ต้นไม้กำลังใจ

หมวดหมู่ของบล็อก: 

เหตุที่อยากจะเรียกปอเทือง และพืชอีกหลายๆ ต้น  เพราะว่าเด็กหัดทำเกษตรปีหนึ่งอย่างผมปลูกต้นไม้หน้าฝน (มีเวลาไปดูแค่สัปดาห์ละ 1 วัน) แต่พอเจอฝนทิ้งช่วงแล้วเจอแบบนี้

ต้นปีบ

ต้นตะลิงปิง

แม้นแต่หญ้าแฝก

ด้วยสภาพดีที่เป็นดินแข็ง ปนหิน  ประกอบกับความร้อน และฝนทิ้งช่วง  ดูเหมือนการปลูกต้นไม้หน้าฝนที่แห้งแล้งอย่างเพชรบุรีก็ไม่ง่ายอย่างที่คิด ต้นไม้ที่ปลูกยืนต้นตายไปหลายต้น จนอยากจะเรียกสวนแห่งนี้ว่า "สวนหิน" จริงๆ  แต่พออ่านข่าวไทยรัฐวันที่ 14 มิถุนายน http://www.thairath.co.th/content/region/268283 ก็ยังพอทำใจได้ว่าเราไม่ได้มีปัญหาคนเดียวในแก่งกระจาน  แม้นแต่เขื่อนเองก็มีปัญหา  อย่างไรก็ตามมีพืชหลายชนิดที่เป็นกำลังใจให้ปลูกต้นไม้ในสวนแห่งนี้ต่อไป

น้องปอเทืองงอกงามท่ามกลางดินแข็งโป๊ก และหินทั้งนั้น แถมไม่ค่อยได้น้ำก็ยังงามเอาทุกวัน  มีโดนหนอนกินใบบ้าง ฉันก็ไม่แคร์   เติบโตจนออกดอกแล้ว

น้องถั่วครกของแม่ "ป้าลัด" และพ่อ "วิศษฐ์"  โดนแมลงกินใบจนเป็นลายฉลุ  ก็ยังฝ่าแล้งมาได้ท่ามกลางหินล้วนๆ แถมเลื้อยไปพันน้องต้นปอเทืองเฉยเลย  แอบเกเรนิดนึง

ต้นถั่วอะไรไม่รู้จำไม่ได้  เพราะปลูกเยอะมาก ปนไปหมด  เอาไว้รอดูเมล็ด  ขอให้รอดนะน้องถั่ว

ต้นมันต่อเผือกก็ไม่ยอมน้อยหน้า  งอกจากหัวที่ฝังไว้ทีหลังเพื่อนแต่เลื้อยไปตามพื้นเก่งหน้าดู  แต่ขอไม่ขุดกินนะ หินทั้งนั้น  ขอแค่ใบของน้องมันช่วยรักษาความชื้นให้เพื่อนๆ หน่อยนะครับ

จ๊ะเอ๋  โดนทั้งดินทั้งหินทับหนา 30 - 50 เซนติเมตร  น้องกล้วยน้ำว้าก็ยังโพล่มาได้  ต้นนี้ไม่ได้ปลูกจ้า  มันโพล่มาจากหลุมเอง

น้องแฝกที่คิดว่าแห้งตายหมดแล้ว  ยังแอบมีแทงยอดเขียวออกมาให้เห็นเป็นบางกอ  น้องแฝกมีกี่ชีวิตกันเนี่ย?

ต้นไม้พวกนี้ล่ะที่เป็นกำลังใจให้ยังคงปลูกต้นไม้ทุกสัปดาห์อย่างต่อเนื่อง  มันก็ต้องมีตายบ้าง รอดบ้างเป็นธรรมดาของชีวิตโหดๆ ที่แก่งกระจาน  วันนี้เลยปลูกกัน 3 คนครึ่งวัน  ได้ไปร้อยกว่าต้น  และก็สวดมนต์ "ขอให้รอดๆ"




