พี่สืบในใจฉัน (ตอนจบ)

หมวดหมู่ของบล็อก: 

นี่เป็นรูปที่มีเราอยู่นั่งเท้าคางด้านหลัง อ่านอะไรไม่รู้  จำไม่ได้ ภาพถ่ายจากหนังสือ ตะโกนก้องจากพงไพรค่ะ พี่สืบคุยงานอยู่ค่ะ

ตอนที่ 3  ตอนจบนะ....

จำได้ ว่าได้รับข่าวการตายของพี่สืบ  ไม่แปลกใจ ไม่เสียใจกับการตาย แต่เสียใจที่พี่ชายคนหนึ่งที่เราเคารพรัก และเป็นคนที่หาได้ยากที่จริงใจและจริงจัง แบบนี้   แต่เสียใจกับคำว่า  วีรบุรุษจะได้มาต้องตายก่อนเสมอ   เหตุการณ์ต่างๆ ระหว่างที่ทำงานกับพี่เขา  มันสะท้อนความเป็นตัวตน ของพี่สืบ  กับคนอื่น เงียบขรึม แต่เราว่าไม่นะ พี่สืบมีอะไรที่น่ารักมากมาย  นั่งสะเก็ตภาพ  นั่งดูอริยบทงูได้เป็นนานสองนาน  นี่แหละเป็นผู้ชายคนแรกเลยที่เรานั่งเรือด้วยกัน 2 คน  มีอยู่ว่า

                เย็นวันหนึ่ง  ขากลับจากออกลาดตระเวณ หาสัตว์ป่า พี่สืบบอกให้เรืออีกลำไปก่อน อิ๊ดไปดูนก กับพี่มั้ย พี่สืบว่านกนี้ เป็นนกหายากมาก เหลือเราสองคนกับพี่สืบ เป็นเวลาเย็นแล้ว หิวก็หิว( ฉุนนะ จะทำอะไรแกอีกนี่ ) ไม่เป็นไรอิ๊ดเดี๋ยวพี่ทำกับข้าวให้กิน พี่สืบบอกเราเหมือนรู้  เป็นบุญของเรา   ใกล้ต้นไม้ ใหญ่ ๆรู้สึกจะเป็นต้นยาง พี่สืบดับเครื่องยนต์ใช้ไม้พาย เอา 

อิ๊ด อี๊ด มานี่ (เสียงกระซิบ) พร้อมกวักมือ ให้เราที่นั่งหัวเรือ ขยับให้ไปหา แล้วชี้มือขึ้นไป อิ๊ดเห็นยัง  นั่นไงนก  ยื่นกล้องให้เราส่องดู  นั่นมันนกกระสา นะพี่สืบ  .ใช่แต่แบบนี้หายากมากแล้ว อี๊ดดูดีดี ซิคอมันสีขาว ปากมันแดงใช่มั้ย....

ทีนี้แหละพี่สืบอธิบายเป็นชุดเลย  ถ่ายรูปอยู่พักหนึ่ง 3-4 วันพี่สืบเทียวไป เทียวมาเรื่องนก จำได้ ได้เจอลูกนก ต้องนำนกกลับเขาท่าเพชรกลางคืนแหละ  เรื่องนี้พี่สืบก็ไม่คุยกับใคร จนพบรังนกวันหลัง พี่แกบอกเราว่าไม่ได้เดี๋ยวคนจะขโมย  อย่ากระโตกกระตาก   นกกระสาคอขาวปากแดงนั่นเอง

นี่ก็เป็นอีกเหตุการณ์ที่  จำไปจนตาย เพราะเราเป็นคนแรกที่ได้เห็นกับพี่สืบ  ตอนหลังเห็นเป็นข่าวก็ดีใจอยู่ในใจคนเดียว  ว่าตูนี่แหละที่ไปกับพี่สืบวันนั้น 5++++++++ แต่ไม่กล้าบอกใครเลย..เดี๋ยวหาว่าโม้

