ยุคนี้ต้อง "พอเพียง" ถึงจะรอด
ผักหวานข้างบ้าน ที่ไม่ใช่ในกระถางหน้าบ้าน
ปลูกรวมๆกัน
ชะอมดูเก้งก้างไปหน่อย น่าจะแทงยอดขึ้นเพื่อหาแสงแดด
ปลูกในถังวางไว้ข้างบ้านอีกด้านหนึ่ง สังเกตยังมีทรายอยู่
ด้านภูมิหลัง
สวนเล็กๆแห่งนี้เริ่มต้นเมื่อเดือนสิงหาคม 2554 ผมภูมิใจในสวนแห่งนี้มากเพราะกว่าจะเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาต้องใช้เวลานานเหมือนกันถึงแม้พื้นที่จะเล็กๆแค่ 36 ตารางเมตรก็ตาม กว่าพืชผักจะโตต้องใช้เวลา ซึ่งมันไม่ง่ายเหมือนเดินเข้าไปซื้อในตลาด ตอนเริ่มต้นใหม่ๆผมมีพื้นที่ด้านข้างและหลังบ้านที่ถูกถมด้วยทรายแล้วก็ปลูกหญ้าตามแบบฉบับของหมู่บ้านจัดสรรทั่วไป ผมต้องรื้อหญ้าและทรายออกยังไม่แค่นั้นเวลาขุดดินลงไปยังเจอเศษหิน กระเบื้อง ปูน ที่ถูกนำมาถมเพื่อปรับพื้นที่ตอนเขาจะสร้างบ้านด้วย
การทำสวนแรกๆลงทุนไปกับดินซะเยอะ แต่มันก็ไม่ได้สูญสลายไปไหน เมื่อปลูกผักในรอบนั้นๆเสร็จก็นำมาผสมกับปุ๋ยคอก ใบไม้ในสวน และดินที่ซื้อมาเพิ่มนิดหน่อย ซึ่งเมื่อเวลาผ่านไปการลงทุนเรื่องดินลดน้อยลงมากๆ เพราะสามารถหมุนเวียนตามรอบการปลูกได้
ด้านสังคม
ตอนแรกๆผมก็ปลูกพืชประดับเหมือนกับเพื่อนบ้านทั่วๆไป แต่ไม่ได้ลงทุนซื้อหรือปรับปรุงเยอะเหมือนคนอื่นๆ อยู่ไปทำไป จนวันหนึ่งได้บอกกับตัวเองว่าเดินทางนี้คงไม่ได้แน่ รายได้เท่าเดิมแต่รายจ่ายมีแต่จะเพิ่มขึ้น การปลูกผักสวนครัวในบริเวณบ้านน่าจะเป็นหนทางหนึ่งที่จะลดรายจ่ายได้ ก็เริ่มคุยกันกับคนในครอบครัว แรกๆก็ไม่ตอบรับแต่ก็ไม่ปฏิเสธ บอกแต่เพียงลงทุนเยอะ งั้นตกลงขอลองดูก่อนแค่ 5 ถุงร้อยบาทพอ จึงได้ลงมือตั้งแต่นั้นมาเพื่อนบ้านเห็นผมเอาหญ้าออก ก็ถามว่าจะเทปูนเหรอ ผมตอบว่าเปล่าครับไม่ตอบเขาตรงๆว่าจะปลูกผักกินเพราะก็ยังไม่รู้เหมือนกันว่าผลมันจะเป็นยังไง เขาเลยบอกต่อเทปูนรอบบ้านไปเลยเหมือนกับบ้านพี่ ยุงก็ไม่มีด้วย ผมก็ได้แต่ยิ้ม ๆ เล่าให้เพื่อนที่ทำงานฟังว่าจะปลูกผักกิน บ้างก็ว่ายังกับมีที่ 80,000 เอเคอร์ หรือไม่ก็ว่าที่ยังกับแมวดิ้น ผมก็ได้แต่ยิ้ม ๆ
เวลาผ่านไปพืชผักก็เจริญงอกงามได้ผลผลิตหลายๆอย่างเป็นที่น่าพอใจยิ่งนัก แรกๆก็กินในครอบครัว ญาติ พอเริ่มเยอะขึ้นก็แบ่งปันเพื่อนบ้านรอบๆ เพื่อนบ้านที่เข้าใจเวลากลับต่างจังหวัดได้อะไรมาก็แบ่งปันมาให้บ้าง เพื่อนบ้านรอบๆเริ่มมาขอดูและจะเอาไปทำบ้าง บางคนก็อาจสายไปเพราะเทปูนหมดแล้ว
ผมเริ่มนำผลผลิตมาแบ่งปันให้เพื่อนที่ทำงาน แฟนเอามั้งเอาไปที่ทำงานเหมือนกัน และฝากให้ลูกชายก็เอาไปให้คุณครูที่โรงเรียนด้วย จากเราเป็นคนเอาไปให้ตอนนี้เป็น มีเผื่อด้วยนะแทน ไม่ว่ากันภูมิใจมากกว่าที่เรามีที่แค่นี้แต่สามารถแบ่งปันคนอื่นได้หลายสิบคน โดยเฉพาะตอนใกล้สิ้นเดือนแค่บวบผัดใส่ไข่ก็ช่วยได้
ด้านครอบครัว
สรุปสั้น ๆ ละกันว่า "แย่งกันเก็บ" ,"เมื่อไรจะผสมดินให้เนี่ย" , "น้ำเหนือจะเปิดโรงเรียนสอนเด็กกินผัก" เป็นต้น ผมใช้เวลาวันละ 10 นาที ในการรดน้ำผักเพื่อให้ได้ผลผลิตมาประกอบอาหาร ซึ่งช่วยลดรายจ่ายลงได้เยอะเหมือนกันถึงมันจะไม่ใช่ทุกมื้อก็ตาม แค่นี้ก็บรรลุวัตถุประสงค์สูงสุดของผมแล้ว
