แล้วเราก็ต้องจากกัน ไปดีเถิดนะ

หมวดหมู่ของบล็อก: 

วันนี้(เสาร์ที่ 3 ก.ย.) เป็นอีกวันที่ได้ยินเสียงกระรอกซึ่งอยู่บนต้นมะไฟข้างบ้านร้องแปลกๆ ผมมองไปที่ต้นเสียงเห็นแต่กระรอกขาวเจ้าของเสียงกำลังส่งเสียงพร้อมกับกระดกหางขึ้นลง และไต่ไปมาบนกิ่งไม้ใกล้กัน แต่ผมก็ไม่เห็นสิ่งผิดปกติใดๆ ตอนที่ได้ยินเสียงกระรอกผมนั่งอยู่ตรงโต๊ะกินข้าวหลังบ้านซึ่งสามารถมองเห็นต้นมะไฟต้นที่ว่านี้ได้ สักพักผมก็ลงจากบ้านเพื่อไปดูแลต้นไม้ตามปกติ และไม่ได้สนใจเสียงกระรอกอีกเลย จนกระทั่งได้ยินเสียงยายสายเรียกมาจากห้องน้ำ ว่าให้มาดูอะไรที่ต้นมะไฟ ผมจึงเดินไปดู

เจอเจ้านี่ครับ เจ้าเหลือมตัวเดิม แอบขึ้นไปบนต้นมะไฟตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ สงสัยจะพยายามเข้าที่พักของตัวเองที่อยู่โคนต้นมะไฟ แต่เข้าไม่ได้เพราะผมปิดทางเข้าไปแล้ว ก็เลยหาที่นอนใหม่ นอนมันบนต้นไม้นี่แหละหมาไม่มากวนดี ถึงว่าสิ ทำไมเจ้ากระรอกถึงร้องเสียงแปลกๆ ตอนที่มองจากบนบ้านไม่ยักเห็น

ดูเจ้าเหลือมสิ กิ่งมะไฟก็เล็กนิดเดียวขึ้นไปขดอยู่ได้ ไม่กลัวกิ่งหักเลยนะ

ผมปรึกษากับยายสายว่าจะเอายังไงกับเจ้าเหลือมตัวนี้ดี เพราะเขาคงไม่ไปที่อื่นแน่ๆ (ตอนที่เจอครั้งแรกบอกแล้วนะเนี่ยว่าให้ไปอยู่ที่อื่น ไม่ยอมเชื่อกันบ้างเลย) เมื่อวาน (ศุกร์ที่ 2 ก.ย.) ตอนเย็นถอนหญ้าที่รกๆด้านหลังบ้านก็เจอกันแล้วครั้งหนึ่ง เลื้อยนวยนาดผ่านหน้าเราไปเฉยเลย ผมจึงบอกให้ยายสายได้รับรู้ว่าเจ้าเหลือมมันยังไม่ได้ไปไหน เพ่นพ่านอยู่ในบริเวณบ้านนี่แหละ ปรึกษากันแล้วคิดว่าถ้าปล่อยไว้อย่างนี้คงไม่ดีแน่ เจ้าเหลือมอาจถูกหมาข้างบ้านที่มีอยู่ 4-5 ตัวฟัดตายแน่ เพราะหมาบ้านนี้เคยฟัดงูมาแล้วหลายตัว หรือไม่ผมหรือยายสายอาจเผลอไปเหยียบมันเข้าสักวัน และมันอาจจะกัดเราได้ถึงแม้ไม่ใช่งูพิษก็เถอะ จึงสรุปได้ว่าให้คนมาจับแล้วเอาไปปล่อยเขาไหญ่ดีกว่า

ภารกิจจับงูบนต้นไม้จึงเริ่มขึ้น เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยใช้อุปกรณ์เป็นไม้ยาวๆมีห่วงสำหรับรัดคองูอยู่ตรงปลาย คล้องคอเจ้าเหลือมได้อย่างง่ายดาย แล้วดึงลงจากต้นไม้ ขณะดึงไม่รู้ว่าเจ้าเหลือมปวดอึอยู่พอดี หรือกลัวก็ไม่รู้ อึราดออกมากองใหญ่เลย ขอบอกว่าอึงูเหม็นมากๆ

