ตำนาน "ดอกทานตะวัน"

หมวดหมู่ของบล็อก: 


วันนี้มีดอกไม้มาฝาก และมีตำนาน เกี่ยวกับ "ดอกทานตะวัน" มาฝากด้วยค่ะ

เรื่องมีอยู่ว่า

กาลครั้งหนึ่ง นานมาแล้ว มีพระเจ้าแห่งดอกไม้อยู่ตนนึง ได้สร้างดอกไม้ขึ้นมามากมาย หลายชนิด แต่ทุกดอกล้วนเป็นสีขาวทั้งสิ้น ไม่มีสีอื่นเลย

และอยู่มาวันหนึ่ง ก็ได้มีฝนตก ตกทุกวัน ท้องฟ้ามืดคลึ้มไปหลายวัน ดอกไม้ทุกดอก ก็ต่างหุบ ไม่ยอมเปิดกรีบดอกเพราะไม่มีแดดเลย

ฝนตกหนักเข้าติดต่อกันหลายวัน ดอกไม้ทุกดอกก็เกิดอาการหนาวสั่น เมื่อฟ้าเปิด แสงแดด เริ่มส่องประกาย แหวกม่านเมฆลงมา พวกเหล่าดอกไม้ ก็ต่างดีอกดีใจ เปิดอ้ารับแสงแดด และทันใดนั้น ก็เกิด สายรุ้งขึ้นที่ขอบฟ้า มีหลากสีสลับกันไปมา ทำให้เหล่าดอกไม้ทั้งหลาย ชื่นชอบในสีสันสดไสของสายรุ้ง ซึ้งพวกเขาไม่เคยเห็นมาก่อนเลย


และเหล่าดอกไม้ก็ถามพระเจ้าว่า "นั้นคืออะไร" พระเจ้าก็ตอบว่า "สายรุ้ง" หรือ "ดอกไม้ที่มีหลายสีในดอกเดียว" และดอกไม้สีขาวดอกนึง ก็ร้องไห้และถามพระเจ้าว่า ทำไมพวกเราไม่มีหลายสีแบบนั้นบ้าง ทำไมต้องเกิดมามีแต่ขาวล้วนอย่างเดียวเช่นนี้ ไม่ยุติธรรมเลย

เหล่าดอกไม้ดอกอื่นๆ ก็เสริมขึ้นมาว่า "ใช่ พวกเราเกิดมาก็มีลักษณะเด่นจำเพาะ สวยไม่ซ้ำแบบใครอยู่แล้ว แล้วทำไมพวกเราถึงจะเปลี่ยนสีเป็นสีอื่นๆที่พวกเราอยากเป็นมั่งไม่ได้ล่ะ"

เมื่อเทพเจ้าแห่งดอกไม้ได้ยินเช่นนั้น ก็คิดขึ้นมาได้ว่า "จริงซินะ พวกเขาน่าจะเปลี่ยนสีได้ หากดอกไม้เหล่านี้ปราถนาอยากจะเปลี่ยนสี" แล้วพระเจ้าก็ประทานพรให้เหล่าดอกไม้ทั้งหมด สามารถเปลี่ยนสีเองได้ตามใจชอบ

*******


เมื่อพระเจ้าแห่งดอกไม้ประทานพรให้เหล่าดอกไม้ทั้งหมด เหล่าดอกไม้ก็พากันเปลี่ยนสีตามที่ตัวเองอยากจะเป็น ป่าทั้งป่าก็มีดอกไม้หลายสี สลับกันไปมาเหมือนดั่งสายรุ้ง ดอกไม้ทุกดอกต่างก็ยินดีปรีดา ร่าเริงรับแสงตะวัน

แต่มีอยู่เพียงดอกเดียวเท่านั้นที่ไม่ยอมเปลี่ยนใจ และยังคงหันหน้ามองแต่พระอาทิตย์เท่านั้น ไม่ว่าพระอาทิตย์จะเคลื่อนไปในทางทิศใด เขาก็ไม่เคยหันไปมองสิ่งใดรอบข้างเลย

