ความหนักใจของผู้คุ้มกฏ
ฟิ้ว.....เสียงอาวุธลับทยานแหวกอากาศ หมายปลิดชีพ โสทงที ผู้คุ้มกฎแห่งหมู่บ้านบ่วงส่วยพงเพียวและเป็นหนึงในผู้กล้าทั้งเก้าแห่งเขาเจ็ดยอด เขามิเพียงหลบหลีกอาวุธลับได้อย่างคล่องแคล่วว่องไว โสทงทียังซัดฝ่ามือกระชากวิญญาณใส่เงาดำมัจจุราชเร้นกายที่มิอาจคะเนได้ว่าเป็นบุรุษหรืออิสตรี แต่แน่นอนว่าพลังตัวเบาคงมิใช่ธรรมดาด้วยสามารถหลบหลีกฝ่ามือและเร้นกายหายวับไปในรติกาลที่ฉ่ำฝน ครั้งนี้มิใช่ครั้งแรก ใยมันจึงเหี้ยมโหดแต่ขลาดเขลามิกล้าประลองซึ่งหน้า มันเป็นผู้ใดกันเล่า.. โสทงทีเอาเท้าก่ายหน้าผากครุ่นคิดตรึกตรอง
“ฮ่าๆๆๆๆๆ..ใยเจ้าต้องกังวลเยี่ยงนี้” เสียงเล่าพูนไท่ซือ เจ้าสำนักฉี่หมักอำพัน เหินกายเท้ามิแตะพื้น (ติดรองเท้าแตะ) เข้ามาหาโสทงทีทันทีที่หูทิพย์หมื่นลี้ได้ยินเสียงการปะทะ
“คารวะท่านผู้เฒ่า ยามนี้ผู้กล้าเขาเจ็ดยอดอีกแปดคนก็ได้แยกย้ายกันลงเขาไปแล้ว พีกระหล่ำปัด ลามะธิเบตผู้นิยมผัดกระหล่ำปีก็ธุดงค์กลับอีสานคีรีศรีชัยภูมิ หยอยสือไท้ เทวีหยั่งรู้แห่งป่าไพรก็แฝงกายฝึกเคล็ดวิชาหมายบรรลุคัมภีร์วิถีพอเพียง ซันต๊อก เซียนแฝงหน้า ก็หานิยมให้ผู้ใดพบพานง่ายๆแม้หน้าตาอันหล่อเหลาปานเทพสร้างยังมิอาจให้ผู้ใดได้แลเห็น พี่ใหญ่เสิกตั่วเฮียน้อยนักที่จะออกท่องยุทธภพ สักเซี่ยงอี่ พุทธบุตรก็เอาแต่ปฏิบัติธรรม อ๊อดเกี๊ยมอี๋ แม้จะช่ำชองเคล็ดวิชาบาทาเหินหาว อีกไม่ช้าก็ต้องกลับประจิมทวีป จาจะจิง กระบี่เลี้ยงลูก ก็คงต้องกลับไปดูแลครอบครัว ดาจังกรึม แม้ใจกล้าแกร่งแต่หลังลงเขาคงต้องพักรักษาตัว .... เหล่านี้แล้วข้าผู้น้อยจะมีผู้ใดเคียงกายช่วยเหลือ อีกทั้งเหล่าชาวยุทธก็ออกท่องยุทธภพไปมีบ้านเล็กบ้านน้อยจนมิใคร่ได้กลับสำนัก ชาวยุทธรุ่นใหม่ก็หาได้เข้าใจในปัญหาที่ลึกซึ่งแห่งสำนักเราไม่ ” โสทงทียกเท้าที่ก่ายหน้าผากลง ขยับเท้ามิถนัดด้วยเพราะตะคริวรุกคืบ เขาเหม่อมองไปยังสายฝนที่โปรยปรายมาอย่างไร้จุดหมาย
