เมื่อพี่พนิดาชวนทานข้าววัดไตรมิตร
สวัสดีค่ะ เพื่อนๆ วันนี้เวลาประมาณ 11.30 พี่พนิดาเดินทางมาถึงกรุงเทพฯ และเธอได้โทรเข้ามานัดเจอฉันที่วัดไตรมิตร ย่านหัวลำโพงค่ะ ตอนแรกนึกว่าคงจะได้ทานข้าวกันเฉยๆ แต่พอคุยกันไปคุยกันมา ยาววววเลย.....
ลองชมกันดูนะคะ ว่าเราสองพี่น้องบ้านสวนพอเพียง ไปไหนกันบ้าง
ที่วัดไตรมิตรมีร้านอาหารลือชื่ออยู่ 2 ร้านค่ะ ร้านนึงอยู่ตรงข้ามวัดไตรมิตรเยื้องไปทางด้านหัวลำโพงนิดเีดียว อยู่ปากซอยค่ะ ขายหอยทอดหอยนางรม หอยทอดหอยแมลงภู่ ข้าวมันไก่ เกี๋ยวเตี๋ยวคั่วไป
ร้านนี้นุสิอยากทานหอยทอดหอยนางรมมานานแล้ว เพราะหยุดทานมาตั้งแต่ย้ายที่ทำงาน เมื่อก่อนออกแบบเสื้อผ้าผู้ชายบริษัทอยู่ที่หัวลำโพงค่ะ แต่ไปงานนี้แอบผิดหวังนิดหน่อย เวลาผ่านไปสี่ปีแล้ว ที่ไม่ได้ไปร้านนี้ แค่ช่วงเที่ยงหอยนางรมก็หมด เลยสั่งหอยทอดหอยแมลงภู่ เมื่อก่อนจานละ 30 บาทเดี๋ยวนี้จานละ 50 บาท ให้หอยแมลงภู่น้อยลง ส่วนพี่พนิดาสั่งข้าวมันไก่ ร้านนี้ก็สุดยอดเหมือนกัน
หลังจากทานข้าวเสร็จก็เดินข้ามฝั่งไปไหว้พระที่วัดไตรมิตร อากาศกำลังดีไม่ร้อน นักท่องเที่ยวเยอะ
ถ่ายรูปซักพัก ก็นั่งพักเหนื่อย คุยกันตามประสาคนไม่ได้เจอกันนาน ฟังเธอถ่ายทอดเรื่องราว
บล็อกไหนไม่มีรูปฉัน ก็ไม่ใช่ฉันแล้ว ฮ่าๆ แชะ !!
เธอบอกว่า ทริปหน้าก็สู้ๆ
วิวตรงนี้เห็นนักท่องเที่ยวยืนถ่ายกันจัง ขอซักภาพเถอะนะ...
ก่อนจากไปขอแวะเข้าห้องน้ำวัดไตรมิตรซักครั้ง ด้านหน้าอย่างกับโรงแรม สวยดี สะอาดแท้
และทริปที่คิดว่าแป็ปเดียวก็ยาวววเลย เพราะเราไปต่อกันที่เยาวราช ร้านที่เห็นด้านล่าง เป็นร้านไก่ดำตุ๋นยาจีนอันเลืองชื่อของเยาวราชค่ะ พี่พนิดาเชี่ยวชาญมากกับระแวกนี้ งานนี้ ไม่รู้ใครนำใครกันแน่ เธอพากษ์ออกมาได้เป็นช้อตๆ เลยทีเดียวเชียว
