หารายได้พิเศษทำที่บ้าน หลังเลิกงาน เชิญที่นี่ค่ะ

หมวดหมู่ของบล็อก: 

สำหรับผู้ที่ต้องการงานหารายได้พิเศษทำที่บ้าน ไม่กระทบกับงานประจำ


สามารถเลือกเวลาทำงานในช่วงหลังเลิกงานได้ ใช้เวลาทำงานที่บ้านเพียงวันละ3-4 ชั่วโมง


ทำงานสองปีใช้หนี้หมด ปีถัดมามีบ้านมีรถ สนใจคลิ๊กเลยค่ะ (เนื้อที่ตั้งใจโฆษณา โดยไม่แอบแฝง)


ข้อความข้างบนคงได้เคยผ่านตาสมาชิกบ้านสวนฯมาบ้างไม่มากก็น้อยจากหน้าเว็บต่างๆ จนอดสงสัยว่าเป็นการโฆษณาเกินจริงหรือเปล่าซึ่งคาดการณ์ได้เลยครับว่าจริงเป็นส่วนน้อยเฉพาะคนที่มีความสามารถจริงๆและปัจจัยอื่นๆเกื้อหนุน ที่เหลือก็เป็นแมงเม่าบินเข้าไปสู่วงจรธุรกิจลูกโซ่หรือการหลอกลวงต่างๆนานา เนื่องจากความโลภหรือไม่ก็ความขัดสนเป็นเหตุ แต่ถึงตอนนี้ผมเรียนให้สมาชิกทุกท่านทราบว่าข้อความดังกล่าวนั้นเป็นไปได้และมีหลักฐานยืนยันว่าจริง และที่สำคัญตั้งอยู่บนพื้นฐานแห่งความพอเพียงอีกด้วยครับ


ช่วงเทศกาลกฐินที่ผ่านมา ผมได้ผ่านไปพบศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิฐพอเพียงต้นแบบที่ต.หนองไผ่ อ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ ได้แวะเข้าไปชมและได้พบเรื่องราวอันน่าทึ่งของคุณลุงขาน ดวงจันดี ชายชราวัย63 ปีผู้ซึ่งพลิกผันชีวิตตนเองจากการเป็นลูกหนี้ ธกส. มากว่าค่อนชีวิต (40ปีจนธนาคารให้ทำประนอมหนี้โดยผ่อนชำระเพียงปีละ 1,200 บาท)



แต่ในปัจจุบันนอกจากจะใช้หนี้ก้อนสุดท้ายเมื่อปีก่อน ปีนี้ลุงขานมีรถ(มอเตอร์ไซค์) มีเงินซื้อที่ดินและกำลังจะปลูกบ้านของตนเอง เห็นว่าชีวิตแกน่าสนใจดีเลยขอโอกาสสัมภาษณ์มาฝากเพื่อนๆสมาชิกครับ


วงจรกรรมในการเป็นหนี้ของลุง เริ่มต้นเมื่อสี่สิบปีก่อนด้วยเงินต้นเพียงห้าพันบาท สำหรับลงทุนเลี้ยงโค (ตามคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่ธนาคาร) ครบปีเมื่อนำเงินต้นไปชำระพร้อมดอกเบี้ย ลุงก็กลับมาพร้อมหนี้ก้อนใหม่ ตามครรลองธุรกิจธนาคารที่ยินดีปล่อยกู้ให้กับลูกค้าชั้นดี จนล่าสุดลุงขานมีหนี้นอกระบบจำนวน 140,000 บาทเพื่อนำมาเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปศึกษาต่อต่างประเทศของลูกชาย แต่เมื่อกลับมาทำงานและใช้หนี้ไปได้ส่วนหนึ่ง ลูกชายตัดสินใจบวชไม่สึก ภาระหนี้จึงตกมาที่ลุงขานอย่างปฏิเสธไม่ได้ ก็อาศัย ธกส. เป็นที่พึ่งด้วยหนี้อีกจำนวน 70,000 บาท เหตุพลิกผันที่ทำให้ลุงขานสามารถเปลี่ยนชีวิตมาลืมตาอ้าปากได้ ก็จากการที่ชุมชนบ้านหนองแก ต.หนองไผ่ ได้จัดประชาคมให้ชาวบ้านมาใช้ประโยชน์จากที่สาธารณะที่รกร้าง(เดิมเป็นป่าช้าเก่า) โดยคัดเลือกชาวบ้านจำนวนหนึ่งที่มีหนี้สินและไม่มีที่ดินทำกิน มาบุกเบิกและใช้ทำกินคนละหนึ่งแปลงมีเนื้อที่ประมาณหนึ่งงาน เชื่อมั๊ยครับว่าสิ้นปีแรกลุงขานนำเงินไปใช้หนี้ธนาคารได้ 30,000บาท และเมื่อสิ้นปีที่สองสามารถใช้หนี้ก้อนสุดท้ายอีก 40,000 บาทด้วยเจ้าสิ่งนี้ครับ



