ขอความรู้เรื่อง EM Ball ค่ะ
สวัสดีค่ะเพื่อนสมาชิก
ช่วงนี้น้ำท่วมหนักมากกกก หลายที่ก็เริ่มเน่าเสียแล้ว มีหลายหน่วยงานที่สนับสนุนให้ใช้ EM Ball กำจัดน้ำเสีย ก็เลยอยากจะขอข้อมูลเพื่อนสมาชิกนิดนึงค่ะ คือไม่มีความรู้ด้านวิทย์+เกษตรเลยก็ว่าได้ แต่สงสัยว่า EM Ball จะช่วยเรื่องน้ำเน่าเสียได้ดีแค่ไหนค่ะ ทราบว่าการที่จะทำให้น้ำไม่เน่า ต้องเพิ่มออกซิเจนลงไป แล้วเจ้า em ball นี้จะช่วยเพิ่มออกซิเจนด้วยหรือป่าวค่ะ และหากใช้งานได้จริงต้องมีสัดส่วนการใช้งานเท่าไหร่เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพดีที่สุด เนื่องจากเห็นว่าปริมาณพื้นที่น้ำมีเยอะมาก
ขอบคุณค่ะ
- อ่าน 7620 ครั้ง
สมศักดิ์ชาประเสริฐ
30 ตุลาคม, 2011 - 21:00
Permalink
Re: ขอความรู้เรื่อง EM Ball ค่ะ
เรื่องยาวๆ
9wut
31 ตุลาคม, 2011 - 10:46
Permalink
Re: ขอความรู้เรื่อง EM Ball ค่ะ
จิ้มตรงนี้เลยครับ หรือไม่ก็ลองค้นหาในช่องค้นหาก็ได้ครับ ^^
วิธีลงรูปประจำตัว |การใช้งานเว็บบ้านสวน |การแทรกรูป |การแทรก VDO
mnjph
8 พฤศจิกายน, 2011 - 16:23
Permalink
Re: ขอความรู้เรื่อง EM Ball ค่ะ
ที่น่าสังเกตคือไม่มีใครมาพูดถึงหลักเคมีเบื้องต้นเลยครับ สสารไม่สามารถถูกสร้างหรือทำลายได้ด้วยกระบวนการทางเคมี ดังนั้น ธาตุที่มีอยู่เดิมต้องมีเท่าเดิม แต่อาจเปลี่ยนรูปแบบการรวมตัวเป็นโมเลกุลสารประกอบได้
ปัญหาหลักของน้ำเสียมี 2 ประการ ได้แก่ กลิ่นเหม็น และสารพิษ ในเรื่องสารพิษแน่นอนว่ากระบวนการย่อยสลายสารอินทรีย์ด้วยแบคทีเรียย่อมมุ่งหวังเฉพาะในส่วนของการลดกลิ่นเหม็นจากการย่อยสลายของสารอินทรีย์ ไม่เกี่ยวกับการลดสารพิษอนินทรีย์ในน้ำแต่อย่างใด
ปัญหาหลักของกลิ่นเหม็นคือการเปลี่ยนรูปสารประกอบอินทรีย์ (คาร์บอน-C ออกซิเจน-O ไฮโดรเจน-H และไนโตรเจน-N และธาตุประกอบอื่นๆ) โดยเฉพาะในส่วนของคาร์บอน หรือย่อว่า C นั้นตามปกติแล้วหลังการย่อยสลายจะเกิดสารประกอบใหม่ที่มีโมเลกุลเล็กลง ซึ่งแบคทีเรียจะช่วยในการย่อยสลายนี้ โดย แบคทีเรียประเภท แอโรบิค จะใช้ออกซิเจน หรือ O ซึ่งละลายในน้ำเพื่อเปลี่ยนรูปแบบสารอินทรีย์โดยเฉพาะในส่วนของไนโตรเจนให้เป็นสารประกอบที่ไม่มีกลิ่น แต่หากไม่มีออกซิเจนจะเป็นสารประกอบที่มีกลิ่นเหม็น เช่น CH4 หรือมีเทน เหมือนการหมักก๊าซชีวภาพครับ ดังนั้นถึงจะมีแบคทีเรียดีแค่ไหน แต่หากไม่มีการเติมออกซิเจนเข้าไปในน้ำก็ย่อมไม่มีทางบำบัดน้ำได้ตามที่อ้างครับ ก็มันไม่มีธาตุจำเป็นมารวมเป็นสารประกอบ แล้วจะใช้เวทมนต์ที่ีไหนเสกมาครับ ที่บอกว่าใช้ EM แล้วได้ผลก็จะเป็นกรณีแหล่งน้ำที่มีกังหันเติมอาการร่วมด้วยครับซึ่งเป็นไปไม่ได้เลยกับน้ำมหาศาลแบบนี้