ภาพด้านล่างนี้ เป็นบรรดาตุ๋นๆ ทั้งหลาย พี่พนิดาสั่ง 1 ชุดและสั่งบัวลอยน้ำขิงฝากพ่อฉันอีก 1 ชุด พ่อฝากมาขอบคุณพี่พนิดาค่ะ เขาชอบทานมากอร่อยแบบดั้งเิดิมอย่างนี้ หาทานยากเต็มที
เธอยังไม่หยุดค่ะ ยังคงนำทางฉันไปเรื่อยๆ ตอนแรกคิดว่าจะัจั่วหัวข้อ นุสิตาพาเที่ยว.... แต่วันนี้ ไม่ได้ละ ...เลยต้องเปลี่ยนหัวข้อใหม่อย่างที่เห็นน่ะค่ะ
ร้านนี้ขายผลไม้หลายอย่างแต่เด่นเรื่องมะม่วงน้ำปลาหวาน ชุดนึงแพงอยู่ ก็ย่านเยาวราช ถูกซะที่ไหนล่ะ ตอนถ่ายภาพได้ยินราคาแว่่วๆ แต่จดๆจ้องๆกับการหามุมสวยๆ ถ่ายให้เพื่อนอย่างเดียว จำราคาไม่ได้ละ แต่สุดท้ายมะม่วงน้ำปลาหวานถุงที่พี่เขาซื้อนั้นก็ลายเป็นของฉัน 55++ ขอบคุณครั้งที่ 2 ค่ะพี่พนิดา ฮี่ ฮี่ (ไปกับพี่เขาเราไม่อดจริงๆ)
เดินผ่านร้านนี้ ความหลังเริ่มกลับมา พ่อจะคอยเล่าให้ฟังเสมอว่า สมัยก่อน บ้านเรายากจนและตัวเราเกิดมาก็ไม่แข็งแรง กินยาเท่าไหร่ก็ไม่หาย สมัยก่อนไอมากเลย ไอจนตัวเขียว เมื่อก่อนผอมมาก น้ำเหลืองไม่ดีและยังเป็นภูมิแพ้ ตอนที่ไอมากๆ กินยาอะไรก็ไม่หาย พ่อต้องนั่งรถเมล์ไปเยาวราชไปซื้อรังนกมาให้เรากิน เมื่อก่อนถ้วยละไม่กี่บาท แต่ก็ถือว่าแพงสำหรับคนในสมัยนั้น เพราะแม้แต่พ่อก็ยังไม่ซื้อกินเองเลย พอฉันได้กินรังนก ฉันก็เลิกไอ ไม่มีอีกเลยอาการนั้น
เมื่อไม่นานมานี้น้องสาวป่วย พ่อก็นั่งรถไปถึงเยาวราชทั้งที่ร่างกายก็ไม่ค่อยแข็งแรง ปีนี้ก็อายุ 79 แล้ว พ่อได้รังนกมา 1 ถุง 500 บาท มีไม่มาก เอามาเทให้น้องกิน น้องก็กิน กินไปทั้งน้ำตา ซาบซึ่งพ่อเหลือเกิน ใครที่คุณพ่อยังอยู่ ดูแลกันดีๆ นะคะ ถ้าวันนึงวันใดเขาไม่อยู่กับเราแล้ว เราจะได้ไม่เสียใจทีหลัง ขอให้คุณพ่อคุณแม่ของเพื่อนทุกคนแข็งแรงค่ะ
เดินไปเรื่อยๆ อาแปะคนนี้จะเอาปลาฉลามพวกนี้ใส่เข่งไปไหนไม่ทราบ แต่ที่แน่ๆ ไม่มีหูและไม่มีคีบแล้วค่ะ ทั้งตัว มีราคาแค่หูกับครีบ ไม่รู้ว่าวัฒนธรรมการกินแบบนี้เมื่อไหร่จะหมดไปนะ
ดูกันใกล้ๆ เห็นอย่างนี้ ยังจะกินกันอีกไหม.....