หลังจากลองผิดลองถูกมาช่วงเวลาหนึ่งปลูกพืชหลากชนิด ตอนนี้แกปลูกแตงกวาอย่างเดียว แกบอกว่าคิดง่ายๆ ปลูกแตงต้นหนึ่งได้สิบบาทต่อเดือน สองเดือนปลูกครั้งมีที่เยอะก็ปลูกสลับกัน ตอนนี้แกเลยปลูกสลับในแปลงของน้องสาวที่อยู่ติดกันทำให้มีรายได้ตลอดทุกเดือน



ในภาพเป็นแปลงที่กำลังปลูกใหม่บนที่กว้างห้าวา ยาวยี่สิบวา (หนึ่งงาน) ที่สร้างรายได้เดือนละ 15,000 บาท



ลุงขานแวะมารดน้ำเช้า เย็น ครั้งละหนึ่งชั่วโมง



ส่วนป้าก็เข้ามาเก็บผลผลิตวันเว้นวัน ใส่ถุงขายถุงละสิบบาท



ระหว่างนั้นมีคนมาเก็บค่าน้ำพอดี ใบเสร็จเดือนที่ผ่านมา 28 บาทเนื่องจากเป็นหน้าฝน ส่วนหน้าแล้งยอดสูงถึงเดือนละกว่า 500 บาท แต่ป้าบอกว่าขายแตงวันเดียวก็ได้แล้ว



นี่ครับรถที่แกเพิ่งถอยมา ที่กองอยู่นั่นคือขี้หมูเอามาทำปุ๋ยซื้อมากระสอบละสิบบาท อ้อ..มีข้อตกลงของชุมชนว่าห้ามใช้สารเคมีในแปลงผักเหล่านี้ครับ เพื่อชุมชนจะได้มีผักปลอดสารพิษสำหรับการบริโภค ส่วนแปลงอื่นๆก็จะปลูกพืชผักต่างชนิดกันเช่นหอม ผักชี กระหล่ำ ผักคะน้า ผักกาดขาว ถั่วพู ถั่วฝักยาว มะเขือต่างๆ ทำให้มีผักหลากหลายชนิดปริมาณไม่มากเกินความต้องการบริโภคในชุมชน จึงไม่มีปัญหาเรื่องการตลาด


ใบหน้าที่เปื้อนยิ้มด้วยความสุขของลุงขานตลอดช่วงเวลาการสนทนา ย่อมสามารถยืนยันได้ถึงความสุขจากชีวิตพอเพียงหลังจากที่สามารถปลดหนี้ได้ ปีนี้แกได้ซื้อที่ดินเป็นของตนเองเนื้อที่หนึ่งไร่ในราคาหนึ่งแสนบาทเพื่อที่จะปลูกกล้วยขายใบตองและหวีกล้วย และได้ซื้อไม้ไว้เตรียมสร้างบ้านอีกปลายปีนี้ เมื่อสอบถามถึงเพื่อนบ้านที่ทำอยู่แปลงอื่น แกบอกว่าพวกเค้าก็ได้แต่ยังวนเวียนอยู่ในวังวน (ใช้หนี้เก่า เอาหนี้ใหม่ เพิ่มรายได้ให้ธนาคาร)