ผมคิดว่าเส้นทางนี้ คือเส้นทางพัฒนาสู่ความยั่งยืน ที่จะทำให้ตัวเองอยู่รอดได้ในสังคมครับ
ขอบคุณบ้านสวนพอเพียงครับ
- บล็อกของ น้ำเหนือ
- อ่าน 5656 ครั้ง
ความเห็น
อินเนียร์
6 มีนาคม, 2013 - 12:29
Permalink
Re: ยุคนี้ต้อง "พอเพียง" ถึงจะรอด
มาชมสวน และชื่นชมแนวคิด คิดดีทำดีแม้บางครั้งคนที่ยังไม่เข้าใจยังไม่เห็นผลอาจยิ้มเย้ยบ้าง
ยาทิสัง วัปปเตพีชัง หว่านพืชชนิดใดลงไว้
ตาทิสัง ลภเตผลัง ย่อมได้ผลชนิดนั้น ปลูกผักย่อมได้กินผักไม่ต้องซื้อ สด สะอาด ปลอดสารพิษ
sujiraporn
6 มีนาคม, 2013 - 12:34
Permalink
Re: ยุคนี้ต้อง "พอเพียง" ถึงจะรอด
ยินดีด้วยนะคะที่พบทางที่ ชอบและใช่ สำหรับครอบครัวของเราเอง
อยากให้คนที่มีบ้านใกล้ ๆ บ้านเราได้อ่านมั่งจัง เผื่อปลูกเองไว้บ้าง
ไม่ต้องขอเราทุกครั้งที่จะใช้กระเพรา มะกรูด โหระพา ตะใคร้ ฯลฯ
อรพินท์
6 มีนาคม, 2013 - 12:46
Permalink
Re: ยุคนี้ต้อง "พอเพียง" ถึงจะรอด
ยินดีด้วยค่ะ อิ่มใจแทน
ตอนนี้ตัวเองก็เพาะพืชผักต่างๆ(ที่ได้รับจากครุทุกท่านทางเวบนี้และ thaiseedbank ค่ะ) นำลงปลูกในกระถางที่บ้าน ก่อนเอาไปลงที่สวน ปลูกไม้ดอกด้วย เมื่อโตเป็นต้นเล็กๆแล้วจะให้น้องสาวเอาไปปลูกที่บ้านเขาต่อด้วย เพราะน้องสาวก็อยุ่บ้านจัดสรร พื้นที่จำกัดเหมือนกัน อีกสักพักเมื่อทุกคนหาผัก และดอกไม้ต่างๆก็คงจะรุ้สึกดีขึ้นเหมือนคุณน้ำเหนือค่ะ
ขอบคุณค่ะ
auttaya
6 มีนาคม, 2013 - 12:55
Permalink
Re: ยุคนี้ต้อง "พอเพียง" ถึงจะรอด
ยินดีด้วยค่ะมีผักสดไว้กินเอง แถมยังปลอดสารพิษด้วย
boston
6 มีนาคม, 2013 - 14:01
Permalink
Re: ยุคนี้ต้อง "พอเพียง" ถึงจะรอด
_________________________
Our way is not soft grass, it’s a mountain path with lots of rocks. But it goes upward, forward, toward the sun. – Ruth Westheimer
j_pornrat
6 มีนาคม, 2013 - 15:12
Permalink
Re: ยุคนี้ต้อง "พอเพียง" ถึงจะรอด
ผมก็ใช้วิธีนี้เหมือนกัน ปลูกทั้งในกระถาง วงปูนขนาดเล็ก แต่ก่อนปลูกไม้ดอก ไม้ประดับ ปัจจุบันหันมาปลูกพืชผักสวนครัว เริ่มตั้งแต่ ข่า ตะไคร้ มะกรูด มะนาว พริก มะเขือ กระเพา ตำลึง ดอกชมจันทร์ ไปจนถึง ผักติ้ว มะตูมแขก เพื่อให้ได้พืชผักปลอดสารพิษ
น้ำเหนือ
6 มีนาคม, 2013 - 15:15
Permalink
Re: ยุคนี้ต้อง "พอเพียง" ถึงจะรอด
ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชมครับ
อำพล
6 มีนาคม, 2013 - 17:17
Permalink
Re: ยุคนี้ต้อง "พอเพียง" ถึงจะรอด
แค่นี้ก็สุขใจแล้วครับ
ภาษาไทยเป็นภาษาของชาติไทย เรามาร่วมรณรงค์ใช้ภาษาไทยให้ถูกกันดีกว่าครับ
Tookladda
6 มีนาคม, 2013 - 19:02
Permalink
Re: ยุคนี้ต้อง "พอเพียง" ถึงจะรอด
เข้ามาชื่นชมค่ะ
ยัยอิ๋ว
6 มีนาคม, 2013 - 19:54
Permalink
Re: ยุคนี้ต้อง "พอเพียง" ถึงจะรอด
ผักที่คุณน้ำเหนือปลูกก็งามดีค่ะ ผักบางชนิดต้องเด็ดยอดบ่อยๆค่ะอย่าปล่อยให้มันเรื้อ ยิ่งเด็ดผักยิ่งแตกยอดใหม่ๆออกมาเรื่อยๆอย่างเช่นสะระแหน่ โหระพา ผักแพว ฯลฯ
หน้า