อโวคาโด
วันก่อนน้องที่ทำงาน เอาผลอโวคาโดมาให้คนที่ทำงานกินมั้ง ถามไปถามมา ทราบมาว่า น้องเขาปลูกเองที่บ้าน บ้านที่ นนท์ ติดๆ กรุงเทพฯ ผมเคยเห็น อโวคาโดมาพอสมควรแต่ไม่เคยเห็นลูกใหญ่ๆ แบบนี้เลย ไม่รู้เป็นที่พันธุ์ เปล่า จำได้่ว่าสมัยเรียนมหาลัยเพื่อน เคยเอามาฝากจาก ชัยภูมิ กินไม่เป็น แต่จริงๆ แล้วก็คิดว่า อโวคาโดเนี่ยจะปลูกได้ดีในที่สูงๆ บนดอยไรงี้ ( เหมือน อาราบีก้า ) แต่พอเห็นลูกที่น้องเขาปลูกเองที่บ้านแล้วเปลี่ยนความคิดเลย ( แต่บ้านน้องเขาร่มรื่นดีอยู่แถวๆศาลายา ) ดินดีน้ำดี
ดูเพลินเลย ร่มรื่นดีด้วยคับ
ถามน้องเขาว่า ได้ขายมั่งเปล่า น้องเขาบอกว่าไมไ่ด้ขายไม่รู้จะไปขายที่ใหน
ให้น้องเขาตอนกิ่ง ไว้ให้ ( อิอิ อยากปลูกมั่งเทห์ดี ถึงไม่ีมีลูกให้แต่ท่าทางร่มรื่นใช้ได้ )
ใครสนใจ หรือ รู้แหล่งขาย อโวคาโด รบกวนบอกด้วยนะครับ เยอะอย่างนี้อยากให้น้องเขาเอาไปขายมั่งคับ
- บล็อกของ pomcob
- อ่าน 46418 ครั้ง
ความเห็น
pomcob
11 มิถุนายน, 2010 - 11:09
Permalink
ครับคุณมาย ได้ยินมาว่าแบบนั้นครับ แต่รสชาิิติเนี่ย .. ย
ข้อมูลจากเน็ตครับ
อะโวคาโด (Avocado) เป็นผลไม้ที่ปลูกมากในอเมริกา ซื้อกันได้ไม่ยากตามซุปเปอร์มาเก็ตชั้นนำทั่วไป ผลของอะโวคาโดอุดมสมบูรณ์ไปด้วยวิตามินต่างๆ ทั้งวิตามินเอ ดี และอี แร่ธาตุต่างๆ เช่น โปแตสเซียมและ ซัลเฟอร์ และน้ำมันจากธรรมชาติ
อะโวคา โดเหมาะอย่างยิ่งกับการนำมาเสริมความงามให้กับเรือนผม และใบหน้า เพราะเนื้ออะโวคาโดจะแทรกซึมสู่เส้นผมและผิวหนังได้เป็นอย่างเป็นดี ถ้าเป็น อะโวคาโดสายพันธุ์จากแคลิฟอร์เนีย (California Avocados)จะดีที่สุด เพราะความอุดมสมบูรณ์และความเข้มข้นของน้ำมันที่มีมากกว่าพันธุ์อื่นๆ
เป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจ แต่เป็นเรื่องจริงที่อโวคาโด ผักที่มีรูปร่างหน้าตาพิกล สามารถช่วยลดคอเลสเตอรอลได้ ที่มีความสามารถนี้เพราะมันมีไขมันชนิดดี ที่ช่วยปรับปรุงระดับคอเลสเตอรอล เช่นเดียวกับน้ำมันมะกอกและถั่วอัลมอนด์ นักวิเคราะห์ชาวอิสราเอลเพิ่งค้นพบว่า การกินอโวคาโด ถั่วอัลมอนด์ หรือน้ำมันมะกอกติดต่อกันเป็นเวลาสามเดือน สามารถช่วยลดคอเรสเตอรอล ตัวร้าย LDL ได้ถึงร้อยละ 12
