เตารมควันอาหาร

สวัสดีครับเพื่อนสมาชิก

วันนี้อยากนำเตาอบรมควันอาหารแบบง่ายๆ มาแนะนำเพื่อทำอาหารรมควันทานเองที่บ้าน ไม่เสียเวลามากมายนัก แถมมีของอร่อยอร่อย หอมหวลชวนรับประทาน ไม่ต้องซื้อหาอาหารรมควันราคาสูงที่จำหน่ายตามห้างฯมารับประทานให้เปลืองสตางค์ครับ แอ่นแอ๊น!!

และนี่ก็คือเตาอบรมควันที่ 199 Hideaway ครับ

ขนาดของเตา 0.5 เมตร x 0.5 เมตร สูง 2.0 เมตรครับ ใช้ไม้หน้าสาม หรือเล็กกว่า ทำเสาสี่ด้าน และกรอบ 3 ตอนที่ฐาน ตรงกลาง และส่วนต่อกับหลังคา ใช้ไม้ระแนงความกว้างขนาด 3 ซม ตอกรอบด้านเว้นระยะห่างระหว่างไม้แต่ละแผ่นประมาณครึ่งเซนติเมตร ด้านหน้าทำบานประตูสองบาน ด้านบนเป็นบานประตูสำหรับเปิดแขวนอาหารที่ต้องการรมควัน และก็สามารถเปิดตรวจสอบระหว่างการรมควันได้ ส่วนด้านล่างเป็นประตูสำหรับการเติมเชื้อควัน

ทีนี้มาเปิดดูข้างในกันครับ ไม่เห็นมีอะไรเลย

ก็จะเห็นว่าง่ายมากเหลือเกิน ตอกตะปูไว้ตามโครงไม้ด้านบน และตอนกลาง เพื่อเอาไว้แขวนตัวลวดที่ใช้เกี่ยวอาหาร ตอนบนจะดีกว่าตอนกลางครับ เพราะจะได้อาหารรมควันที่หอมกว่า ส่วนตอนกลางอาหารจะสุกเร็วกว่า เพราะความร้อนจากเตาด้านล่าง ไม่ค่อยอร่อยเท่าที่ควร

ด้านล่างก็เป็นเตาถ่านธรรมดานี่หล่ะครับ ใช้ขนาดใหญ่หน่อยจะได้ควันมากสม่ำเสมอดีครับ

จากนั้นเราก็เตรียมอาหารที่เราต้องการรมควันมาผ่านกระบวนการปรุงในแบบที่เราต้องการ เราเลือกอาหารรมควันเป็นอะไรก็ได้ที่เราชอบทาน เช่นปลา หมู ไก่ แต่ที่บอยชอบสุดก็เห็นจะเป็นปีกไก่ครับ เอามาเคล้ากับเครื่องปรุง ตามที่เราชอบจะให้เป็นแบบไทยหรือแบบฝรั่งก็แล้วแต่ลิ้นของใครนะครับ แต่ที่บอยชอบมากก็เห็นจะเป็นแบบเคล้าเกลืออย่างเดียว เพราะว่าเนื้อไก่จะมีรสเค็มหน่อย แล้วก็กลิ่นรมควันชัดเจน ไม่ต้องมีกลิ่นเครื่องเทศใดมารบกวนครับ

เอาใส่เตาหล่ะนะครับ

เตานี้จะอบปีกไก่ได้ประมาณ 40 ปีกครับ พอทาน แล้วก็สามารถเก็บไว้ทานวันหลังได้ด้วยครับ หรือว่ามีเพื่อนไปเยี่ยมหา เราก็มีของรับประทานรับรองเพื่อนฝูงญาติมิตรในราคาประหยัดครับ

จากนั้นก็เริ่มจุดเตา เราจะไม่ใช้ฟืน ไม่ใช้ขี้ไต้ นะครับ เพราะจะทำให้อาหารเหม็นควันฟืน แต่บอยจะใช้ฝอยมะพร้าว ที่ตะกุยจากเปลือกมะพร้าวแห้ง ใส่ลงไปในเตา แล้วเริ่มจุดไฟที่นั่นหล่ะครับ ได้เป็นเปลวไฟอย่างที่เห็นข้างล่างนี้ครับ

