เที่ยวไปในเยอรมัน ตอนที่ 2 พระราชวังนึมเฟนบูร์ก มิวนิค (Nymphenburg)

หมวดหมู่ของบล็อก: 

 

 

 

สวัสดีครับพี่น้องชาวบ้านสวนพอเพียงทุกท่าน ในวันที่ 5 ส.ค. 2556 ผมและเพื่อนที่ทำงานได้มีโอกาสเดินทางไปเที่ยวที่พระราชวังนึมเฟนบูร์ก หรือภาษาอังกฤษอ่านว่า นิมเฟนเบิร์ก ซึ่งเป็นพระราชวังฤดูร้อนตั้งอยู่นอกเมืองมิวนิคไปไม่ไกลครับ จากสถานีรถไฟ้า มิวนิคเซ็นเตอร์ต่อด้วยรถรางสาย 17 ออกไป 13 นาที ก็ถึงครับ นึมเฟนบูร์กเป็นพระราชวังฤดูร้อนของพระราชวงค์รัฐบาวาเรีย (รัฐบาเยอน ) ผู้ริเริ่มสร้างปราสาทคือเฟอร์ดินานด์ มาเรีย เจ้าชายแห่งรัฐวาบาเรีย และเจ้าหญิงเฮนเรียตตา อเดลเลดแห่งซาวอย  ตามแบบสถาปนิคอากอสติโน บาเรนลี ในปี ค.ส. 1664 (พ.ศ.2187)หลังจากมีพระโอรสองค์แรกพระนามว่า แม็กซิมิเลี่ยนที 2 เอ็มนานูเอล ส่วนกลางของวังสร้างเสร็จในปี ค.ส. 1675 (พ.ศ. 2218)  

   ด้านนอกพระราชวังล้อมรอบด้วยสวนที่ได้รับการออกแบบสไตล์อิตาลีสร้างบนเนื้อที่ 490 เอเคอร์ หรือ 1,225 ไร่ (1 เอเคอร์ =2.5 ไร่)  แต่ในช่วงต้นศตวรรตที่ 19 ได้มีการเปลี่ยนเป็นสวน สไตล์บาร็อก เพื่อให้เข้ากับตัวพระราชวัง โดยมีการขุดคลอง สร้างทะเลสาป พร้อมตกแต่งด้วยรูปสลักหินอ่อนของเทพเจ้ากรีก และมีศาลาหลายแห่งสร้างโดยกษัตริย์ในสมัยต่อมา 

 สิ่งที่น่าสนใจในพระราชวังแห่งนี้คือ แกลเลอรีสาวงาม ของพระเจ้าลุดวิกที่ 1 , พิพิธภัณฑ์คอกม้า , พิพิธภัณฑ์เครื่องลายคราม,ภาพเขียนจิตรกรรมบนเพดาน  นอกจากนี้ด้านนอกก็ยังมี ตำหนักล่าสัตว์, บ่ออาบน้ำแบบบาร็อก บาร์เดนบูร์ก, 

 เป็นพระราชวังที่สร้างแบบสถาปัตยกรรมบาร็อก หรือ บาโรก (Baroque) สถาปัตยกรรมบาโรค หมายถึง ศิลปะตะวันตกที่เริ่มต้นในคริสต์ศตวรรตที่ 17 ที่กรุงโรม ประเทศอิตาลี เป็นสถาปัตยกรรมที่เน้นความหรูหรา โอ่อ่า ความมีอำนาจของสถาบันคริสต์ศาศนา จุดเด่นก็คือ งานปูนปั้น ปูนปลาสเตอร์ หินอ่อน จิตรกรรมฝาผนัง ในยุคแรกจะสร้างในโบศถ์ หรือวิหารของศาสนาคริสต์โรมันคาทอริก และต่อมาได้นำมาเป็นแบบในการสร้างพระราชวังต่างๆ ในแถบประเทศยุโรป เช่น พระราชวังแวร์ซาย, จตุรัสหน้ามหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ที่กรุงโรม และอืนๆ