คุณค่าทางโภชนาการของอโวคาโด้
อโวคาโด้เป็นผลไม้ที่คุณ ค่าทางโภชนาการสูงมาก ในเนื้ออโวคาโด้ 100 กรัม ให้แคลอรี่ถึง 189 แคลอรี่ และในเนื้ออโวคาโด้ 1 ขีด จะได้ไขมัน 19.3 กรัม แต่ไม่ต้องวิตก เพราะไขมันในอโวคาโด้ เป็นไขมันพืชชนิดไม่อิ่มตัว รับประทานแล้วไม่อ้วนไม่เพิ่มคอเลสเตอรอล เนื้ออโวคาโด้ไม่มีคอเลสเตอรอล แต่มีโปรตีนและคาร์โบไฮเดรต ทำให้รับประทานอโวคาโด้แล้วมีแรงเพิ่มมากขึ้น นอกจากนั้น การรับประทานอโวคาโด้ยังช่วยให้หัวใจแข็งแรงด้วย เพราะอโวคาโด้ ช่วยให้ขันมันในหลอดเลือดลดลง ผลการวิจัยของสถาบัน เวสต์ลีย์เมดิคอลเซ็นเตอร์ ในออสเตรเลีย ระบุว่า การรับประทานอโวคาโด้ วันละ ครึ่งผลถึงผลครึ่ง ทำให้ลดคอเลสเตอรอลในหลอดเลือดได้มากกว่าการรับประทานอาหารไขมันต่ำและจำกัด อาหารมันๆ อย่างเข้มงวดเสียอีก สำหรับคุณสาวๆ ที่ต้องการให้ผิวพรรณสวยงามอยู่เสมอ ผิวหน้าเต่งตึง ไร้รอยเหี่ยวย่น ไร้รอยตีนกา อโวคาโด้ก็ช่วยได้มาก เพราะในอโวคาโด้มีวิตามิน E ที่ช่วยบำรุงผิวพรรณ และมีแอนตี้ออกซิเดนท์ที่ทำให้เส้นเลือดอยู่ในสภาพสมบูรณ์ทำให้หัวใจแข็ง แรง วิตามินที่มีมากในอโวคาโด้ คือ วิตามิน B1 B2 B6 และยังมีไนอาซีน กรดโฟลิค โพแทสเซี่ยม ฟอสฟอรัส อย่างอุดมสมบูรณ์อีกด้วย
ตำรับเครื่องสำอางจากผลอะโวคาโด เช่น
Avocado Facial Cleanser
ส่วนผสม : ไข่แดง 1 ฟอง นม 1/2 ถ้วย เนื้ออะโวคาโดบดละเอียด 1/2 ลูก นำไข่แดงมาตีให้เข้ากันจนเป็นฟองแล้ว เติมนมและเนื้ออะโวคาโดตามลำดับ ตีให้ส่วนผสมเข้ากันด้วย ส้อมจนกลายเป็นเนื้อครีมบางๆคล้ายโลชั่น หลังจากนั้นใช้สำลีแผ่นชุบแล้วเช็ดหน้าให้ทั่วเหมือนที่คุณใช้กับ เคลนเซอร์ทั่วไป สามารถใช้ส่วนผสมนี้หลังจากการล้างหน้าแบบปกติที่ทำอยู่ประจำด้วยสบู่หรือ น้ำ ถ้าคุณเป็นคน มีผิวหน้าธรรมดา สูตรนี้จะช่วยให้ผิวหน้าของคุณปราศจากสิ่งสกปรกต่างๆเป็นอย่างดี เพราะจะเหมาะอย่างยิ่งใน การต่อต้านสิ่งสกปรกและละอองฝุ่นที่แอบเกาะติดมาบนในหน้าของคุณโดยที่คุณไม่ รู้ตัว
