พี่โสธรครับ สอบถามเรื่องการเลี้ยงหมูหลุม

เอาแบบชาวบ้านจริง ๆ หรือ การเลี้ยงที่ได้ผลจริง ๆครับ ไม่ใช่เป็นโครงการของรัฐที่ส่งเสริมการโรงเรียนหรือว่าอะไรทำนองนี้เอาแบบ ชาวบ้านที่เค้าทำแล้วได้ผลหนะครับ พอมีข้อมูลมั้ยครับ ตั้งแต่ต้นทุนเริ่มเลี้ยง การทำโรงเรีอน เอาหมูเข้าคอก อาหารจนถึงการจำหน่ายครับ รายรับรายจ่ายครับ

ขอขอบคุณครับ

มีข้อมูลไม่ครบนะครับ แต่ลองดูอันนี้ไปพลางๆ ก่อน

http://www.bansuanporpeang.com/node/60

http://gotoknow.org/blog/bansuanporpeang/111832

http://province.prd.go.th/phrae/mulum.htm

พี่โสธร ทำเกษตรอยู่ จ. อะไรครับ

อ.นาโยง จ.ตรัง ครับ

ข้อมูลพวกนี้ผมก็พอเข้าไปอ่านแล้วครับ แต่อยากได้ข้อมูลที่เค้าทำจริง ๆ ส่วนมาก ที่ตามเวป มันจะเป็นโครงการของอบต. หรืออะไรทำนองนี้ครับ ต้นทุนมันจะสูง เลี้ยงเอาจริงจังไม่ได้ครับ พอหมดงบ ก็หายไป ชาวบ้านยึดเอาไม่ได้

ดึงมาจาก ส่วนหนึ่งของเวปที่ พี่ให้มา ครับ  ก็ประมาณนี้ครับ เอาไว้เด่วผมลองทำแล้วทำได้จริง ๆ เอาเป็นว่า ปีหน้า 555555555555

ถ้าทำได้ผลแล้วจะเอามาลงเวบพี่โสธร

ขอบคุณครับข้อมูล

เมื่อวาน วันนี้ และวันจันทร์ที่จะถึง ( 3,4 และ 6 ก.ค. 52 ) เวลา 9.00 น. ช่อง 5 รายการบุษบายามเช้า ตอน ปราชญ์เกษตรของแผ่นดิน มีการเสนอเรื่องราวของปราชญ์ อ.โชคชัย สารากิจ และงานของท่าน อาจารย์เราเป็นบุคคลแรกที่นำเทคโนโลยีการเลี้ยงหมูหลุมมาใช้ในประเทศไทยเรา และอาจารย์ยังได้รับรางวัล สัตวบาลดีเด่นแห่งประเทศไทย ประจำปี 2551 ภูมิใจที่ในชีวิตได้มีโอกาสเป็นลูกศิษย์ของอาจารย์ ผมไปอบรมมา ขายหมูตัวสองตัวแรก ก็คุ้มกับที่เสียไปแล้ว และที่ใครว่า 4 เดิอน 100 กก. นั้น ก็ไปรับข้อมูลจากไหนมา เว่อร์เกิน ที่อาจารยืและที่ผมเลี้ยง ใช้เวลา 5 -5 เดือนครึ่ง ได้น้ำหนัก 85-100 กก. ต้นทุนหมูเป็นทั้งหมดตก กก. ละ 28-30 บาท หมูเป็นบ้านผมเขารับซื้อ กก.ละ 58 บาท ได้กำไร 30 บาทต่อกิโล ถ้าหมูตัวละ 85 กก. จะเป็นทุนทั้งหมด 2380บาท ขายได้ 4930 บาท กำไร 2550 บาท หากคนที่รู้จริงเลี้ยง จะได้ราคาประมาณนี้ครับ ยอมเสียเวลาสักนิด ดั้นด้นไปเรียนจากผู้รู้จริงๆ เสียเวลาและเงินทองเล็กน้อยครั้งเดียว แต่ได้ตลอดไปดีกว่าครับ แหม บางท่านซื้อหวยแต่ละงวด ดื่ม กิน เที่ยว แต่ละครั้ง เสียมากกว่านี้เยอะครับ แต่ความรู้อยู่คู่เราไปจนตาย แนะนำด้วยความจริงใจครับ เพราะผมได้ประสบการณ์น่าประทับใจก็อยากแบ่งปัน