สัตว์ก็เริ่มหมดแล้ว วันหนึ่ง หลังจากทานข้าวเย็นเสร็จ  พี่สืบใส่เสื้อสีขาวตราห่านคู่ นุ่งกางเกงเลสีขาว นั่งสูบบุหรี่ ด้านหลังแพคนเดียว หน้าตา ดูเคร่งเครียดอย่างไร ไม่รู้   ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้  ในมือมีดินสอ และกระดาษ วาดอะไรก็ไม่รู้  แอบดูอยู่สักพัก ก็เดินไปหาพี่เขา  พีสืบวาดไร   อ๋อวาดค่างแว่นนะ  อิ๊ดจำได้มั้ยวันนั้นที่เรานำไปไว้เขาท่าเพชร ตามันน่าสงสารมาก....... แหละอะไร  อะไร ก็ออกมามากมาย......แต่คำที่ทำให้เราสะดุด อิ๊ดพี่มีลูกสาว ตอนนี้อายุ 11ขวบแล้ว  งง   งง อะไรกัน แต่ไม่กล้าถามต่อ พี่ว่าช่างมันเถอะ อิ๊ดโตก็รู้เอง แหละ.... อะไรกัน  ตัดบทเอาดื้อ  ดื้อ เราก็ยิ่งยากรู้ แต่เสียใจรู้ได้เท่านั้นแหละ  ไม่กล้าถามต่อ  ยังจำได้ เก็บไปนอนคิดทั้งคืน ผู้ชายคนนี้น่าค้นหา....บางครั้งนั่งคนเดียว ดูดบุหรี่..เหมือนแบกโลกทั้งโลกไว้  บางครั้งพี่สืบก็เหงาๆ นะ  ไม่มีใครเข้าใกล้พี่เขาเท่าไหร่  บางคนว่าพี่ สืบแปลกๆ เราคุยกับคนแปลกได้ไง คนที่พูดไม่รู้เสียแล้ว เราแปลกกว่าพีสืบอีก......แถมเราบ้ากว่า..ด้วยหละ

หลังจากจบโครงการ พี่สืบก็ขึ้นกอง แต่มีติดต่อกันบ้าง เราจะเป็นคนโทรไปที่กอง เพราะ สมัยนั้นไม่มีโทรศัพท์มือถือ แต่จดหมายพี่สืบจะเขียนจดหมายหา บ่อย เล่านู่น เล่านี่ มากมาย  พี่สืบเป็นคนมีเหตุผลนะ แต่กับบางคนไม่ทราบสาเหตุอะไร ไม่ค่อยอยากอธิบาย จำได้หลายคนว่าพี่สืบ เป็นคนทำจริง ไม่ย่อท้อ มีเหตุผล แต่ไม่ค่อยอธิบาย

เคยเห็นมั้ยคนปั๊มหัวใจกวาง...  ภาพตกน้ำมอมแมม...  ฟัดกับกวาง... โดนกวางถีบ...  บางทีรู้ว่าสัตว์มันตาย แต่ทำใจไม่ได้น่ะ  หอบเหนื่อย......ใครจะรู้บ้าง....นี่หละคุณสืบ นาคะเสถียร

เจอกันครั้งล่าสุด ปี 32  หลังจากเขียนจดหมายหาพี่เขา  ขึ้นกรุงเทพ  พี่สืบบอกว่าน้องอิ๊ดอยากกินไร  อะไรก็ได้ พี่สืบเลยนัดให้ไปรอที่เซ็ลทรัลลาดพร้าว หน้าประตูด้านแดนเนรมิตน่ะ  ตรงข้ามบาร์รำวง สมัยก่อน แบบนั้นจริงๆ

มาแล้วผู้ชายตัวสูง สูง สวมแว่น ใส่เสื้อเชิ้ตสี เขียวมัว มัว ใส่กางเกงผ้าสีครีมหลวม ๆ

พอเจอหน้า  ไง..อิ๊ด  ขาวขึ้นนะ  ยังแค้นเคืองอยู่เลย  ไปอยู่ในอ่างเก็บน้ำ ทุกวันออกแดด หน้าดำ ด่างทุกวันเลย หาความสวยไม่เจอหรอก   พี่สืบมาสาย 5 นาที เพราะกับบ่นว่างานไม่เสร็จ พร้อมยิ้ม ทั้งขยี้หัวเรา เอาอีกแล้ว  ชอบเล่นหัวเราประจำ(แต่แอบดีใจน่ะ  ที่พี่สืบยิ้ม เพราะน้อยครั้งที่จะยิ้ม เวลาทำงาน)

