ความสุขและความสำเร็จ..ข้อคิดจากธรรมยาตรา

หมวดหมู่ของบล็อก: 

                                                 


   โคมลอยบนภูแลนคา ส่วนหนึ่งของดงพญาเย็น ถูกปล่อยขึ้นเป็นสัญญลักษณ์การปิดธรรมยาตรา เพื่อลุ่มน้ำลำปะทาว ครั้งที่ ๑๒ ในเช้าตรู่หลังจากทำวัตรเช้า วันที่ ๘ ธค. ช่างเป็นความสุขและความสำเร็จ ของพวกเราคณะเดินธรรมยาตรา ประมาณ ๓๐๐ ชีวิตซึ่งมาจากสารทิศ ครึ่งหนึ่งไม่รู้จักกันมาก่อน หากร่วมเดินอย่างสันติ รอนแรม นอนกลางดินกลางป่า กินอยู่อย่างง่าย เพื่อประกาศและปกป้องป่าต้นน้ำลำปะทาวผ่านขบวนการ เดินธรรมยาตรา


                                             


โดยความรู้สึกส่วนตัว ชอบแสงทองยามเช้า เสียงสวดมนต์ทำวัตรเช้าบนหน้าผา มันทำให้รู้สึกได้ถึงพลังชีวิตจากธรรมชาติบริสุทธิ


                       


ในโลกใบนี้ยังจะมีอะไรอีกหรือ ที่จะให้ความสุขแก่มนุษย์อย่างบริสุทธิ์ คงมั่นตามกาลเวลา และหน้าที่ทุกเช้าค่ำ พระอาทิตย์เจ้าขา ลูกรู้สึกสำนึกคุณ


                                            


พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล ผู้นำขบวนธรรมยาตรา ให้ข้อคิดสุดท้ายในวาระปิดการเดินธรรมยาตราครั้งนี้ไว้ว่า " ความสุขและความสำเร็จ ที่เราได้รับอยู่ขณะนี้มันไม่ยั่งยืน เพราะหลังจากนี้พวกเราจะต้องลงจากภูผาแห่งนี้ และร่ำลาจากกันไปกลับถิ่นฐานตัวเอง ทุกคนต่างต้องกลับไปทำงานตามหน้าที่ จงปล่อยวางความสุขและความสำเร็จที่ได้จากธรรมยาตรา ในชีวิตจริงแต่ละคนมีทุกข์และเป็นสาเหตปัญหามากมาย  เพราะยึดติด ความสุขและความสำเร็จ เมื่อได้มันก็ให้รู้จักลง เปรียบเสมือนพวกเราที่กำลังจะลงจากภูเขาและการเดินครั้งนี้ เหลือไว้เพียงบทเรียนชีวิตที่เราได้พยายามอย่างเต็มที่ นำไปปรับใช้กับตัวเองต่อไป ขอให้ธรรมยาตราจงเป็นวิถีในชีวิตประจำวันของพวกเรา" 


                    


เย็นวันที่ ๗ ธค. คณะธรรมยาตราได้มานั่งอยู่ตรงจุดสูงสุดของป่าต้นน้ำลำปะทาว ซึ่งไหลลงมาเป็นลำน้ำชี หล่อเลี้ยงสรรพชีวิตมาเนิ่นนานนัก หากมีสักกี่คนที่ตระหนักถึง แม่คงคาและธรรมชาติล้มป่วย การเดินธรรมยาตรา โดยมีพระสงฆ์นำขบวน นับเป็นมรรควิธีที่ใช้ประกาศและปกป้องป่าต้นน้ำอย่างสันติ กว่าจะมาถึงจุดนี้เราเดินจากต้นทางน้ำตกตาดโตน ทวนขึ้นมาข้ามภูเขาหลายลูก รอนแรมกลางป่า กินอยู่อย่างง่าย มีความสุขกับทุกก้าวย่างทุกขณะปัจจุบันด้วยสติ ไม่กังวลว่าเมื่อไรจะถึง หรืออีกไกลมั้ยนะ


                     


 เดิน เดิน เดิน เรียนรู้ภายในใจตน เปิดใจกว้างรับรู้รับฟังเสียงจากธรรมชาติ และเพื่อนที่แตกต่างหลากหลาย


                   


เหนื่อยก็ผ่อนพัก แบ่งปันรอยยิ้ม กำลังใจให้กัน น้ำ อาหาร ยา ความเป็นกัลยาณมิตรก่อเกิดเพราะได้ร่วมทุกข์ร่วมสุขอย่างเป็นธรรมชาติ


                   