อาจารแตงอ่อนไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์จึงอาจไม่ทราบถึงความจริงข้อนี้ครับ และไม่เข้าใจถึงความเป็นไปได้และเป็นไปไม่ได้อย่างมีเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ครับ ก็น่าสงสารเหมือนกันที่ต้องมาโต้กับนักวิชาการเฉพาะด้านที่มีความรู้จริง ผมยังงงเลยว่าทำไมไม่เอานักวิทยาศาสตร์เฉพาะทางที่มีความรู้มาคุย (แต่ก็อาจหายากครับ เพราะพวกเขาอาจรู้ว่าอะไรเป็นอะไร และรู้ถึงผลวิจัยที่ไม่โปร่งใสที่ตนเผยแพร่มาโดยไม่รู้ว่าจะมาถูกเปิดเผยในสถานการณ์น้ำท่วมที่เกินความคาดคิดเช่นนี้)
ในคำอ้างที่ว่ามีการศึกษาทดลองแล้วได้ผลก็เช่นกัน หากเป็นผู้ซึ่งอยู่ในวงการการทำวิจัยซึ่งว่าจ้างโดยรัฐบาลจะรู้ดีว่ามีความน่าเชื่อถือน้อยมาก ในช่วงเริ่มต้นการวิจัยหรือก่อนที่การวิจัยจะสิ้นสุดลง ข้าราชการระดับสูงทั้งข้าราชการประจำและข้าราชการการเมืองมักให้ข้าวในแง่บวกต่อการศึกษา เช่น EM นี้มีผลดีมาก หรือมีประโยชน์จริงเป็นต้น เพราะหากบอกกับประชาชนหรือผู้ร่วมสัมนาว่ายังไม่รู้ผลศึกษาก็เหมือนว่าตนไม่รู้เรื่องอะไร แต่ถ้าบอกว่าไม่ได้ผลก็เท่ากับว่าเอาเงินภาษีมาทิ้งกับการวิจัยที่ไม่มีประโยชน์ ดังนั้นคำตอบจากปากพวกเขาก็มักเป็นว่างานทดลองประสบความสำเร็จครับ สำหรับผู้ทำวิจัยนั้น แน่นอนว่าย่อมรู้มากกว่าถึงประโยชน์ของ EM แต่พวกเขาก็อยู่ในทั้งฐานะผู้วิจัยที่ควรมีจรรยาบรร และในฐานะของผู้รับจ้างซึ่งอยากเลี่ยงการขัดใจผู้ว่าจ้างภาครัฐซึ่งมีอำนาจในการตัดงบหรือขึ้นบัญชีดำเลิกจ้างนักวิชาการกลุ่มนี้ไปตลอดชีวิตหากมีผลการศึกษาที่หักหน้าข้าราชการชั้นสูงและนักการเมืองเหล่านั้น นี่ไม่ใช่เรื่องที่เกินจริงนะครับ เป็นเรื่องที่รู้กันทั่วไปในหมู่อาจารย์มหาวิทยาลัยและบริษัทที่ปรึกษา (consultant) ครับ
จะบอกว่ามันไม่ได้ผลเลยผมก็ต้องบอกว่าไม่จริงครับ แบคทีเรียอาจช่วยให้ย่อยสลายสารอินทรีย์ได้เร็วขึ้นจริง แต่ในขณะที่มันเหม็นเป็นเวลาสั้นลงมันก็ทำให้เห็นมากขึ้นด้วยครับ เลือกเอาครับ เหม็นน้อยเหม็นนานหรือเหม็นมากเหม็นสั้นกับ EM แต่ถ้าจะให้ไม่เหม็นก็ต้องเติมอากาศเท่านั้นครับ
หวังว่าข้อมูลนี้จะมีประโยชน์ในการแยกแยะระหว่างเวทย์มนต์กับวิทยาศาสตร์ ระหว่างความสามัคคีในการปั้น EM Ball กับความสูญเปล่าของเวลาและแรงกายซึ่งน่าจะไปทำประโยชน์อย่างแท้จริงต่อผู้ประสบภัย และระหว่างการทำดีและการทำในสิ่งที่คิดว่าดี ครับ
จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีการเผยกระบวนการทางเคมีที่แบคทีเรียใน EM ใช้ในการบำบัดน้ำเลยครับ อาจเป็นเพราะไม่มีข้อมูลจริงๆ (ตอนศึกษาก็แค่ใช้มันเติมแบคทีเรียและเติมอากาศจนน้ำสะอาดเฉยๆ พอเห็นว่าดีก็บอกว่าได้ผล) หรืออาจเป็นเพราะรู้แล้วว่ามันไม่ได้ผลจริงก็ไม่อาจทราบได้
มาช่วยกันแบ่งบันความรู้นี้ไปยังบอร์ดต่างๆ ให้ด้วยนะครับ
Goi456
8 พฤศจิกายน, 2011 - 20:47
Permalink
Re: ขอความรู้เรื่อง EM Ball ค่ะ
ศึกษาได้ที่ เว็บนี้เลยค่ะ อีเอ็มไทยเกษตรค่ะ http://www.emthaikaset.com/
:bye:
มิตรไพบูลย์
24 พฤศจิกายน, 2011 - 09:40
Permalink
Re: ขอความรู้เรื่อง EM Ball ค่ะ
สวัสดีครับ เรื่อง EM (Effective Microorganism) นี้ยาวจริงๆ อย่างที่พี่สมศักดิ์บอกครับ เริ่มตั้งแต่ปี 2533-2534 นักพืชสวน
ชาวญี่ปุ่นนำมาเผยแพร่ที่ อ.แก่งคอย จ.สระบุรี ในวงการไก่เนื้อ นำ EM ใช้ในกลุ่มผู้เลี้ยงไก่ประกัน (กลุ่มผู้เลี้ยง TJ FOODS)
ใช้ราดพื้นแกลบ เพื่อลดกลิ่นที่เกิดจากมูลไก่ซึ่งมีแอมโมเนียอยู่มาก บางฟาร์มก็ใช้เพื่อลดปริมาณของเชื้อโรคลง (ซึ่งไม่ใช่ยาฆ่าเชื้อ)
เท่าที่สังเกตุดู ( 20 กว่าฟาร์มในเขตมวกเหล็ก) ก็ใช้ได้ผลดีครับ กลิ่นแอมโมเนียลดลง ไก่เป็นหวัดน้อยลง ซึ่งคงมีปัจจัย
แวดล้อมอื่นๆด้วย เช่นเกษตรกรกลับพื้นแกลบทุกวัน ทำให้ไม่อับชื้น มีการระบายถ่ายเทอากาศดี แอมโมเนียไม่สะสมมาก
เกินไป หากไม่กลับแกลบทุกวัน นานๆมากลับแกลบที ไก่ก็คงเป็นหวัดเหมือนเดิมครับ
ในทางสัตวศาตร์ และวงการสัตวแพทย์ ก็คุยกันเรื่องนี้ EM ก็บอกอยู่ว่าเป็นจุลลินทรีย์เชื้อดีที่มีประโยชน์
มีประสิทธิภาพ มันไปลดจุลลินทรีย์ที่ไม่มีประโยชน์หรือก่อให้เกิดเชื้อ หรือตัวที่ก่อให้เกิดมลพิษ ก็ช่วยได้ใน
ระดับหนึ่ง แต่ต้องมีปัจจัยหรือสภาพแวดล้อมอื่นๆเป็นองค์ประกอบ การใช้ EM ต้องเรียนรู้ มันเป็นศาสตร์และศิลป์
รวมถึงมีเทคนิคและวิธีการใช้ การนำมาใช้อย่างถูกวิธี จึงจะได้ผลดีที่สุดครับ
ปล. EM Ball นำมาปั้นโดยมีส่วนผสมรำละเอียด รำหยาบ แกลบบด ดินหรือหินฝุ่น ก็เพื่อเป็นอาหารของจุลลินทรีย์
และให้คงตัวอยู่ในน้ำได้เป็นเวลานาน ก่อนนำมาใช้ก็คงต้องเก็บไว้ในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมซัก 15-20 วัน เพื่อเพิ่ม
ปริมาณจุลลินทรีย์ให้มากยิ่งขึ้น ปัจจัยสนับสนุนน่าจะอยู่ที่การระบายน้ำดี น้าไม่ขังนิ่ง อื่นๆ
ข้อมูลผิดพลาดประการใด ขออภัยด้วยน่ะครับ