พี่ว่ากินเป็ดดีกว่า  เคนดักกี้น่ะ  อร่อยดี แล้วค่อยกินไอติม กัน แล้วคุยกันยืดยาว นี่หละวันนี้ที่ได้รู้ว่าพี่แกได้รับตำแหน่งห้วยขาแข้ง  แถมยังชวนเราไปทำงานด้วย ซะไกลเลย     นั่งคุยอยู่ด้วยกัน ประมาณ 3 ชั่วโมงได้ แล้วเดินดุของสักพัก พี่ก็ถามว่าไปหาพี่วุฒิไหม ไม่หรอกพี่เดี๋ยวอิ๊ดจะไปหาเพื่อน แล้วก็จากกัน นั้นคือ ครั้งสุดท้ายที่เจอกัน ก่อนจากกันวันนั้น พี่แกบอกว่าอิ๊ดอย่าลืมไปลงเรียนนะ แล้วพี่จะเขียนจดหมายไปหา เราก็รับปาก......แหละไม่ได้เจอกันอีกเลย....ได้รับแต่จดหมาย  มีข้อความมากมายที่.........................................แต่ช่างเถอะนะ

นี่ถ้ารู้ว่าอะไร จะเกิดขึ้น จะไปทำงานกับพี่เขาด้วยแน่นอน  และวันนั้นจะไม่ไปหาใครเลย...จะไม่มีธุระกับใคร....ขอโทษค่ะ....พี่....ยายอิ๊ดขอโทษ....

ไม่เสียใจหรอก ที่พี่สืบตาย เพราะรู้ว่ามันคืออะไร  แต่ไม่ใช่ส่งเสริมให้ใครฆ่าตัวตาย  เพราะรู้ว่าพี่สืบ คือพี่สืบ เคารพในการตัดสินใจของพี่เขาเสมอ  แต่เสียใจกับสังคม เสียใจกับการทำงานของคนที่ไม่จริงใจในการปฏิบัติงาน ไม่รักษาคนที่ทำงานจริงๆ ไม่รักษาคนที่จริงจัง มุ่งมั่น ทุ่มเทในการทำงาน ส่วนใหญ่ ไม่ว่าสังคมไหน หน่วยงานไหน สิ่งเหล่านี้มีให้เห็นดาษดื่น  คนทำดี ไม่ได้ดี  การยกยอ สรรเสริญ นะหรือ  มีการกระทำก็ต่อเมื่อ บุคคลนั้นไม่มีชีวิตแล้ว ทำ ทำไม และลืมง่ายมาก การทำงานที่มี    อุดมการณ์ ทำคนเดียวยาก หากไม่มีแนวร่วม  ยากจริงๆ  นะอิ๊ด   แหม...พ่อโลกส่วนตัวสูง...

กลิ่นธูป...ควันเทียน ที่อยู่ในมือที่พนมขึ้น มีคนมากมาย สรรเสริญ เยินยอ  บางคนทำแต่ปาก สร้างภาพมากมาย  รู้มั้ยมันคืออะไร   จิตใจคนที่อยู่ลึกสุด  สุดใจ.....ใครจะรู้บ้าง ว่าความเจ็บปวดกับสิ่งที่หวัง แรงกาย แรงใจที่ทุ่มเทกับอะไรอย่างหนึ่ง อย่างสุดชีวิตมันคืออะไร ลืมกระทั่งเรียนรู้ธรรมชาติ ของคนในสังคม ว่าการที่จะอยู่นั้นมันยากลำบากมากนัก  .... คนรุ่นหลัง..คนทำงานมากมายที่มีอุดมการณ์ แต่พ่ายแพ้กับสังคมที่มุมมองของคนที่เห็นแก่ได้เยอะแยะไป   ทุกปี..หลังจากพี่ตาย เขาเยินยอ เขาสรรเสริญ เขาจัดงานรำลึก แม้กระทั่งมีอนุสรณ์สถานให้พี่ด้วย มีผู้คนจัดตั้งมูลนิธิ..อีกมากมาย มีคนกล่าวถึงพี่มากมาย  เราหละ เจ็บแปลบ ปลาบ ในห้วงของหัวใจเหลือเกิน  บางอย่างมันไม่ใช่......ไม่เคยบอกใครเลย...ว่ารู้จัก และสนิทกับพี่ด้วยซ้ำ แม้ว่าจะเป็นช่วงเวลาสั้น ไม่กี่ปีก็ตาม แต่ เราเข้าใจ  เข้าใจ ที่พี่เป็นพี่  เป็นพี่ชายที่ไม่หล่อ แต่เท่ห์ ของเราเสมอ  ไม่เคยไปร่วมงาน เลย มีอยู่ครั้งหนึ่งเขาเชิญไปเล่นดนตรีน่ะ  ยังไม่ได้ร้องเลย อิ๊ดกลับเสียก่อน รำลึกพี่ ขายของเต็มเลย เมากันสนุกสนาน  ลูกน้องก็งง หัวหน้าเป็นอะไร  ไม่อยากเล่าใคร ไม่อยากบอก..ว่ามันไม่ใช่ ตามแนวคิดของเรา และพี่สืบก็คงไม่เห็นด้วยแน่นอน ขอบคุณที่พี่ให้แนวคิดในการเป็นตัวตน.....