“ฤาเจ้าลืมเจ้าบ้านที่พวกเราเลือกสรร แจ้วเจี๊ยะโจ่ย เจ้าของตำนานฝ่ามือยุ่งเหยิง แม้มือระวิงก็มิอาจดูแคลนความเฉียบคมแห่งฝีมือ ถามโก้ตี๋ บุตรชายแห่งนางดูได้ หากเจ้าส่งเทียบ ฤาพิราบสื่อสาร เหล่าชาวยุทธคงมาชุมนุมกันมืดฟ้ามัวดิน ด้วยตระหนักถึงความรัก ความผูกพันแห่งสำนักเรา มีหรือคนอย่างเสินเจิ้นเก้ ผู้มากน้ำใจแห่งแดนใต้ เล่าโรส กุหลาบพันปี เล็กเสี่ยวหงนางตานีอีสานอุบล แก่เล่ากุงเทพเวหา กระบี่ฟักข้าวน้อยน่ำอี่ โหน่งน่ำทีเทวีสารผสม(มะโหน่ง) เทพหนมชั้นวิกทะยา ฝ่ามือสลายเมื่อยน้อยซินแส พะโลเล่าเฒ่าทารก จันทร์เทวีเจ้ามเหสีแห่งจิ้นอ๋อง ดมดงปังพู่กันสะบัดวิญญาณ วุฒิชูบิชิซามูไรพ่อลูกอ่อน นึกปุ๊กคุ้งเทพวิชาการ หยั่นหว่อหน่อย(ป้าหน่อย) ยูคนยอง(เปิ้ล) อี๊ดเตี๋ยมอั๊ง(ยายอิ๊ด) เล่าซาพิง(สายพิน) มายยิโน๊ะโมโต๊ะ(มาย) ลี้คิมนนท์ แปะฮวยอิ๋ว เหมาเจ๋อตุ้ย นิวเหม่ยเหนียง.. มีหรือชาวยุทธเหล่านี้จะนิ่งดูดาย”
“มิอยากต้องกวนใจเหล่าชาวยุทธ์ อืม.. ข้าน้อยนึกออกแล้ว ช่วงขึ้นเขาเจ็ดยอด ข้าน้อยได้พบสุดยอดคัมภีร์ที่ซ่อนอยู่ในขอนไม้แห้งขณะหล่นใส่หัวข้าน้อย แต่ในคัมภีร์ระบุให้เปิดอ่านฝึกปรือเมื่อคราจำเป็น เดี่ยวจะนำมาให้ท่านผู้เฒ่าได้ทัศนา” โสทงที ก้าวเดินเข้าไปหยิบคัมภีร์ปรมัติที่ซุกซ่อนไว้อย่างมิดชิด เขาตัดสินใจเปิดอ่าน พลันบังเกิดแสงจ้าเจิดจรัสส่องพุ่งออกจากคัมภีร์ ไม่มีแม้กระบวนท่าร่ายรำ กระบวนท่าเพลงอาวุธ มีเพียงแต่ตัวอกัษร. จารึกไว้ว่า...
ใครรัก ใครชัง ช่างเขาเถิด อย่าเกิด โทสะ ปะทะเขา
สงบ สยบคิด พินิจเรา ว่างเปล่า คือกระบี่ ที่ซ่อนใจ
สุดผู้กล้า หาใช่ ใช้กระบี่ สุดวิธี เคล็ดวิชา ใช่หาไหน
ยอดกระบี่ ไร้กระบี่ ไม่เป็นไร กระบี่ใจ สยบภัย ที่ใกล้ตัว
“อา....หรือเป็นปริศนาของคัมภีร์ แล้วข้าจะฝึกปรือได้เยี่ยงใด” โสทงที งุนงงต่อสิ่งที่เห็น
“ฮ่าๆๆๆ .. ที่แท้สุดยอดวิชาอยู่นี่เอง สมแล้วที่เป็นสุดยอดเคล็ดวิชา สุดยอดมือกระบี่ คือมือกระบี่ที่ไร้กระบี่ คมกระบี่คือใจที่สงบ ใช้สยบความเคลื่อนไหว...ฮ่าๆๆๆๆ” เล่าพูนไท่ซือ กล่าวพลางพลิ้วกายเหินลอยฝ่าสายฝนและความเงียบงันทิ้งโสทงที ผู้คุ้มกฎแห่งหมู่บ้านบ่วงส่วยพงเพียวให้คิดตีปริศนาแห่งคัมภีร์...
ขออภัย..ที่เขียนได้แบบหยาบๆและไม่ทั่วถึงทุกตัวละคร มีเวลาเพียง 2 ชม. มีนัดกับช่างจะมาดูไม้ที่บ้าน ผิดพลาดล่วงเกินผู้ใดขออภัยมา ณ ที่นี้นะครับ..แป๊ะตั้มปึง
ขอบคุณภาพประกอบจาก
http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=firehawk2550&month=22-01-2010&gr...