ระหว่างการเดินเรามีกิจกรรมมากมาย เช่น ฝึกนั่งสงบฟังเสียงธรรมชาติ กลุ่มสัมพันธ์ ที่ประทับใจหลายคนคือ การบวชป่า โดยพระสงฆ์ในคณะสวดผ้าจีวร แล้วแจกให้แต่ละคนเขียนข้อความบนผ้า จากนั้นนำไปผูกไว้ เพื่อปกป้องการลักลอบตัดไม้ใหญ่ที่หายาก


             


         บรรยากาศนอนเต้นท์ บางส่วนนอนในศาลาวัด ของชาวธรรมยาตรา


                


              กินอย่าง่าย กินแต่พอดี เพียงเพื่อบำบัดความหิว


             


 กัลยาณมิตรหลายคนต้องซ่อมเท้าก่อเดินทุกเช้า เพราะเดินเท้าเปล่าเพื่อฝึกฝนต่อความยากลำบากและฝึกการเดินอย่างตั้งใจ เปี่ยมด้วยความรู้สึกตัวทุกย่างก้าว


                


ทุกจุดพักเราจะมีการแสดงนิทรรศการให้ชาวบ้านรอบๆวัดได้เรียนรู้ และการแสดงธรรมจากพระอาจารย์ไพศาล บริจาคเงินกองทุนซื้ออุปกรณ์ดับไฟป่าให้กลุ่มชาวบ้านที่ดูแลป่าต้นน้ำ


           


 แสงยามเย็นบนผาวัดตาดภูทอง เปรียบเสมือนชีวิตเราการเดินทางย่อมมีจุดสิ้นสุด และจุดเริ่มต้น เพียงเราตระหนักได้ว่าเราเก็บรับอะไรได้บ้างระหว่างการเดินทาง นั่นคือความหมายยิ่งต่อการก้าวต่อไปข้างหน้า


                  


ชีวิตทุกคน มีลงมีขึ้นดั่งพระอาทิตย์ ต่างกันที่สัสันและชีวิตชีวาในแต่ละวันของแต่ละคน แน่นอนว่าชีวิตชีวา ย่อมเปล่งมาจากภายใน สีสันอาจมาจากสิ่งแวดล้อมภายนอก ขอให้พี่น้องบ้านสวนจงอยู่กับชีวิตชีวาที่ดีงาม และสีสันจากธรรมชาติรอบบ้านที่เกิดจากการกระทำของเรา


                   


 สำหรับตัวพี่หยอยเอง ได้ผ่านธรรมยาตรารอบนี้ สุขภาพกายยังดีมากอยู่ ไม่เมื่อย เอ๊ะๆๆ อาจเป็นเพราะซดน้ำหมักลูกยอที่หมักไว้ก่อนออกเดินทางด้วยประการหนึ่งนะ 5555 รวมทั้งไปโด๊ปน้ำหมักน้องธนนันท์ ที่อุบล วันนี้เตรียมเดินทางธรรมยาตรากลับบ้าน


ระลึกถึงหมู่มวลมิตรรักแฟนเพลงทุกๆท่าน ขอรับ จนกว่าจะพบกันใหม่จ้าๆๆๆๆๆ


 



 


 

ความเห็น

ขออนุโมทนา...หวังว่าสักครั้งในชีวิตเราคงมีโอกาสแบบนี้บ้าง....

คิดให้แตกต่าง...แต่อย่าแตกแยก

เดินป่าทุกปี เป็นการเช็คสุขภาพไปในตัวด้วยนะคะ

          คนเราทุกคนต้องรู้จักความทุกข์ก่อนถึงจะรู้ว่าความสุขนั้นเป็นอย่างไร แต่ที่ทราบทุกคนไม่ชอบหร็อกกับความทุกข์หากได้สัมผัสกับตัวตนนาน ๆ ถ้าเป็นความสุขยอมรับได้ และความสุขเที่ยงแท้ก็น่าจะจะหาได้จากความทุกข์นั่นเอง

 การทำงานต้องรู้จริงทำจริงจึงประสบกับความสำเร็จ

หายห่วงๆๆๆๆ พี่น้องเรา

ขออนุโมทนาบุญด้วยนะคะพี่หยอยLaughing

ขอให้ระลึกเสมอว่าเรามิใช่ตัวคนเดียวแล้วนะ55555 อย่าเผลอเชียว

อนุโมทนาบุญด้วยค่ะพี่หยอย และขอให้เดินทางกลับด้วยความปลอดภัยค่ะ:bye:

แบ่งปัน สร้างสรรค์ พอเพียง

 

หน้า