นำน้ำใจจากพี่น้องชาวใต้ไปส่งให้ผู้ประสบภัยแล้วครับ

วันนี้ได้ไปรับน้ำและสิ่งของจากที่พี่แก่ช่วยจัดส่งมาให้และได้นำไปส่งให้ผู้ประสบภัยเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนบ้าง

น้ำมาเป็นจำนวนมาก แต่ผทสามารถขนไปได้เพียงบางส่วนเพื่อนำไปให้พี่น้องที่บางระกำ

รถไฟมาแต่เช้า ไม่มีที่จอด ต้องเลยไปจอดที่สถานีนครชัยศรี เพื่อพักรอ

มีอาสาจากกระทรวงศึกษา (กศน) มาขนไปส่วนหนึ่งเพื่อไปรวมกับส่วนกลางเพื่อนำไปช่วยเหลือต่อพี่น้องที่ กทม

เนื่องจากสิ่งของที่ส่งมาอยู่ตู้แรก (สุดท้าย) อยู่ไกลมาก เลยต้องอาศัยรถเลื่อนจากผู้ตรวจการรถไฟ ช่วยลำเลียงออกมา

เจ้าหน้าที่จากกระทรวงศึกษานำขึ้นรถได้ 2 คันรถหกล้อ พอแล้ว เต็มรถเอาไปไม่ไหว

แจกพี่น้องในระแวกนั้น ประสบปัญหาน้ำท่วมเหมือนกัน

เดินทางข้ามน้ำ (ข้ามทะเลมาจากทางใต้) มารับน้ำดื่มบรรเทาความเดือดร้อนกัน

กำลังนึกว่าจะเอาไปยังไงดี เผื่อบ้านข้างเคียงด้วย

เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน

ลีนุกซ์ก็มาช่วยป๋าด้วย (เพิ่งเคยเยียบรางรถไปเป็นครังแรกในชีวิต ตื่นเต้น ตั้งแต่เห็นสถานี)

เคยไปแต่รถไฟใต้ดิน รถไฟบนดินไม่เคยเห็นของจริงตื่นเต้นดีใจใหญ่

ได้ของพอสมควร (ที่แรงมี) เดินทางต่อไปที่บางระกำ

ระหว่างทา ลีนุกก็ตื่นเต้นตามประสาเด็กๆ เห็นอะไรแปลกหูแปลกตา ข้างๆ มีแต่น้ำ

ไปถึงก็จัดแจงเปลี่ยนถ่ายขึ้นรถผู้ใหญ่เทียนชัย ผู้ใหญ่บ้านบางระกำ เพื่อนำไปใช้ที่ศูนย์พักพิงชั่วคราวของช้าวบ้านที่โรงเรียนบ้านหนองปง และตามวัด และที่ใกล้เคียงที่มีชาวบ้านไปอาศัยอยู่ สิ่งของก็ยังขาด ทางการเข้าไม่ถึง ส่วนใหญ่ต้องพยายามช่วยเหลือตัวเองเต็มที่ มีชาวบ้านด้านในประมาณ 500 ครอบครัว เป็นชาวสวน ถ้ามีใคจะช่วยเหลือก็ติดต่อมาที่ผมได้ครับ สิ่งของจำเป็น อาจจะเป็นยาสามัญประจำบ้าน ข้าวสาร อาหารแห้ง เครื่องปรุง ผักสด (น้ำท่วมหมดไม่มีเหลือ) เครื่องปรุงอาหารเป็นต้น ใช้ประกอบอาหารเลี้ยงผู้ประสบภัยตามสถานที่พักพิงชั่วคราว หรือจะเป็นเรือ ให้ยืม น้ำลดแล้วจะส่งืน (ผู้ใหญ่บอกว่างั้น)

ขนขึ้นรถแล้ว ผมก็กลับ เพราะลีนุกซ์หลับและยังไม่ได้กินข้าว ก็เลยรีบกลับพาออกมากินข้าวด้านนอกที่มีน้ำแห้ง ขากลับหลับตลอดทาง ไปกันสองพ่อลูก (พ่อหลับไม่ได้ขับรถ)

กลับบ้านแม่กลับมาจากทำงานคุยใหญ่เห็นรถไปแล้ว ได้ขึ้นรถไฟด้วย ไฟเมืองกาญฯคราวหน้าจะให้พ่อพานั่งรถไป ให้แม่ขับรถไปรับปลายทาง เด็กๆ นึกสนุก

 

อาจารย์...น้ำใจไหลแรงกว่าน้ำท่วมนะคะ ไหลจากใต้ขึ้นบน อัศจรรย์จริง ๆ  

ธนนันท์ต้องกราบขอบคุณอาจารย์ด้วยค่ะ ที่เผยแพร่ฟักข้าว กำลังเพาะค่ะ ทำน้ำฟักข้าวให้ครอบครัว ญาติสนิทมิตรสหายกินกัน บำรุงสุขภาพ ญาติ ๆ เป็นประเภทคนไข้หนักทั้งนั้น พี่มะเร็ง แม่สมอง พี่ชายไต ไขมันในเลือด น้าเบาหวาน ไต ความดัน อีกคนก็กล้ามเนื้ออ่อนแรง โอ๊ย! จาระไนไม่หวาดไม่ไหว รอบ ๆ ตัว สามี ลูก 3 คน มีแต่ผู้ป่วย มีธนนันท์สุขภาพดีอยู่คนเดียว ไม่ค่อยเป็นอะไร เลยต้องดูแลเขา ตอนนี้น้ำหมักกับน้ำฟักข้าว น้ำเสาวรส มาแรงเลยค่ะ ธนนันท์ใช้อยู่ได้ผลเป็นที่น่าพอใจ กราบขอบพระคุณอาจารย์ค่ะ  :beg::beg::beg:

ชื่นชมน้ำใจ จากผู้ให้และผู้ให้ต่อ ที่เสียสละครับ:bye:

พี่แก่และคนใต้ใจดีบริจาคอีกแล้วครับท่าน:admire::love:

มาชื่นชมน้ำใจค่ะ คำอธิบายสะใจดี แต่ภาพเล็กไปหน่อย (เริ่มจะอาวุโสตาไม่ดี)

ชอบภาพที่สองคนช่วยกันหาบถุงน้ำช่วยกันค่ะ ดูแล้วน่ารักจัง ทำให้เห็นถึงความฉลาดของมนุษย์ในยามฉุกเฉินว่าทำยังไงจะคุ้มกับ 1 เที่ยวไปจะต้องแบกไปให้ได้เยอะๆ ให้คุ้มกับเวลาที่เสียไป