- บล็อกของ ตั้ม
- อ่าน 8627 ครั้ง
ความเห็น
น้อย สวนบุรีรมย์
16 มีนาคม, 2012 - 20:05
Permalink
Re: ความหนักใจของผู้คุ้มกฏ
ผู้อาวุโสแปะตั้มปึงเล่ามาข้าน้อยก็เห็นใจโสทงที แต่ระดับฝีมือของโสทงทีกับเจ้าของโรงเตี๊ยมที่โสทงทีไปเช่าอาศัยน่าจะรับมีไหว
ขอเพียงโสทงทีมีจิตใจที่มั่นคง
พระท่านว่ามารไม่มี บารมีไม่เกิด พวกเราชาวบ้านในหมู่บ้านบ่วงส่วยพงเพียวยังเป็นกำลังใจให้เสมอครับ
สวนเกษตรบุรีรมย์การเกษตรแบบเสาร์เว้นเสาร์ เน้นที่เราปลูกเองกินเอง
บริการจัดทำและดูแลเว็บไซต์ ถูก ดี มีประสิทธิภาพ
ย่าตอน
16 มีนาคม, 2012 - 20:33
Permalink
Re: ความหนักใจของผู้คุ้มกฏ
อาแปะตั้มปึง...ฝีมือลื้อ...ยอดมาก...
แจ้ว
16 มีนาคม, 2012 - 20:34
Permalink
Re: ความหนักใจของผู้คุ้มกฏ
:uhuhuh:
ขอคารวะ ท่านแป๊ะตั้มปึง....
:sweating:
สาวน้อย
16 มีนาคม, 2012 - 22:20
Permalink
Re: ความหนักใจของผู้คุ้มกฏ
ท่านแปะตั้มปึง...ขอเด็ดธรรมมะ ของท่านมาซด 2 จอก...:cheer3:
ชีวืตที่เพียงพอ..
satjang
16 มีนาคม, 2012 - 22:29
Permalink
Re: ความหนักใจของผู้คุ้มกฏ
ขำกร๋ากกกก แทบตกเก้าอี้ .... ดีนะไม่ตั้งชื่อเราเป็น ตือป่วยก้อย ฮา ฮา ฮาง เอ๋อึ้งย้ง
...2553 ปีที่ 1 ที่เริ่มเดินตามรอยพ่อ...
เสิน
16 มีนาคม, 2012 - 23:05
Permalink
Re: ความหนักใจของผู้คุ้มกฏ
ท่านแป๊ะตำลึงกินอะไรมา คลอโรกราท่อม หรือมาลีฮวนน่ากันแน่ แฮ่แฮ่ ฮ่าฮ่า เอิ๊กๆอ้ากๆ กันทั้งบ้านบ่วงส่วยพวงเพียวนะวันนี้
..โอกาสไม่ได้มีทุกวัน..
Tui
17 มีนาคม, 2012 - 00:07
Permalink
Re: ความหนักใจของผู้คุ้มกฏ
พี่ตั็ม มาเขียนที ตลก จนหายคิดถึงเลยครับ พี่เข้าใจคิด เปรียนเรื่อง บึ้งตึงให้มีสีสรร อ่านได้ขำ และ ข้อคิดด้วยครับ
เจ๊หนูแหม่ม
17 มีนาคม, 2012 - 09:54
Permalink
Re: ความหนักใจของผู้คุ้มกฏ
วิทยายุทธท่านล้ำเลิศจริงๆ ท่านแป๊ะตั้มปึง ข้าน้อยขอคารวะ
พออยู่ พอกิน พอใช้ พอใจ = พอเพียง
จารึก จันทร์เกตุ
17 มีนาคม, 2012 - 11:45
Permalink
Re: ความหนักใจของผู้คุ้มกฏ
ข้าน้อยขอคารวะท่านผู้ใหญ่ แปะตั้มปึง...ตั้งแต่ข้าน้อยได้จากสำนักทางแดนใต้มาพึ่งพิงแม่นางทางอีสาน..ตอนนี้ก็อยู่อย่างคนพิการ...ต้องทำเป็นคนหูหนวกข้างหนึ่ง..แล้วก็ต้องเป็นคนตาบอดอีกข้างหนึ่ง...ข้าน้อยไม่รู้จะทำอย่างไรดี...มึนตึ๊บ...555
"จะปลูกทุกอย่างที่กิน จะกินทุกอย่างที่ปลูก"
ตั้ม
18 มีนาคม, 2012 - 04:45
Permalink
Re: ความหนักใจของผู้คุ้มกฏ
ขอขอบคุณทุกคนที่มีส่วนร่วมในบล็อคนี้ ถือเป็นโอกาสดีที่ได้รู้จักอีกหลายคนเพิ่มเติมหลังจากห่างหายไปตามแสงสีของโลกออนไลน์ (อยากรู้จักอีกหลายคน..จะได้จับคาร์แรคเตอร์มาพล็อตเรื่องได้)
ขอใช้การขอบคุณตอบทุกเม้นท์ที่ส่งมา มีโอกาสจะเข้ามาแจมอีกนะครับ
แสวงหาชีวิตที่สงบ..หลบลี้หนีความวุ่นวาย
หน้า