มาต่อกันที่ร้านข้าวต้ม 24 ชม.ค่ะ ไม่มีการปิดร้าน ขายกันทั้งวัึนทั้งคืน ข้อมูลนี้ก็ได้จากพี่พนิดาอีกแล้ว มีอะไรที่ไม่รู้บ้างมั้ยนะ เธอคนนี้
บะหมี่จับกัง ไม่มีใครไม่เคยได้ยิน แต่เคยกินรึเปล่าเท่านั้นเอง หมูเขาสีสวยธรรมชาติค่ะ เคยซื้อกินแล้วให้เยอะมาก สมัยก่อนมีแต่เส้น ไม่มีหมู เลยได้ชื่อว่าบะหมี่จับกังค่ะ มีแต่จับกังที่มากิน ใครมาขอสั่งใส่ถุง เดินมาสั่งที่เขียง เขาจะไล่ให้ไปต่อท้ายแถวเลยนะคะ First come first serve ค่ะ
ไปๆ มาๆ บล้อกฉันก็มีแต่รูปพี่พนิดาทั้งนั้นเลย 55+ เป็นคนรักการถ่ายภาพค่ะ ตัวเองก็ขึ้นอืดแล้ว ให้เพื่อนฉายเดี่ยวไปก่อน หัวเราะทีหลังดังกว่าค่ะ 55
มาบรรยากาศจีนๆ จะไม่ให้เห็นอะไรจีนๆ กลับไปเลยคงไม่ได้ ก็ขอภาพนี้เป็นแบล็กกราวซักทีเถอะ
รู้จักวัดดังวัดนี้มั้ยคะ คนจีนมักมากราบไหว้ ขอพรกันเยอะเลยนะ เกิดและโตมาในกรุงเทพฯมาโดยตลอดแท้ๆ ไม่เคยมาเลย ถ้าไม่ได้บารมีพี่พนิดา ไม่ได้เข้ามานะเนี่ย ภาพที่ 2 เป็นมุมตรงข้ามวัดค่ะ มีถนนเยาวราชขั้นกลาง
เห็นแปลกดี ทุกทีเห็นแต่ในหนังจีน และบรรดาตุ๊กตาที่นั่งๆ กันอยู่นี่ก็อีก เห็นในหนังฝรั่งบ่อย สวยดี ขอเก็บภาพหน่อยนะ
มาแว๊ววววววววววววววววววว
เวิ้งนาครเขษม ที่ลือลั่นกันว่าจะโดนทุบทิ้ง เรื่องราวเป็นยังงัยนุสิเคยลงไว้แล้วตอนพาเที่ยวเยาวราช หรือเพื่อนๆ จะเข้าไปดูย้อนหลังในยูทูปก็ได้นะคะ ยิ่งดูยิ่งขลังค่ะ เอาใจช่วยชาวเวิ้งนาครเขษมและสถานที่แห่งนี้ให้คงอยู่คู่ลูกหลานสืบต่อไปนะคะ
วิดวิ้ววววววว อะคูเลเล่ที่รัก รอฉันก่อนนะ เดี๋ยวปีใหม่นี้จะกลับไปสอยมา 1 ตัว
ได้แต่แอ๊คท่า เล่นไม่เป็นกะเค้าร๊อกกกกกกกก
นุสิกับพี่พนิดาขอจบการเดินทางวัดไตรมิตร เยาวราช เวิ้งนาครเขษม ไว้เพียงเท่านี้นะคะ ดึกมากแล้ว พบกันทริปรายการพากินพาเที่ยวกับเราสองคนใหม่คราวหน้านะคะ สำหรับคืนนี้ ฝันดีทุกๆ คนค่ะ บ๊าย บาย....
- บล็อกของ nusita_angel
- อ่าน 9255 ครั้ง
ความเห็น
nusita_angel
6 พฤศจิกายน, 2012 - 17:07
Permalink
Re: เมื่อพี่พนิดาชวนทานข้าววัดไตรมิตร
ค่ะพี่เหมียว งานนี้เล่นซะเสียทีคนกรุงเทพฯเลย เธอเล่นรู้จักซะทุกซอกทุกมุม แถมไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยอีกต่างหาก อึดจริงๆ![Laughing Laughing](http://www.bansuanporpeang.com/sites/all/libraries/tinymce/jscripts/tiny_mce/plugins/emotions/img/smiley-laughing.gif)
ป้าลัด
6 พฤศจิกายน, 2012 - 13:30
Permalink
Re: เมื่อพี่พนิดาชวนทานข้าววัดไตรมิตร
ตามไปเที่ยวด้วยคน :happy: :happy:
nusita_angel
6 พฤศจิกายน, 2012 - 17:06
Permalink
Re: เมื่อพี่พนิดาชวนทานข้าววัดไตรมิตร
ป้าลัดเคยบ่นอยากไป แต่ถึงเวลาว่างจริงๆ เราก็เลือกไปกันที่อื่นซะทุกที 555
อารีย์_กำแพงเพชร
6 พฤศจิกายน, 2012 - 15:52
Permalink
