พาเพื่อนชมกรุงเทพฯยามราตรี 5 ธันวา ค่ะ

   สวัสดีค่ะเพื่อนๆ สืบเนื่องจากบล็อกป้าเหนือ ลงไว้แสดงวิถีชิวิตที่ชุมชนที่เงียบสงบ โดยเฉพาะของคนที่อยู่ต่างจังหวัด แหงนหน้ามองฟ้า ยามย่ำคืนเห็นแต่ดวงดาวมากมาย ความสวยงาม ประทัีบใจอย่างที่ไม่เีคยได้สัมผัส 

     วันนี้นุสิตาจะขอพาเพื่อนๆ ชมบรรยากาศกรุงเทพฯยามราตรีกันบ้าง บรรยากาศแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง แต่เป็นบรรยากาศรอบตัวที่นุสิและครอบครัวสัมผัสอยู่ทุกเมื่อเชื่อทุกวัน..... 

    สำหรับคนกรุงเทพฯ ถ้าพูดถึงสถานทีท่องเที่ยว มีไม่กี่แห่งจริงๆ  นอกจากห้าง โรงหนัง หรือว่า สถานที่เก่าแก่ที่อยู่ในเมืองหลวงมาแต่โบราณเช่นวัดพระแก้ว เสาหลักเมือง พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ แลัวก็เมืองโบราณซึ่งอยู่ไกลออกไปถึงชาญเมือง

ด้วยเหตุนี้ พอคนกรุงเทพฯ จะท่องเที่ยวแต่ละครั้ง ก็ต้องเลือกที่จะออกต่างจังหวัดกัน

   เนื่องในวันพ่อปีนี้ ตาจะพาเพื่อนๆ ล่องเรือชิมอาหารชมบรรยากาศสองฝั่งคลองแม่น้ำเจ้าพระยา กรุงเทพฯยามราตรีกันค่ะ ตามมาชมกันเลยค่ะ

ร้านอาหารที่ว่านี้ ชื่อครัว  " ยกยอมารีน่า "

        ร้านอาหารยกยอนี้  ตาเคยได้ยินชื่อมานาน อยู่ฝั่งธน ย่านคลองสานใกล้ รพ.ตากสิน เข้าซอยไปนิดหนอ่ย ซอยสมเด็จเจ้าพระยา 17 ถนนลาดหญ้า  การเดินทางสะดวกสบาย

วันนึง พ่อได้เปรยๆ กับน้องสาวว่า " วันพ่อปีนี้ ป๊าอยากไปล่องเรือกินอาหาร ป๊าฝันมานานแล้ว... "
       ตอนนี้พวกเราสามคนพี่น้อง ทำงานกันหมดแล้ว พาพ่อล่องเรือทานอาหาร ไม่มีปัญหาค่ะ แพงหน่อย  หารกัน 3 คน ก็ไม่เท่าไหร่ จ่ายได้ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่า พ่ออยากล่องเรือ  ก็เอาเลย พาพ่อไป

ดูสีหน้าพ่อของน้องสิคะ อิ่มเิอิบเชียว เมื่อก่อนพ่อกับแม่ลำบากมาทั้งชีวิต กินใช้อย่างประหยัด วันนี้ลูกๆ โตกันหมดแล้ว ได้พาพ่อไปในสถานที่ๆ พ่ออยากไป ลูกๆ 3 คน เห็นแล้วก็มีความสุข..

น้องสาวกับพี่สาวพาครอบครัวล่วงหน้ามาก่อน เพราะตาอยู่ระหว่างเดินทางกลับจากดอนหอยหลอด พาครอบครัวแฟนไปเที่ยว

ที่บ้านสั่งอาหารไปแล้ว 4 อย่าง ไม่ได้ถ่ายรูปให้ชมค่ะ ไม่ทัน หมดซะแล้ว อาหารที่สั่งได้แก่ ไก่ห่อใบเตย ยำวุ้นเส้น ทอดมันปลากราย ข้าวผัดปู

 เจ้าหน้าที่บนเรือ เข้ามาสอบถามว่า พาพ่อมาเที่ยววันพ่อใช่มั้ย พอตอบว่า ใช่ เขาก็เอาพวงมาลัยใส่พาน พร้อมพระเครื่อง มามอบให้กับพ่อ ด้วยกริยาที่นอบน้อม คุกเข่ากับพื้นเลย ภาพดีๆ นี้ ถ่ายไม่ทันค่ะ.....

มาดูบรรยากาศร้านกันนะคะ  มีทั้งชั้นล่าง และชั้นบนนั่งในเรือ

เราต้องจองที่นั่งล่วงหน้า 2 อาทิตย์ ค่าหัวสำหรับการล่องเรือคนละ 160 บาทค่ะ

ไปถึงเรือ เขาให้สั่งไว้ก่อนเยอะๆ เลยค่ะ เพราะถ้าเรือออก กับข้าวได้ไม่ครบ ก็จะไม่ได้แล้ว มีรายการอาหารอีกเพียง 20 อย่างเท่านั้น ที่พอจะทำได้ในเรือ

  วันนี้คนเยอะมาก เนื่องจากเป็นวันพ่อ ต่างคนก็พาครอบครัวมารับประทานอาหาร และก็มีอีกหลายโตะที่มากับเพื่อนร่วมงาน วันนี้คนใส่เสื้อเหลืองมีมากมายเลยค่ะ  เห็นแล้วพาให้รู้สึกอิ่มเอม.. 