 

 

พี่สืบคะ......ในป่าทึบนั้น ตกกลางคืนมันมืดหนักหนา  ยิ่งดึก น้ำค้างลง  บางทีฝนตกหนักนะ มันหนาว พี่ไม่หนาวเหรอ..พี่ไม่เหงาหรือไง..  พี่คงไม่เหงานะ   มีต้นไม้ที่พี่รัก  มีสัตว์ป่ามากมายที่ยังเหลืออยู่  เจ้าแรมโบ้ กับเจ้าจ้อน อิ๊ด ยังไม่ได้บอกพี่เลยว่าอี๊ดปล่อยเขาไปแล้วค่ะพี่คงดีใจนะ พี่ค่ะ มีอะไรก็ตะโกนบ้างเถอะค่ะพี่  ให้คนอื่นเขารับทราบบ้าง พี่อยากจะพูดอะไรก็พูดได้แล้ว ไม่ต้องเกรงใจใคร  อิ๊ดยังฟังพี่อยู่เสมอ  อี๊ดไม่กลัวหรอกพี่ เสียงที่ร้องโหย...หวน...ในป่าที่ดังมานั้น ก็พี่บอกแล้วไง ว่าเป็นเสียงของบ่าง....อิ๊ดไม่ต้องกลัว ......ตาทีแวววาวในที่มืด พี่ก็บอกแล้วไง มันเป็นตาของลิงลม  อิ๊ดไม่กลัวหรอก....ไม่กลัว ....จะไม่กลัว......ไม่กลัว...เลย........

ความเห็น

แบบนี้แหละพี่ดา บางทีอย่างอื่นมาก่อนคำว่าจิตสาธารณะ  เพราะอย่างอื่นเป็นค่านิยมส่วนใหญ่ เช่น เงินตรา... ทำให้คุณค่าของอุดมการณ์มันหมดไป เพราะบางคนเขาว่าเงินสำคัญกว่าอย่างอื่นค่ะ

#แตกต่าง.แต่.ไม่แตกแยก#

เขียน น่าติดตามมากค่ะ    เชื่อว่าทุกวันนี้ยังมีผู้ร่วมอุดมการณ์ เดียวกับพี่สืบ อยู่ค่ะ

(และทุกวันนี้ก็ยัง คงไม่เข้าใจ พวกที่ชอบกิน หิน ปูน ทราย ซุง  ว่ากล้ากินกันได้ยังไง  เวลาเจอจะขนลุกค่ะ แล้วก็ไม่คุยด้วย  รับไม่ได้)

ฉันจะปลูก ผัก ให้ลูกทาน

ใช่ค่ะ ยังมีค่ะ แต่เขาเรียกเราว่าชนกลุ่มน้อยค่ะ5++++++++

#แตกต่าง.แต่.ไม่แตกแยก#

   ยายอิ๊ดค่ะ....เอ็กช์อ่านแล้วคิดถึงตอนที่เข้าฟังในวันงาน( ลำลึกสืบ  ที่ราม )  ตอนนั้นคิดแค่ว่าเอาฟังก็ฟัง    ฟังจบยังคืดอีกว่าจะมีใครที่เป็นแบบนี้บ้าง นะ   ไม่สนใจ  ผ่านไปนานมากเจอหนังสือเกี่ยวกับประวัติของท่าน  (แค่คิดว่า  ใครว่าผู้ชายคนนี้ลองปิดอ่าน รอเพื่อนแล้วกันดีกว่ายืนเฉย ๆๆ)  ยายอิ๊ด ตอนนี้ดีใจที่สุดที่ได้ฟังเรื่องที่ยายอิ๊ดเล่ามันไม่ได้อยู่ในหนังสือหรืออยู่ที่ สารคดีไหนๆๆเลย  แต่กลับได้รับการถ่ายทอดมาจากคนที่เคารพ ท่านมากคนหนึ่ง ออกมาจากจิตใจที่สัจฐาท่าน  ไม่ได้เสแส้รง  ใดๆๆทั้งนั้น   

เปิดคอมทิ้งไว้ ไปกินสเต๊กมา ประตูลอด


มันมาจากใจ ที่เราสัมผัสความรู้สึกของเราเองค่ะ

#แตกต่าง.แต่.ไม่แตกแยก#

หน้า