ผมเป็น ศิษย์อาจารย์โชคชัย อาจารย์พงศ์พันธุ์ เมื่อสามปีที่แล้ว และได้ถ่ายทอดการเลี้ยงแบบหมูหลุมให้กับชุมชนที่สนใจ มีความอดทน มีวินัย มีความตั้งใจ แบบไม่คิดหารายได้มาตลอดสองปี พร้อมทั้งได้เข้าไปช่วยในการทำศูนย์การเรียนรู้การทำหมูหลุมให้ ทำการทดลองการเลี้ยงหมูหลุมทั้งแบบใช้อาหารสำเร็จ อาหารหมักผสมอาหารสำเร็จ และอาหารหมูหลุมแบบอาจารย์ หลายครั้งจนได้ผลออกมาว่า สามารถเลี้ยงหมูหลุมแบบอาหารสำเร็จและอาหารหมักผสมอาหารสำเร็จได้ในระยะเวลา เท่าการเลี้ยงแบบโรงปิดอีแว็ปคือ ไม่เกิน4 เดือน ส่วนคุณภาพเนื้อใกล้เคียงกันมากจนไม่ต้องคำนึงถีง(ทดลองอาหารเบทาโกร) ส่วนการเลี้ยงแบบอาหารหมูหลุมที่เรียนมาให้ผลการเลี้ยงในเวลา 5-5เดือนครึ่ง ส่วนคุณภาพเนื้อไม่แน่นอนขึันกับการเตรียมอาหารที่ไม่คงที่แน่นอน และราคาวัตถุดิบที่ซื้อมาผสมเองก็ไม่ได้ถูกกว่าที่โรงงานผลิตอาหารซื้อมาทำ ทำให้ค่าอาหารถูกกว่าไม่มากนัก อีกทั้งความยุ่งยากในการจัดหาวัตุดิบสำหรับทำในพื้นที่ต่างๆไม่เหมือนกัน ถ้าต้องการเพิ่มรายได้ไม่เหมาะสม แต่เพื่อการบริโภคในครัวเรือนและใช้เวลาว่างในตอนเช้าก่อนไปทำงานและเย็นหลังจากเสร็จจากงานต่างๆ อีกทั้งมีวัตถุดิบที่พอจะหามาได้สะดวกก็เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง

จากการเลี้ยงทดลองมาหลายที่ ซึ่งแน่นอนค่าใช้จ่ายย่อมสูงขึ้นตามระยะเวลาที่น้อยลงของการเลี้ยง แต่สามารถลดค่าอาหารจากการเลี้ยงแบบอาหารสำเร็จล้วนๆประมาณ 300-500บาทต่อตัว(อาหาร หมักผสมอาหารสำเร็จ) และกำลังให้บริษัทหนึ่งช่วยผลิตอาหารผงที่มีคุณภาพที่แน่นอนสำหรับทำอาหาร หมูหลุมโดยเฉพาะ(เฉลี่ยไม่เกิน10บาท)เพื่อลดต้นทุนค่าอาหารลงอีก แทนการใช้อาหารสำเร็จ(เฉลี่ย 11.50บาท) ก็คิดว่าน่าจะลดค่าอาหารลงมาได้อีก เพื่อให้ชุมชนต่างๆสามารถทำเป็นอาชีพเสริมและเพื่อให้ราคาถูกลง(เนื้อชำแหละไม่เกิน 80 บาท)และสุขภาพที่ดีกับการบริโภคเองภายในชุมชนซึ่งกำลังจะทำการทดลอง คาดว่าจะได้ผลการทดลองภายในปลายปีนี้ครับ

suthus0360@hotmail.com

ผมกำลังพิจารณาช่วยชุมชนที่ผ่านการอบรมการเลี้ยงหมูหลุม 2 กลุ่มดังนี้

  1. กลุ่มหนึ่งที่เคยเลี้ยงหมูหลุมแล้วมีปัญหา เนื่องจากการบริหารและเตรียมงานไม่พร้อม ให้กลับมาทำใหม่อีกครั้ง
  2. กลุ่มทีสองที่จะทำการเลี้ยงเป็นครั้งแรก และผ่านการอบรมจากผม

ด้วยการช่วยเหลือในด้านพันธุ์และอาหารผง ดูแลควบคุมการบริหารจากผมโดยตรง

ขอขคุณครับคุณสุทัศน์...ข้อมูลเป็นแนวทางที่ดีอีกทางครับ ขอบคุณครับ