ความเห็น

...ปลูกต้นไม้ไว้เพื่อกิน_ให้ร่มเงาในอนาคตอันใกล้ ทำระบบน้ำหยดเถอะค่ะ! ทำระบบไปที่ละโซน เสียดายแรง และเสียดายเวลา ที่ทำไป แล้วก็สงสารต้นไม้มันน่ะ..คุณธีร์

ตอนนี้มันไม่น้ำจะมาให้หยดนะสิครับ น้ำในอ่างเก็บน้ำแห้งมากขนาดคนเลี้ยงวัวเอาวัวลงไปกินหญ้าในอ่างเก็บน้ำได้เลย น้ำใช้ในบ้านยังต้องขนจากคอนโดไปใช้ที่สวนเลยครับ :sweating:

“Stupidity is an attempt to iron out all differences, and not to use them or value them creatively.”
― Bill Mollison

ทดลองใช้ระบบให้น้ำแบบ ใช้ขวดโค๊กหรือขวดอะไรก็ได้ครับ ใส่น้ำให้เต็มขวดปิดฝาแล้เจาะรูที่ฝาขวดน้ำ แล้วนำขวดไปฝังใกล้ๆกับต้นไม้ที่ปลูก โดยเอาปากขวดที่มีฝาปิดฝังลงดินพอประมาณไม่ให้ขวดน้ำล้มเป็นใช้ได้  น้ำในขวดก็จะค่อยซึมออกมา ให้ต้นไม้ได้ครับ ขวดหนึ่งก็ใช้ได้หลายวันเลยครับ ลองเอาไปปรับใช้ดูนะครับ :cheer3: :cheer3: :cheer3:

คงต้องปรับดูครับ เพราะปลูกไปประมาณ 600 กว่าต้นแล้ว คิดว่าคงหาขวดโค้กไม่พออ่ะครับ :uhuhuh:

“Stupidity is an attempt to iron out all differences, and not to use them or value them creatively.”
― Bill Mollison

ปอเทืองงดงามมากเลย สงสารต้นอื่นจังเลยนะนึก

ตอนป้าเด็กๆ จำได้ว่าแถวนั้นเค้าปลูกป่านศรนารายณ์ แล้วเอามาทำผลิตภัณฑ์โครงการหลวง  ป้าว่าแล้งๆแบบนี้น่าจะดี ลองเอาปลูกเป็นต้นกำลังใจอีกชนิด ดีมะ


Laughingป้าอ้อย

:ahaaah: น่าสนใจครับ ป้าอ้อย กำลังคิดว่าอดทนต่อไปอีกหน่อยก่อน ลูกชายของผู้ใหญ่วิบูลย์แนะนำว่าอดทนเหนื่อยดูแลไม้ป่าพวกนี้สัก 3 ปี พอขึ้นปีที่ 4 ก็จะสบายแล้ว เป็นการปลูกเสริม และตัดแต่งกิ่งเท่านั้น เราต้องพยายามผ่านช่วงบุกเบิกไปให้ได้ ไม้เบิกนำจะเป็นปัจจัยสำคัญในการเอตัวรอดในช่วง 3ปีแรก ผมเลือกไม้เบิกนำเป็นวงศ์ถั่วเกือบทั้งสิ้น

“Stupidity is an attempt to iron out all differences, and not to use them or value them creatively.”
― Bill Mollison

เป็นกำลังใจให้ค่ะ

 

 

อ้าวระบบมันเปิ้ลให้

“Stupidity is an attempt to iron out all differences, and not to use them or value them creatively.”
― Bill Mollison

:cute2: ขอบคุณครับป้าลัด ผมขอให้มีต้นไม้รอดหน้าแล้งปีนี้สัก 400 ต้นก็ดีใจมากแล้วครับ กะว่าจะปลูกจนสวนพี่เหมียวดูโล่งไปเลย :uhuhuh:

“Stupidity is an attempt to iron out all differences, and not to use them or value them creatively.”
― Bill Mollison

ตอนนี้ฝนกำลังมา น้ำกำลังจะท่วม ที่นี่ไม่มีน้ำเหรอคะ :embarrassed:

    

 

หน้า