เริ่มจากสวนร้าง

หมวดหมู่ของบล็อก: 

เดือนธันวาคม เพื่อนสาวพาไปเที่ยวบ้านสวนชานเมืองริมสันทราย  บ้านเพื่อนสาวมีพื้นที่สามไร่ ปลูกบ้านสวยมากแต่เป็นลักษณะคล้ายๆรีสอร์ต นอกจากต้นไม้อายุร่วมสามสิบปีแล้ว

มีดอกไม้เพิ่มบางส่วน มีกล้วยไม้หลายชนิดและเป็นสวนลั่นทม(ขอเรียกลั่นทม)

 

มีสวนบอกขายใกล้กันอยู่หลายล๊อค บ้างขายยกแปลง บ้างแบ่งขาย แต่ที่ไปตกหลุมรักคือสวนร้างแปลงนี้ เพราะเจ้าของมีอาชีพรับเหมาก่อสร้าง มีที่หลายแปลง และมีอาชีพรับซื้อของเก่า สวนนี้จึงเป็นที่เก็บเศษเหล็ก กระเบื้อง และขยะทุกชนิดเพื่อรอขายตอนที่ราคาดี 

 

ถนนคอนกรีตเข้าไม่ถึง  มีบ้านอยูหลายหลังมาก ลุ้นว่าให้มีงบคอนกรีตผ่านสวนเร็วๆ ช่วงหน้าแล้งถนนฝุ่นลูกรังสีแดงคลุ้งไปหมด แต่น้ำจากเขื่อนจะปล่อยมาสองหรือสามอาทิตย์ครั้ง  แต่คิดว่าเจ้าของเก่าไม่มีเวลาจัดการน้ำ เลยไม่มีส่วนกักเก็บน้ำใว้ใช้ทำสวน นอกจากปล่อยน้ำเข้าสระ เข้าสวน แต่ลักษณะดินเป็นดินทรายไม่อุ้มน้ำ น้ำจึงระเหยทิ้ง  ส่วนของชาวบ้านที่อยู่ปลายซอยก็จะทะเลาะกับเจ้าของเก่า เพราะหน้าแล้งน้ำส่งไปไม่พอใช้

หญ้าขึ้นรกมาก เจ้าของเก่าใด้ปรับหน้าดินจากส่วนท้ายสวนซึ่งเป็นพื้นที่สูงมาถมหน้าสวน ทำให้สวนสูงเท่ากับระดับถนน  พอเข้าฤดูฝนตกหนัก เพื่อนบ้านจะมีน้ำขัง แต่สวนเราส่วนหน้าสวนน้ำไม่ท่วม

มีที่เพาะพันธุ์ไม้ เราขอเจ้าของเก่าใว้ ตอนนั้นเหล็กกิโลแปดบาท เจ้าของเก่าคงสงสารเลยทิ้งเหล็กและไม้ใว้หลายรายการ รวมทั้งอุปกรณ์การเกษตรหลายอย่าง ถ้าต้องซื้อใหม่หมดก็คงเป็นเงินหลักหมื่น โกดังก็ไม่รื้อไป แต่ที่รู้คือพี่เค้าขายเหล็กที่เก็บใว้สามครั้งประมาณแสนกว่าบาท แต่ก็ยังมีเศษตะปู เศษเหล็ก ที่เราย้ายเข้าแล้วตามเก็บขายใด้ห้าพันกว่าบาท เป็นรายใด้ของสวนเราครั้งแรก  

ช่วงหน้าแล้งถึงจะรกแต่ยังพอมองเห็นดินอยู่บ้าง ไม่ใด้รกมากเหมือนตอนนี้

 

ระบบน้ำเข้าสวน ที่ต้องทำใหม่หมด แต่ต้องรอเก็บงบก่อน

ต้นสตาร์แอ๊ปเปิ้ล(แอ๊ปเปิ้ลสตาร์)เรียกไม่ถูก มีอยู่ประมาณสิบห้าต้น พอเป็นร่มใด้ พุ่มสวย ใบสวย ลูกสวย แต่ตอนนี้ยังไม่ติดลูก

 

สวนแก้วมังกร แต่หลักแก้วมังกรทำใส้ไม้เจ้าของทำเอง จึงผุและก็หักทิ้งเยอะ ตอนนี้ดันตรงนี้ทิ้งหมด เหลือใว้หน้าสวนประมาณสามสิบหลัก ที่ทิ้งไปน่าจะประมาณสองร้อยหลัก ปลูกถี่มาก จัดการลำบาก