ส่วนที่ผมดีใจมากที่สุดก็คือ การที่ได้เห็นลุงขานมีมอเตอร์ไซค์โดยไม่ได้เป็นหนี้ ธกส (ใครอยากรู้เหตุผล รบกวนหลังไมค์ครับ)

ความเห็น

ลุงขานไม่ขาดทุนเพราะแกลงแรง ลงทุนน้อยมาก ที่ยอมจ่ายค่าน้ำเดือนละห้าร้อยกว่า เพราะแกเก็บแตงขายวันเดียวก็ได้

พอกิน พอใช้ พอใจ คือความหมายของ พอเพียง

:uhuhuh: ว่าแล้ว...ลุงพีต้องมีของดีๆมาให้ดู ที่หายไปนานไม่ยอมกลับมาบ้าน (พระราม 6) มันเป็นอย่างนี้นี่เอง :bye: ที่ 1 งานปลูกแตงกวาได้เดือนละ 15,000 เยอะกว่าเงินเดือนในอนาคตหนูอีก แบบนี้ต้องลาออก....ไปทำสวนมั่งแล้ว :uhuhuh:

สุดมือสอย ก็ปล่อยมันไป^^ ธรรมะ จากท่าน ว.วชิรเมธี

เข้าใจว่ากลุ่มนี้ส่งผักไปที่ครัวสุคะโตด้วยนะ


ว่าแต่ไปเมื่อไหร่เนี่ย

วันสุดท้ายฤดูกฐินไปวัดหลวงปู่วิไลมา ตอนนี้ผมก็ยังวนเวียนอยู่แถวๆนี้หละครับ 

พอกิน พอใช้ พอใจ คือความหมายของ พอเพียง

มาดู ตัวอย่างที่ดี ไว้ เดินมาด้วยคนค่ะ

ชีวืตที่เพียงพอ..

ไม่เป็นหนี้เป็นลาภอันประเสริฐค่ะ


 

ถ้าเป็นงานอดิเรก ใช้เฉพาะนอกเวลางานเท่านั้นต้องช่วยกันทุกคนในครอบครัว ตอนนี้ลุงรองวีพ่อบ้านป้าเกี้ยวเขาขอเกษียณไปก่อน น่าจะเป็นอาชีพหลัก ส่วนป้าเกี้ยวยังทำงานอยู่คงเป็นอาชีพเสริม(ไปช่วย) รายได้ไม่มากมาย เก็บยอดยาร่วงขายลูกค้าที่เป็นแม่ค้าขายขนมจีน เฉลี่ยวันละ  60  บาท  ไม่ทุกวันหรอก มะนาวก็เพิ่งออก  ตะไคร้ก็กำลังขึ้นสวย  ก็ได้ช่วยเป็นค่าอาหารเป็ดไก่  ค่าปุ๋ยบ้าง

Low Tech แต่ใจรัก

ปลูกผักที่เก็บได้ตลอดไปแบบนี้ดีค่ะ แม่ค้าขนมจีนเค้าชอบผักบ้าน ๆ สะตอเบา หัวครก เก็บได้ตลอดค่ะ....กำไรเห็น ๆ


:bye:


 

ผมเชื่อโดยสุจริต  ว่าทำได้..  และก็อยากทำแบบนี้แหละป้อนอาหารให้ชุมชน


เพราะตอนนี้ ..คนแถวบ้านเริ่มกินข้าวกล่องในเซเว่นกันแล้ว รู้จักกิน อาหารญี่ปุ่นที่วิ่งมาบนสายพานกินกันได้


ทั้งวันแถมยังนั่งรอคิวกันหลายชั่วโมง...กลัวไม่ทันสมัย

หน้า