Re: เมื่อพี่พนิดาชวนทานข้าววัดไตรมิตร
ขอบคุณที่พาเที่ยวค่ะ เด็กต่างจังหวัดอย่างอารีย์ ไม่เคยย่างกรายไปเลยแถวนี้ แต่ก็ยังได้รับประสบการณ์ที่ถ่ายทอดจากพี่สาวทั้งสองเหมือนได้ไปเที่ยวเองเลยค่ะ
แบ่งปัน สร้างสรรค์ พอเพียง
nusita_angel
6 พฤศจิกายน, 2012 - 22:31
Permalink
Re: เมื่อพี่พนิดาชวนทานข้าววัดไตรมิตร
กรุงเทพฯมีทั้งความสวย ความวุ่นวาย บรรยากาศเก่าๆ แบบเมืองหลวงสมัยก่อนก็มี กรุงเทพฯคือจุดศูนย์กลางที่จะต่อรถไปหลายที่ ถ้าน้องอารีย์เข้ากรุงเทพฯ บอกล่วงหน้าซักหน่อย จะออกไปต้อนรับ อยากไปไหน จะพาไป แต่ต้องลุยกันหน่อยนะ ลุยยังงัย ถามป้าลัดนะ 55 :uhuhuh:
สนิทเมืองอุดร
6 พฤศจิกายน, 2012 - 16:30
Permalink
Re: เมื่อพี่พนิดาชวนทานข้าววัดไตรมิตร
โอ้ครบครันกินเที่ยวทัวร์ ตามนุสิตามาเที่ยวด้วยคนครับ เยาวราชยังไม่เคยลงเดินเลยครับ วัดไตรมิตรก็เคยไปมาเหมือนกันสวยงามครับ ไปกับพี่ดาไม่รู้ว่าใครนำใครฮ่าๆๆ ต่างคนต่างนำไงครับ![:cheer3:](http://www.bansuanporpeang.com/modules/smileys/packs/OnionHead/cheer3.gif)
ดีหรือชั่วอยู่ที่ตัวทำ สูงหรือต่ำอยู่ที่ทำตัว
บุคคลจะล่วงทุกข์ได้เพราะความเพียร
nusita_angel
6 พฤศจิกายน, 2012 - 17:02
Permalink
Re: เมื่อพี่พนิดาชวนทานข้าววัดไตรมิตร
กลับมาเมืองไทยคราวหน้าถ้าอยากไปบอกนะคะ ไม่ไกลบ้านเท่าไหร่ เราไปเดินด้วยกัน กินบรรยากาศจีนๆ กันนะ
nusita_angel
6 พฤศจิกายน, 2012 - 18:13
Permalink
Re: เมื่อพี่พนิดาชวนทานข้าววัดไตรมิตร
เมื่อก่อนที่นุสิทำงานที่หัวลำโพง ถุ้าขยันหน่อยก็จะเดินกลับทางสี่พระยาข้ามฝั่งไปขึ้นรถฝั่งธนที่มีเสื้อผ้าขายเยอะๆ คุณนัทคงจะต้องเคยไปบ้างละ ที่นี่สาวออฟฟิตชอบมาซื้อเสื้อผ้าสวยเยอะแยะมากมายที่นี้ ด้านฝั่งสี่พระยา ตรงหัีวมุมถนนก่อนข้ามไปขึ้นเรือ จะมีร้านแผงลอยขายอาหารทะเล ไม่ทราบว่าคุณนัทเคยไปกินมั้ย ดูท่าจะไม่แพงมาก นุสิอยากกินมากตั้งท่าหลายครั้งก็ไม่ได้กิน เพราะเพื่อนที่ีมาด้วยกันรีบกลับทุกที จะว่าไป เราก็สวนกันไปสวนกันมานะคะ แต่ไม่มีโอกาสได้รู้จักกัน แต่กลับมารู้จักกันผ่านอินเตอร์เนต ช่างแปลกจริงๆ มีโอกาส เราต้องเจอกันในเมืองไทยให้ได้นะคะ ยินดีที่รู้่จักค่ะ![Laughing Laughing](http://www.bansuanporpeang.com/sites/all/libraries/tinymce/jscripts/tiny_mce/plugins/emotions/img/smiley-laughing.gif)
วรพจน์ เอียดจันทร์
7 พฤศจิกายน, 2012 - 00:08
Permalink
Re: เมื่อพี่พนิดาชวนทานข้าววัดไตรมิตร
ตามมากินมาเที่ยวด้วยครับ น่าอร่อยทั้งนั้น
การทำงานต้องรู้จริงทำจริงจึงประสบกับความสำเร็จ
nusita_angel
7 พฤศจิกายน, 2012 - 13:05
Permalink
Re: เมื่อพี่พนิดาชวนทานข้าววัดไตรมิตร
ดีใจที่ชอบนะคะ ถ้าจะให้ดี ไปดูสถานที่จริงด้วยกันพร้อมๆ กับนายลำใยเลยดีกว่ามั้ยคะ คุณพจน์
หน้า