เอาล่ะครับบรรยายมามากแล้วตามมาดูกันเลยครับ

ลงรถรางเดินข้ามถนนมาก็จะมองเห็นคลองน้ำและตัวพระราชวังข้างหน้าครับ

ในคลองมีปลาตัวใหญ่ลอยอยู่เต็มเลยครับ แต่ละตัว 3-4 ก.ก.แน่ๆครับ

มีละสาปน้อยๆอยู่ด้านหน้า แต่วันนี้ทำไมไม่เปิดน้ำพุหว่า ด้านหน้าตรงกลางครับ ตัวอาคารเหมือนจะเรียบง่ายผมคิดเองนะครับ

และมีห่านหรือหงษ์ไม่แน่ใจครับแต่ขาวทั้งตัวเล่นน้ำอยู้หน้าวังเต็มเลยครับ ซ้ายมือครับ

ด้านนี้ก็ขวามือครับ โหวังติดกันยาวเป็นแถวเลยครับไม่รู้ว่ามีอะไรข้างในบ้างครับ

มีสวนหญ้าและแปลงดอกไม้ด้วยครับ แต่แดดแรงไปหน่อยวันนั้นครับ

ขอไว้เป็นที่ระลึกสักหน่อยครับ

เป็นอาคารห้าชั้นครับหลังใหญ่เหมือนกันครับ

 

มีป้ายบอกก่อนเข้าถึงตัวปราสาทครับ ชาลอส แปลว่า พระราชวังครับ (Schloss) ที่นี่เป็นพระราชวังและสวนด้วยครับ

เดินลอดตัวปราสาทเข้ามาเป็นสวนใหญ่มาก มองไปลิบลับเลยครับ

ด้านนี้ขวามือครับ

ด้านนี้ซ้ายมือครับ

ระหว่างสวนมีรูปปั้นแกะสลักหินอ่อนเรียงรายเลยครับ ส่วนนี้เปิดให้เข้าฟรีครับเห็นประชาชนมาวิ่งออกกำลังกายด้วยครับ

ขึ้นมาข้างบนปราสาทเป็นพิพิธภัณฑ์ต้องจ่ายค่าเข้าชม ส่วนนี้ราคาคนละ 6 ยูโรครับ  ที่นี่เขาจะแบ่งเป็นห้องๆและคิดค่าเข้าชมแตกต่างกันไปเช่น ส่วนนี่มีสองพิพิธภัณฑ์ ถ้าจะไปดูห้องอื่นก็ต้องจ่ายค่าเข้าขมอีกครับ แตกต่างจากบ้านเราจ่ายทีเดียวเดินทั่วเลยครับ

เนื่องจากที่นี่เขาจะปิดหน้าต่างและผ้าม่านเอาไว้ผมจึงถ่ายรูปออกมาไม่ค่อยจะสวยเท่าไหร่ อยากบอกว่าของจริงของเขาสวยงามมากครับ

อื้อหือคนปั้นคนทำ ฝีมือช่างยอดเยี่ยม เพราะเป็นงานปูนปั้น แหงนดูจนตาลายไปหมดสวยงามครับ

 

เป็นห้องโถงขนาดใหญ่พอสมควรครับ ไม่น่าเชื่อปราสาทนี้อายุผ่านมา 300 กว่าปีมาแล้วยังสวยอยู่เลยครับ

 

อันนี้เป็นเพดานครับฝีมือของเขาแน่จริงๆครับ 

โอ้โฮภาพวาดของพระราชวังแห่งนี้ช่างกว้างขวางจริงๆ สมแล้วเนื้อที่  1,225 ไร่ 

นี่ก็เป็นภาพวาดของพระราชวังอีกแห่งแต่ลืมดู ตั้งอยู่ที่ไหนนี่กว้างใหญ่เหมือนกันครับ

ไม่แน่ใจว่าเป็นห้องรับแขกหรือเปล่าครับ

 