เขายังคงยืนหยัด โดดเด่น อย่างไม่มีใครกล้าเข้าไปตอแย


ไม่ว่าสายรุ้งจะสวยสดงดงามสักเพียงใด ก็หาทำให้ดอกไม้ดอกนั้นหักเหความสนใจ หรือความซื่อสัตย์ที่มีต่อพระอาทิตย์ไปได้ ยังคงหันหน้าให้กับพระอาทิตย์ตลอดทั้งวัน ไม่ว่าพระอาทิตย์จะเคลื่อนไปในทางทิศใด ดอกไม้ดอกนั้นก็ยังคง ยืนตระหง่าน แข็งแกร่งสู้แดด สู้ฝน สู้ลม ต้านพายุต่างๆ และยอมถวายความจงรักภักดีต่อพระอาทิตย์แต่เพียงผู้เดียว ตั้งแต่พระอาทิตย์ขึ้น จนพระอาทิตย์ตกดิน


เมื่อพระเจ้าแห่งดอกไม้เห็นเช่นนั้น ก็เกิดความศรัทธาขึ้น และมอบพรอันประเสิร์ฐให้กับดอกไม้ชนิดนี้ว่า ให้เป็นดอกไม้ที่มีความสวยงามที่สุด มีประโยชน์สูงสุด ใครเห็นใครรัก และมีอำนาจสูงสุดดุจดั่งแสงอาทิตย์ และตั้งชื่อให้ว่า "ดอกไม้แห่งดวงอาทิตย์"

*******

ไม่ว่าจะลม ฝนตก แดดออก ดอกไม้ดอกนี้ก็ไม่เคยท้อต่อสิ่งใด



จนกระทั่งทุกวันนี้ เราจะเห็น ดอกทานตะวันหันหน้าสู้แสงแดด ถึงแม้ว่าเขาจะแก่ชรา เงยหน้ามองพระอาทิตย์ไม่ไหวแล้วก็ตาม แต่เขาก็ยังคงถวายความจงรักภักดีต่อพระอาทิตย์จนวินาทีสุดท้าย ลำต้นก็ยังคงแข็งแกร่งไม่หักล้มง่ายๆ 

จึงเป็นที่มาของ "ดอกทานตะวัน" มาจนบัดนี้

จบ ...แล้ววววว......จ้า...

*********

ความเห็น

:admire2:ขอบคุณค่ะพี่ อ่านแล้วสนุกดี ชอบๆๆ:love:กดLIKEให้ค่ะ:good-job:

:love: บ่อ่านเลย เบิ่งแต่รูป งามๆๆๆ :uhuhuh:

""

 

  แต่งเองใช่มั๊ยเนี่ยยยยย.............แต่ขอบอกสุดยอดค้า  :desperate:

..ตู่/สะใภ้เมืองชาละวัน..

ไม่ได้แต่งเองนะพี่ตู่ เป็นตำนานดอกไม้ของฝรั่ง ที่เล่าต่อกันมาให้เด็กๆฟังอ่ะ อ. ที่โรงเรียนตอนไปเรียนภาษาก็เคยเล่าให้ฟังจ้า

เพิ่งเคยได้ยินเรื่องเล่านี้ค่ะ ดอกไม้สวยมาก ๆ เลย:love:

"ความสุขของชีวิตในวันนี้ คือทำตามวิถีพอเพียงของพ่อ"

อ่านเพลินเลย ถ้าเป็นนักเรียนนะ ชอบมากเลยตำนานแบบนี้สนุกดี มีสาระด้วยนะ ฟังแล้วก็เห็นเป็นจริงดั่งเขาว่าเนาะ

แบ่งปัน สร้างสรรค์ พอเพียง

 

ภาพประกอบสีสวยสดดีจังค่ะ :embarrassed:

ชื่นมื่นหัวใจดีแท้

 

ชอบดอกทานตะวันที่ค่อยๆบานจัง ได้อารมณ์เข้ากับเนื้อเรื่องมาก

:admire2: :admire2:

Laughingป้าอ้อย

   คุณครูของพี่(สมัยเรียนประถม) ท่านบอกว่า ดอกทานตะวันจะหลงรักพระอาทิตย์มากๆ จะชูคอหาแต่พระอาทิตย์ แต่คนที่พระอาทิตย์รักคือ น้ำค้าง แต่น้ำค้างไม่ได้รักพระอาทิตย์ พอพระอาทิตย์โพล่ขึ้นมา น้ำค้างก็เริ่มหายไป จนทุกวันนี้ ความรักของทั้งสาม ก็ยังไม่สมหวัง น้องอ๊อดว่าจริงมั้ย.....พี่เก้จ๊ะ 

..โอกาสไม่ได้มีทุกวัน..

 

หน้า