มีชมพู่ กระท้อน มะปราง มะม่วง ขนุน อยู่อีกด้าน ส่วนอีกด้านเป็นสวนพุทรายกร่อง 

ต้นสมอ ฝรั่งไร้เมล็ด ฝรั่งกิมจู จะเก็บใว้ น้อยหน่า(พันธ์ธรรมดา จะตัดทิ้งแล้งนี้)

 

 

สวนพุทรา เราต้องอยู่ในเมืองเพราะลูกติดโรงเรียน บอกน้องชายว่าให้เหลือใว้สักสามต้น แต่พอเราเข้าไปดู โดนตัดทิ้งหมด ปีนี้ไม่มีพุทราและน่าจะใด้ซื้อกินแน่ๆ

มีตะไคร้หอมเก็บใว้ทำพันธุ์อยู่ห้ากอ  นอกนั้นดันทิ้งหมดเพราะรกมาก เราคนเดียวคงจัดการไม่ใหว

 

 

รกมาก

สวนอยู่หลังเขา ต่อไปบ้านประหยัดพลังงานจะปลูกอยู่แถวนี้แหละ อย่างน้อยก็ยังอยู่ใกล้เขา

เริ่มจุดเริ่มต้นของสวนศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ เมื่อปลายเมษา ปี54  จุดเริ่มต้นของ Eco Rim san Sai ไม่ใช้ยาฆ่าหญ้า ไม่ฉีดยาทุกชนิด นกและกระรอกเยอะมาก หนู กบ เขียด แมลง เยอะมาก และน่าจะมีงูเยอะเหมือนกัน เพราะสวนทั้งสองข้างรกมาก สวนนี้ที่คนรอบข้างคนใกล้ตัวหาว่าเราหาเหาใส่หัว อยู่ดีไม่ชอบ เป็นผู้หญิงตัวคนเดียว พ่อบ้านก็ไม่ใด้มาช่วยเพราะต้องทำงาน สองเดือนกลับที มาก็ไม่กี่อาทิตย์ ลูกยังเล็กไม่พอใด้ช่วยงาน แต่เราก็ดันเสาะหางานหนักมาใส่ตัวจนใด้ แต่ทั้งหมดนี้ก็ใด้แรงใจจากครอบครัว แรงงานจากน้องๆช่วยใด้เยอะ ฝันถ้าไม่เริ่มต้นก็คงเป็นใด้แค่ฝัน และเราไม่เคยคิดว่าทุกอย่างจะต้องปูไปด้วยกลีบกุหลาบ เมื่องบน้อยทุกอย่างก็ต้องทำแบบค่อยเป็นค่อยไป  ตอนนี้สองมือหยาบกร้าน หน้าดำ ตัวดำ เท้าสองข้างเป็นตุ่ม เป็นแผลเป็น หุ่นเหมือนนักยกน้ำหนัก และก็หมดเงินค่าแท๊กซี่เข้าออกทุกอาทิตย์เพราะขับรถไม่เป็น  แต่ทุกครั้งที่ใด้เข้าสวนเราก็มีความสุขมากๆ ลืมความทุกข์ไปใด้เยอะ ไม่ใด้เข้าวัดทำสมาธิ แต่การเข้าสวน ทำงานหนัก ก็ปลดทุกข์ไปใด้เหมือนกัน นี่คือจุดเริ่มต้นของ Eco Rim San Sai ค่ะ

ความเห็น

หลังจากได้อ่านอุปสรรคที่คุณเอ็กโคได้เขียนเล่าแล้วต้องขอชมเชยจากใจว่าคุณกล้าหาญชาญชัยมากเลยค่ะ  งานก็หนักอย่างนั้น  แต่อนาคตที่ดีกำลังจะมาให้ชื่นใจในไม่ช้านี้   พี่เองเป็นคนกรุงฯมาโดยตลอดก็ชอบทำสวนเป็นงานยามว่าง  ยังไม่อาจหาญซื้อสวนเลยค่ะ   เพราะตัวอยู่เมืองนอกมากกว่าครึ่งปี  รอให้ได้มาอยู่ไทยนานกว่านี้จึงจะกล้าแบบคุณน่ะค่ะ  แต่ถ้าซื้อที่ดินทิ้งไว้ก่อนก็ว่าจะทำอยู่นะคะ

เอาใจช่วยค่ะสู้ๆ

หน้า