โอ่อ่าใหญ่โตเหมือนกันครับ

อันนี้น่าจะเป็นห้องนอนเพราะมีเตียงครับ

อันนี้ไม่แน่ใจว่าห้องรับแขกอีกหรือเปล่าครับ

ห้องประสูตของพระเจ้าลุดวิกที่ 2 เพราะมีป้ายบอกไว้ครับ

โต๊ะเก้าอี้สวยๆทั้งนั้นเลยครับ

นี่คือรูปของพระเจ้าลุดวิกที่ 2 ครับ

 

โต๊ะหินอ่อนตัวนี้กับนาฬิกาก็อย่างงามครับ เสียดายแสงไม่พอครับ

 

ห้องโชว์ภาพวาดของสาวงามสตรีชั้นสูงเมืองมิวนิค ของพระเจ้าลุดวิกที่ 1  มีทั้งหมด 36 คนครับ

 

หน้าตาสวยสดงดงามทั้งนั้นครับ เอหรือเขาวาดได้สวยครับ

 

สาวงามเมื่อครั้งอดีตครับ ไม่มีข้อมูลว่าในช่วงปีไหนครับ แต่ละนางก็จะมีป้ายบอกชื่อไว้อย่างชัดเจนครับ

สวยๆทั้งนั้นเลยครับ

ถ้าเขาเปิดหน้าต่างให้แสงเข้ามาก็คงจะดีไม่น้อย สงสัยกลัวว่าแสงจะเข้ามาทำลายภาพสีต่างๆในวังหรือเปล่าครับ แต่ก็ดียังให้ถ่ายภาพได้ครับ

 

ภาพสุดท้ายขอเก็บไว้เป็นที่ระลึกว่าครั้งหนึ่งในชีวิตได้มาเยือนแล้วครับ

เสียดายเนื่องจากกว่าจะไปถึงก็เกือบจะเที่ยงแล้วครับ บ่ายสองก็ต้องเดินทางกลับเพื่อมาทำงานตอนเย็น เอาเป็นว่าห้องที่เหลือหรือบริเวณสวนป่าต่างๆขอติดไว้ เป็นโอกาสหน้านะครับพี่น้องทั้งหลาย

          สุดท้ายขอขอบคุณบ้านสวนพอเพียงที่ให้โอกาสผมได้แบ่งปัน

       และขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาชมเจอกันใหม่ในบล็อคต่อไปครับ

 

 

 

 

 

ความเห็น

เขาวาดได้สวยจริงๆครับ ขอบคุณครับป้าเล็ก

ดีหรือชั่วอยู่ที่ตัวทำ สูงหรือต่ำอยู่ที่ทำตัว


บุคคลจะล่วงทุกข์ได้เพราะความเพียร

ขอบใจนะน้องที่เที่ยวเผื่อด้วย สวยมาก คุ้มค่าจริง ๆ

ยินดีและขอบคุณครับครู

ดีหรือชั่วอยู่ที่ตัวทำ สูงหรือต่ำอยู่ที่ทำตัว


บุคคลจะล่วงทุกข์ได้เพราะความเพียร

อืมมแต่ละนางคงจะอวบเหมือนลุงโรสว่าจริงๆขอบคุณครับ 555

ดีหรือชั่วอยู่ที่ตัวทำ สูงหรือต่ำอยู่ที่ทำตัว


บุคคลจะล่วงทุกข์ได้เพราะความเพียร

ยินดีและขอบคุณครับพี่ยุพิน

ดีหรือชั่วอยู่ที่ตัวทำ สูงหรือต่ำอยู่ที่ทำตัว


บุคคลจะล่วงทุกข์ได้เพราะความเพียร

สถานที่สวยงามมากค่ะ ขอบคุณที่พาเที่ยวนะคะ

ยินดีและขอบคุณครับ

ดีหรือชั่วอยู่ที่ตัวทำ สูงหรือต่ำอยู่ที่ทำตัว


บุคคลจะล่วงทุกข์ได้เพราะความเพียร

หน้า