เมื่อเห็นว่าไฟติดดีแล้ว เราก็สุมเปลือกมะพร้าวแห้งลงไปอีกชั้นหนึ่งเพื่อให้เป็นเชื้อไฟ จากนั้น ก็ให้ใช้เปลือกมะพร้าวสด คลุมเปลวไฟให้มิด เท่านี้ก็จะได้ควันมากมายสำหรับรมควันได้อย่างดีครับ ก่อนปิดประตูเตา เราก็โรยกากมะพร้าว (ที่ได้จากการคั้นกะทิทำอาหารไม่เว้นแต่ละวันเอาไปตากแห้งเก็บไว้) โรยหน้าบนเปลือกมะพร้าวเอาไว้ จะสังเกตุว่า เมื่อโรยกากมะพร้างลงไปปั๊ป กลิ่นควันก็จะหอมฟุ้งยั่วน้ำลายแล้วหล่ะครับ อ้อ! ลืมบอกไปครับว่า ช่วงล่างของเตาอบ บอยกรุด้วยแผ่นสังกะสี หากเกิดไปลุกก็จะไม่ไหม้โครงสร้างครับ

ต่อจากนั้นเราก็ปิดเตา เราก็จะได้เห็นเตารมควันหน้าตาน่ารัก ควันโขมง

ข้อดีก็คือใช้ไล่แมลงได้ เหมาะกับการใช้ในบ้านสวนมากกว่าครับ ถ้าทำทานที่บ้านที่กรุงเทพฯ ควันอาจจะรบกวนเพื่อนบ้านได้ครับ หรือไม่ก็อาจจะมีใครเรียกรถดับเพลิงมาให้ด้วยความหวังดีครับ

เมื่อปิดเตาแล้วก็ไม่ต้องใส่ใจมากมาย คอยมองดูว่า ควันหายไปรึเปล่า มี 2 กรณีที่ควันหายไปก็คือ เตาลุกเป็นไฟ ก็ให้เอาน้ำพ่นลงไปให้ไฟหยุดลุก ควันก็จะเกิดเหมือนเดิม ใช้ขี้เถ้ากลบเปลวไฟก็ได้ครับ แต่บอยไม่ชอบเพราะว่า ฝุ่นจะคลุ้งขึ้นไปเกาะเนื้อไก่ อีกกรณีหนึ่งคือไฟอาจจะดับเพราะว่าเราใส่เปลือกมะพร้าวเปียกมากไป เดินผ่านทีก็เติมกากมะพร้าวที ไม่ยุ่งยากไม่เสียเวลาวันหยุดแต่อย่างใด เมื่อเปลือกมะพร้าวเปียกเริ่มแห้งและติดไป ก็ให้เติมเปลือกมะพร้าวเปียกคลุมเปลวไฟไว้อีกครับ

พอเวลาผ่านไป 8 ชั่วโมง เราก็ดับไฟ เนื้อไก่ก็จะไม่แห้งเกิน หนังไก่ก็จะแห้ง ผิวนวล ไม่มีน้ำมันเยิ้ม วางไว้ข้างนอกอย่างไรก็ไม่เน่าไม่เสียครับ

แต่บอยมักจะแพ๊ค เอาไว้พอดีมื้อ เช่นแพ๊คละ 5-8 ปีก เก็บเข้าช่องแช่แข็ง เมื่อต้องการทำอาหารครั้งต่อไป ก็เอาออกมา ทอด ย่าง หรือ บางคนก็ชอบทานโดยไม่ต้องปรุงด้วยความร้อนก็ได้ครับ แต่ทำให้สุกอีกทีดีกว่าครับ

เมื่อนำมาทอดหนังจะกรอบน่าทาน สนุกสนานในครัวเรือน หรือเอามาทำให้ดูหรูหราได้ในแบบประหยัด เมื่อเร็วๆ นี้ได้ทำบุญเลี้ยงพระที่สวน ก็ได้นำปีกไก่รมควันมาทอด เป็นหนึ่งในอาหารที่ถวายเพลพระสงฆ์ด้วยครับ เห็นจานปีกไก่รมควัน มั๊ยครับ

หรืออีกครั้งหนึ่งมีเพื่อนฝรั่งมาเที่ยวที่สวน ก็ได้ทอดปีกไก่รมควันให้เพื่อนทานพร้อมกับอาหารเช้าแบบที่เขาชอบ ก่อนที่จะให้ลุยสวน มาทำอาหารไทยทานกัน

เห็นหลังคาเตาอบอยู่ในภาพด้วยมั๊ยครับ บอยเอาไว้ใกล้ครัว แล้วก็โต๊ะอาหาร ก็ไม่เกะกะตาเลยครับ วันนี้ก็ขอจบเรื่องเตาอบรมควันไว้เท่านี้ครับ

บอย