแบบนี้รับรองได้ ว่าพืชผักงาม พี่รับรอง
พอเพียง และ เพียงพอ บ้านไร่จันทร์เจ้า
ยายอิ๊ด
2 เมษายน, 2010 - 09:15
Permalink
เก่งมากน้อง
นี่พี่ต้องลอกหลาวแหละลอกหลายอย่างแล้วนิ ไม่แน่ต้องไปลอกที่บ้าน ระวังตัวให้ดีนะจ๊ะ
#แตกต่าง.แต่.ไม่แตกแยก#
ann
2 เมษายน, 2010 - 13:17
Permalink
ยินดีค่ะ
ยินดีค่ะ ยายอี๊ด เมื่อก่อนแอนเข้าเมืองบ่อย....แต่ตอนนี้ไม่ค่อยได้ไป ไม่งั้นก็ได้เจอยายอี๊ดแล้ว....
....ความสุขอย่างแท้จริง ด้วยหลักเศรษฐกิจพอเพียง....
ยายอิ๊ด
2 เมษายน, 2010 - 14:17
Permalink
ตอนนี้อยู่ซอง
เจอ...ยากแอนเหอ ตั้งแต่ออกจากงานประจำ ทำซองอยู่ค่ะ หาตัวยาก
นอกจากในหรางไปบ่อยสุด กับร้านหนังสือ ถ้าที่บ้านก็อยู่ซองจ้า...
#แตกต่าง.แต่.ไม่แตกแยก#
panatda
2 เมษายน, 2010 - 09:18
Permalink
น้องแอน บำรุงเผื่อพี่ด้วย
น้องแอนทำเผื่อพี่ด้วย จะปลูกแตง ญี่ปุ่น ขอซื้อดืินจากน้องเแอนบ้าง ขายรึเปล่าวๆๆเนี่ย
panatda
2 เมษายน, 2010 - 09:22
Permalink
เรื่องเกษตร เนี่ย ทำไม่เป็นเลยต้องซื้อๆๆๆนะคะ
เรื่องแบบนี้ไม่มีความรู้เลยเรา จริงๆๆจะ ซื้อดินทีกระถางที ต้องขนกลับบ้านนั่งแท๊กซี่ ลูกเดียว (ขนกลับบ้านไม่ไหว เลย ๆๆๆ)
ann
2 เมษายน, 2010 - 13:13
Permalink
จะไปญี่ปุ่น
ขอเรียกพี่แป๋วนะค่ะ.....ไม่ขายค่ะ แต่จะเอาไปให้ฟรีที่ญี่ปุ่น แลกกับต้นซากุระนะค่ะ (ฝันตอนเที่ยง)zzzz.....
เอ้....แตงไท กับแตงญี่ปุ่นจะเหมือนกันรึเปล่าค่ะ?......
....ความสุขอย่างแท้จริง ด้วยหลักเศรษฐกิจพอเพียง....
หน้า