คนที่เอาพวงมาลัยมามอบให้กับพ่อ เริ่มเดินแจกเทียนเพื่อให้เราร่วมถวายพระพรแต่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวร่วมกัน พวกเราร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี จากนั้นก็มีการจุดพรุ สวยงาม 

    คนไทยที่รักในหลวง และมีความจงรักภักดี มีมากมายจริงๆ เห็นภาพเหล่านี้แล้ว รู้สึกตื้นตันใจ 

นุสิแอบเห็นคนไทยมากมายบนเรือลำนี้ ร้องไห้ ขณะที่พวกเราร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี.....ไชโย ไชๆๆ  โย ๆๆ  ไชโยวววววววววว 

อาหารทยอยมาเสริฟเรื่อย ลุ้นอยู่ว่า อาหารที่เราสั่งจะได้ครบรึเปล่า เพราะเรือออก 2 ทุ่ม สุดท้าย ก็ได้จบครบแบบฉิวเฉียด บรรยากาศบนเรือวันนี้ค่อนข้างวุ่นวายพอสมควร เพราะแขกเยอะมาก

ปลาเก๋าราดพริก

เกี้ยวกุ้ง

ออส่วน..

ทอดมันกุ้ง

ปลาหมึกย่าง

ห่อหมกทะเล (อยู่ในครกเป็นหลุมๆ)

แกงส้มแป๊ะซะปลาช่อน (ผักหมด)

กระทงทอง

ยำรวมมิตร

ข้าวตัง

 มาดูบรรยากาสด้านล่างกันนะคะ ว่าเขามีกิจกรรมอะไรกันบ้าง แจ่มค่ะ 

   คนที่อยู่ด้านล่างจะได้เห็นการแสดงโชว์เล็กๆ ค่ะ มีการเปิดเพลงเสียงดัง บรรยากาศตื่นตา มีคนขึ้นไปร้องเพลง ให้ความเพลิดเพลิน

ระหว่างทานอาหารเป็นเวลา 2.15 น. แล้วค่ะ เลทให้แล้ว 15 นาที เรือเริ่มออกเดินทางจากท่า มุ่งสู่สะพานพระราม 8 ผ่านสะพานพุทธ ปากคลองตลาด วัดอรุณ ศิริราช สะพานพระปิ่นเกล้า ถึงสะพานพระราม 8 แล้วเรือก็วนกลับมายังท่า ถึง 4 ทุ่ม 15 นาที 

ตามมาดูบรรยากาศระหว่างล่องเรือกันนะคะ ว่าเห็นอะไรกันบ้าง 

สะพานแต่ละจุดที่เรือยกยอมารีน่า ล่องผ่าน ในจังหวะที่เรือแล่นผ่าน  พวกเราจะได้ยินเสียงคนบนสะพานโห่ร้องทักทายกันสนุกสนาน คนบนเรือก็จะโบกมือให้ ถือเป็นไฮไลท์ของงานอีกอย่างนึงนะคะ 

ผู้คนมากมายแห่มาเฉลิมฉลองกันบนสะพานปล่อยโคมลอย เสียงสรรเสริญพระบารมีดังกึกก้อง น่ายินดียิ่งนัก ในนาทีนี้ พวกเราต่างก็รู้ได้เลยว่า เราคนไทย หัวใจเดียวกันจริงๆ

เรือแล่นผ่านโรงแรมหรูหราหลายแห่ง ที่ศักยภาพอย่างพวกเรา ไม่มีวันได้เข้าไป วิถีชีวิตคนบนนั้นต่างกับเราจริงๆ เป็นคนเมืองเหมือนกัน แต่ศักยภาพและการทำรงชีวิตแตกต่างกัน



















มีเจ้าหน้าที่บนเรือมาขอถ่ายภาพแขกที่มาแต่ละโต๊ะ บอกว่าขอถ่ายเป็นที่ระลึก พอนุสิเดินไปชมบรรยายกาศที่หัวเรือ เพื่อจะได้เก็บภาพสวยๆ ได้มากขึ้น ถึงได้เห็นภาพมากมายที่เขาปริ๊นลงเฟรมเตรียมจะขายให้พวกเรา ภาพละ 150 บาทค่ะ

ช่วงเรือแล่นผ่านรพ. ศิริราชที่ในหลวงทรงประทับอยู่ เสียงดนตรีปิดลง ทุกคนหันหน้าสู่ รพ. ศิริราช ยืนสงบนิ่งถวายความเคารพ จนกระทั่งเรือได้แล่นผ่าน รพ. ไปได้ซักระยะหนึ่ง....

เรืออออกจากท่า 2 ทุ่ม 15 กลับถึงท่า 4 ทุ่ม 15  ค่าใช้จ่ายสำหรับล่องเรือ คนละ 160 / 7 คน = 1,120
ค่าอาหาร 14 อย่าง 2,800 บาท ไม่มีแอลกอฮอล์ มีแต่ข้าว 1โถ กับโค้กขวดเล็ก  และน้ำเปล่า รวม 7 ขวด
หมดไปประมาณ 4,000 บาท อาหารที่นำมาเสริฟ จานไม่ใหญ่เหมือนสวนอาหารทั่วไปที่เคยทานกับครอบครัว ยกเว้น 2 เมนูปลาที่จานใหญ่  

*** นุสิตาขอจบทริปวันพ่อ ไว้เพียงเท่านี้ เพื่อนท่านใดสนใจ อยู่ใกล้ๆ ก็เก็บไว้เป็นทางเลือกนะคะ ถ้าอยากล่องเรือทานอาหาร กินไปคุยไป กับบรรยากาศคนเมืองยามค่ำคืน เชิญที่นี่ได้  ขอบคุณเพื่อนๆ ที่ติดตามค่ะ บ๊าย บายค่ะ  ***