ถูกจับโดยละม่อม มีขัดขืนกันบ้างพอเป็นพิธี

นี่ไงน้องที่เป็นคนจับ (ชื่อละม่อมหรือเปล่าน้า)

ลงถุงปุ๋ยซ๊ะดีๆ

เจ้าหน้าที่กู้ภัยใช้เวลาประมาณ 5 นาทีเอง....เรียบร้อย

เสร็จสิ้นภารกิจ ผมบอกว่าเดี๋ยวจะพาเจ้าเหลือมไปปล่อยที่เขาใหญ่ เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงขอตัวกลับ

ขอบคุณเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิสว่างวิชชาธรรมสถาน ปากช่อง ที่ให้ความช่วยเหลือ

พอเจ้าหน้าที่กู้ภัยกลับไปแล้ว ตาคนนี้ก็แอบอ้างผลงานทันที ทำเป็นแอ็คชั่นถ่ายรูป เหมือนตัวเองเป็นคนจับอย่างนั้นแหละ (เรียนแบบเจ้าหน้าที่กู้ภัยด้วยการถ่ายรูป แล้วเอานิ้วชี้ไปที่ต้นเหตุ)

แล้วก็ถึงเวลาออกเดินทางสู่เขาใหญ่ ที่อยู่ใหม่ของเจ้าเหลือม ไปล่าเหยื่อแปลกๆใหม่ๆกินตามสบายเลยนะ

ระหว่างทางมุ่งหน้าสู่เขาใหญ่

ถึงด่านขึ้นเขาใหญ่ลงไปแจ้งเจ้าหน้าที่ว่าขอขึ้นไปปล่อยงูหน่อย เจ้าหน้าที่ถามว่ากี่ตัว ผมบอกว่าตัวเดียว เจ้าหน้าที่บอกว่าปกติไม่อนุญาตให้นำไปปล่อย แต่ตัวเดียวให้ฝากไว้เดี๋ยวเจ้าหน้าที่จะจัดการให้ เป็นอันว่าภารกิจนี้จบลงเพียงแค่ประตูทางขึ้นเขาใหญ่ ไปดีเถอะนะเจ้าเหลือม

ท้ายนี้ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่วนอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ที่ช่วยนำเจ้าเหลือมไปปล่อย ขอบคุณครับ   

ความเห็น

พึ่งไปเองเหรอลุงโรส...ถ้าเป็นผมอยู่ร่วมโลกด้วยกันไม่ได้นานแน่ ๆ ลุง เห็นแล้วกลัวจริง ๆ ครับ

 

สงสารเขา เขาก็คงรักชีวิตเหมือนเรานะ ปล่อยเขาไปน่ะดีแล้ว

งูตัวใหญ่ขนาดนี้  คงไม่มีใครอยากฝันถึงมั้งคะ 

อ๋อ ชอบงูตัวเล็กๆเหรอ

ดีนะครับเจอก่อนทุกที สัพเพสัพตา อเวรา โหนตุ

 การทำงานต้องรู้จริงทำจริงจึงประสบกับความสำเร็จ

 ครับ ก็แผ่เมตตาให้กันไป

ว่าแล้วลุงโรส...ไปปิดทางเข้าที่อยู่เขา..เขาเลยต้องหาที่นอนใหม่...ดีนะไม่เข้าไปอยู่ในบ้าน...สงสารแต่เจ้ากระรอกนอ้ย...

คิดให้แตกต่าง...แต่อย่าแตกแยก

เข้าบ้านไม่ได้หรอกครับ เพราะมีมุ้งลวดเหล็กดัด และลวดตาข่ายป้องกันรอบบ้าน ตุ๊กแกยังเข้าไปภายในบ้านไม่ได้เลย

อนุโมทนา กับลุงโรสด้วยนะคะ ที่เอาเจ้ายักษ์นี่ไปปล่อย :cute:

สงสัยวันนี้ต้องเข้ามาดูบ่อยๆ เผื่อจะได้เก็บไปฝันบ้างแล้วล่ะค่ะ :embarrassed:

อย่างน้องก้อยยังต้องฝันอีกเหรอ โอ๊ย ไม่ต้องฝันแล้ว ตอบ OK ก็จัดงานกันเลย ลุงโรสกับยายสายจะได้ไปช่วยงานด้วย

หน้า