พลับจ๋า...ฉันรักเธอ

หมวดหมู่ของบล็อก: 



สืบเนื่องมาจากเม้นท์ของคุณนุสิจากบล็อกที่แล้วที่ว่า

" ผลไม้เมืองนอกที่มาเมืองไทย แพงมว๊ากกกกกกก รสชาติจะแตกต่างเพราะไม่คุ้นลิ้น แต่ฉันก็ซื้อกินในเวลาที่อยากกินมากจริงๆ เช่นลูกพลับแห้ง พี่อ้อยหวานเคยกินมั้ยคะ"



มันกระตุ้นต่อมความอยาก (กิน) ของอ้อยหวานค่ะ แต่จะหาลูกพลับแห้งมาจากที่ไหน มีแต่ลูกพลับสดที่ซื้อมาเมื่อวันเสาร์ 1 กล่อง 22 ลูก ก็เลยค้นหาข้อมูลในเน็ทเป็นการใหญ่ ทั้งภาคภาษาอังกฤษและภาษาญี่ปุ่น ได้ข้อมูลมามากพอที่ทำให้เกิดความคิดว่า "
ฉันทำได้"



อ้อยหวานชอบลูกพลับแห้งของญี่ปุ่นค่ะ เพราะน่ากินและอร่อยกว่าของจีน ลูกพลับแห้งของญี่ปุ่นจะไม่แห้งและ
ไม่แข็งมาก



ลูกพลับแห้งของญี่ปุ่น มีชื่อเรียกภาษาญี่ปุ่นว่า “โฮชิกาคิ” (Hoshigaki) มีกรรมวิธีที่พิถีพิถันและต้องใช้ความอดทนและเวลามาก


พิถีพิถันและต้องใช้ความอดทนมากยังไงอ้อยหวานขอเล่าให้ฟังค่ะ



ขั้นแรกคือปอกเปลือกลูกพลับ ผูกลูกพลับกับเชือกแล้วแขวนตากไว้



หลังจากตากไว้ 3 ถึง 7 วัน, ลูกพลับจะมีผิวที่แห้งและแข็งขึ้น

 

ต่อจากนั้นจะต้องนวดลูกพลับเพื่อที่จะกระตุ้นน้ำตาลในลูกพลับให้กระจายไปทั่วลูกและผิว

และจะต้องนวดลูกพลับทุก ๆ วันเป็นเวลา 3-5 สัปดาห์

ทำให้ลูกพลับแห้งโฮชิกาคิ มีราคาสูงมากค่ะ ลูกเล็กๆ (ประมาณ 1 คำ)

ลูกหนึ่งตกเกือบ 80-120 บาท


อันนี้เป็นลูกพลับแห้งโฮชิกาคิยัดไส้ด้วยเกาหลัดบด


เมื่อความอยากขึ้นหน้า (ปาก) อ้อยหวานก็ชวนคุณผู้ชายที่บ้านกลับไปที่ร้านอีกครั้ง ไปซื้อลูกพลับมาอีก 1 กล่อง

มีลูกพลับ 22 ลูก บวกกับของเมื่อวานอีก1 กล่อง เป็น 44 ลูก มาถึงก็จัดการเลยค่ะ ล้างให้สะอาด



แล้วปอกเปลือก




อ่านเจอบล็อกหนึ่งกรรมวิธีง่ายๆ (แบบขี้เกียจ) อ้อยหวานเลยทำตาม เอาลูกพลับที่ปอกเปลือกแล้วย่อนในน้ำเดือดเพื่อฆ่าเชื้อ แล้วตักขึ้นทันที

จากนั้นวางเรียงกันในเตาอบ แต่ไม่ต้องเปิดสวิทซ์ เพียงแต่เปิดประตูแง้มไว้ เตาอบของที่นี่ถ้าประตูเตาอบเปิดอยู่ ดวงไฟในเตาอบจะติดอยู่ตลอดเวลา ความร้อนจากดวงไฟจะช่วยให้ลูกพลับแห้ง


แล้วรอเวลา (วันแรก)



แอบดูวันที่ 2 เริ่มแห้งแล้ว



อ้อยหวานแบ่งลูกพลับไว้ 5-6 ลูก จะลองทำกรรมวิธีดั้งเดิมของญี่ปุ่น แต่ลูกพลับไม่มีขั่วให้ผูกเชือก จึงต้องใช้ไม้เสียบใกล้ๆขั่ว แล้วแขวนด้วยเชือกแบบนี้




ย้ายไปแขวนใกล้หน้าต่าง กลายเป็นของแต่งบ้านแปลกๆ


แอบดูวันที่ 2


ยังไม่หยุดแค่นั้นค่ะ จัดการหั่นลูกพลับอีก 5-6 ลูก เอาใส่โหลดองด้วยน้ำผึ้ง


ส่วนเปลือกไม่ทิ้ง ความที่อยากได้เท้าขาวๆสวยๆอย่างลุงพูน ก็เลยเก็บเปลือกหมัก
หากล่องพลาสติคไม่ได้ เลยใช้ขวดน้ำส้มคั้นแทน สูตร 3:1:3


อ้อยหวานขอยืนยันว่า "
ฉันทำได้" ค่ะ ...แต่จะกินได้หรือไม่ก็ต้องรอกันต่อไป


ขอให้เพื่อนๆมีแต่ความสุขค่ะ


ขอบคุณค่ะ


 อ้อยหวาน

ความเห็น

:cute2: มาลุ้นรอกินด้วยคนค่ะ นับถือในความพยายามของพี่อ้อยเลย เชื่อแล้วว่าอยากกินจริงๆ อิ อิ

:desperate:    อยากกิน :desperate:   อยากกิน  :desperate:   อยากกิน

ว๊าว..คุณอ้อยหวาน เอาไปสิบคะแนนเลยค่ะ ไอเดียเริดสุดๆ กรรมวิธีเก๋ไก๋น่ารักมากๆโดยเฉพาะที่เสียบไม้ผูกแขวนไว้ รอฟังข่าวค่ะว่าจะออกมาเป็นยังไงนะค๊ะ

อิ..อิ..คิดได้แค่นี้ค่ะ เดี๋ยวอีก 2-3 วันลูกมันดำๆคงจะน่าเกลียด :embarrassed:

:good-job: คุณอ้อยหวานมีฝีมือหลายด้านเลยนะคะ :love:

 

 

:shy: :shy: :shy:

มารอชิม เอ้ย รอชมต่อไปค่ะ

:bye: :bye: :bye:

ผมว่าวิธีสังเกตุ หาข้อมูล คิดดัดแปลงวิธีการถนอมอาหารแล้วเกิดเป็นรสชาติใหม่ขึ้นมาน่าสนใจนะครับ ถ้านำมาใช้กับผลไม้พื้นเมืองของไทยในชนบทอาจเำิกิดสิงใหม่ๆไว้รองรับนักท่องเที่ยวเป็นโอทอปได้เลย ชื่นชมครับ 

:admire2:

จริงๆค่ะน่าจะมีใครทำกล้วยตากยัดไส้บ้างเน้อ

หน้า