ส่วนผสม : ไข่แดง 1 ฟอง และเนื้ออะโวคาโดบดละเอียด 1/2 ลูก นำไข่แดงมาตีให้เข้ากันจนเป็นฟองและ ตามด้วยการเติมเนื้ออะโวคาโด คนส่วนผสมให้เข้ากัน (ถ้ามีเครื่องปั่นก็สามารถใช้ได้) หลังจากมีใบหน้าที่สะอาดหมดจดแล้วก็นำส่วนผสมทั้งหมดมาพอกหน้าพอกคอ ให้ทั่ว ทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที เมื่อครบเวลาให้ล้างออกด้วยน้ำอุ่น เช็ดด้วยผ้าแห้งและล้างหน้าด้วย น้ำเย็น ผลที่ได้ก็คือผิวหน้าที่เรียบเนียนขึ้นและการมีใบหน้าที่ดูดีมีชีวิตชีวา ขึ้น
ส่วนผสม : ไข่ขาว 1 ลูก น้ำมะนาว 1 ช้อนชา และเนื้ออะโวคาโด 1/2 ลูก นำส่วนผสมทั้งหมดมารวมกัน ในเครื่องปั่น ปั่นจนเนื้อเข้ากัน 2 วินามีก็จะได้ส่วนผสมสีเขียวที่ งดงามน่านำมาพอกหน้ายิ่งนัก นำส่วนผสมทั้งหมดที่ได้มาพอกใบหน้าและลำคอที่สะอาด ทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่นๆ เช็ดด้วยผ้าแห้ง เท่านี้ใบหน้าที่ปราศจากความมัน
ข้อมูลจาก : http://specially.tht.in/avocado.html
อะโวคา โดเหมาะอย่างยิ่งกับการนำมาเสริมความงามให้กับเรือนผม และใบหน้า เพราะเนื้ออะโวคาโดจะแทรกซึมสู่เส้นผมและผิวหนังได้เป็นอย่างเป็นดี ถ้าเป็น อะโวคาโดสายพันธุ์จากแคลิฟอร์เนีย (California Avocados)จะดีที่สุด เพราะความอุดมสมบูรณ์และความเข้มข้นของน้ำมันที่มีมากกว่าพันธุ์อื่นๆ
เป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจ แต่เป็นเรื่องจริงที่อโวคาโด ผักที่มีรูปร่างหน้าตาพิกล สามารถช่วยลดคอเลสเตอรอลได้ ที่มีความสามารถนี้เพราะมันมีไขมันชนิดดี ที่ช่วยปรับปรุงระดับคอเลสเตอรอล เช่นเดียวกับน้ำมันมะกอกและถั่วอัลมอนด์ นักวิเคราะห์ชาวอิสราเอลเพิ่งค้นพบว่า การกินอโวคาโด ถั่วอัลมอนด์ หรือน้ำมันมะกอกติดต่อกันเป็นเวลาสามเดือน สามารถช่วยลดคอเรสเตอรอล ตัวร้าย LDL ได้ถึงร้อยละ 12
คุณค่าทางโภชนาการของอโวคาโด้
อโวคาโด้เป็นผลไม้ที่คุณ ค่าทางโภชนาการสูงมาก ในเนื้ออโวคาโด้ 100 กรัม ให้แคลอรี่ถึง 189 แคลอรี่ และในเนื้ออโวคาโด้ 1 ขีด จะได้ไขมัน 19.3 กรัม แต่ไม่ต้องวิตก เพราะไขมันในอโวคาโด้ เป็นไขมันพืชชนิดไม่อิ่มตัว รับประทานแล้วไม่อ้วนไม่เพิ่มคอเลสเตอรอล เนื้ออโวคาโด้ไม่มีคอเลสเตอรอล แต่มีโปรตีนและคาร์โบไฮเดรต ทำให้รับประทานอโวคาโด้แล้วมีแรงเพิ่มมากขึ้น นอกจากนั้น การรับประทานอโวคาโด้ยังช่วยให้หัวใจแข็งแรงด้วย เพราะอโวคาโด้ ช่วยให้ขันมันในหลอดเลือดลดลง ผลการวิจัยของสถาบัน เวสต์ลีย์เมดิคอลเซ็นเตอร์ ในออสเตรเลีย ระบุว่า การรับประทานอโวคาโด้ วันละ ครึ่งผลถึงผลครึ่ง ทำให้ลดคอเลสเตอรอลในหลอดเลือดได้มากกว่าการรับประทานอาหารไขมันต่ำและจำกัด อาหารมันๆ อย่างเข้มงวดเสียอีก สำหรับคุณสาวๆ ที่ต้องการให้ผิวพรรณสวยงามอยู่เสมอ ผิวหน้าเต่งตึง ไร้รอยเหี่ยวย่น ไร้รอยตีนกา อโวคาโด้ก็ช่วยได้มาก เพราะในอโวคาโด้มีวิตามิน E ที่ช่วยบำรุงผิวพรรณ และมีแอนตี้ออกซิเดนท์ที่ทำให้เส้นเลือดอยู่ในสภาพสมบูรณ์ทำให้หัวใจแข็ง แรง วิตามินที่มีมากในอโวคาโด้ คือ วิตามิน B1 B2 B6 และยังมีไนอาซีน กรดโฟลิค โพแทสเซี่ยม ฟอสฟอรัส อย่างอุดมสมบูรณ์อีกด้วย
ตำรับเครื่องสำอางจากผลอะโวคาโด เช่น
Avocado Facial Cleanser
Dry Skin Masque สำหรับผิวหน้าแห้ง
Oily Skin Masque สำหรับผิวหน้ามัน
Avocado Moisturizer
Eye Treatment 
ส่วนผสม : ไข่แดง 1 ฟอง นม 1/2 ถ้วย เนื้ออะโวคาโดบดละเอียด 1/2 ลูก
นำไข่แดงมาตีให้เข้ากันจนเป็นฟองแล้ว เติมนมและเนื้ออะโวคาโดตามลำดับ ตีให้ส่วนผสมเข้ากันด้วย ส้อมจนกลายเป็นเนื้อครีมบางๆคล้ายโลชั่น หลังจากนั้นใช้สำลีแผ่นชุบแล้วเช็ดหน้าให้ทั่วเหมือนที่คุณใช้กับ เคลนเซอร์ทั่วไป สามารถใช้ส่วนผสมนี้หลังจากการล้างหน้าแบบปกติที่ทำอยู่ประจำด้วยสบู่หรือ น้ำ ถ้าคุณเป็นคน มีผิวหน้าธรรมดา สูตรนี้จะช่วยให้ผิวหน้าของคุณปราศจากสิ่งสกปรกต่างๆเป็นอย่างดี เพราะจะเหมาะอย่างยิ่งใน การต่อต้านสิ่งสกปรกและละอองฝุ่นที่แอบเกาะติดมาบนในหน้าของคุณโดยที่คุณไม่ รู้ตัว
ส่วนผสม : ไข่แดง 1 ฟอง และเนื้ออะโวคาโดบดละเอียด 1/2 ลูก
นำไข่แดงมาตีให้เข้ากันจนเป็นฟองและ ตามด้วยการเติมเนื้ออะโวคาโด คนส่วนผสมให้เข้ากัน (ถ้ามีเครื่องปั่นก็สามารถใช้ได้) หลังจากมีใบหน้าที่สะอาดหมดจดแล้วก็นำส่วนผสมทั้งหมดมาพอกหน้าพอกคอ ให้ทั่ว ทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที เมื่อครบเวลาให้ล้างออกด้วยน้ำอุ่น เช็ดด้วยผ้าแห้งและล้างหน้าด้วย น้ำเย็น ผลที่ได้ก็คือผิวหน้าที่เรียบเนียนขึ้นและการมีใบหน้าที่ดูดีมีชีวิตชีวา ขึ้น
ส่วนผสม : ไข่ขาว 1 ลูก น้ำมะนาว 1 ช้อนชา และเนื้ออะโวคาโด 1/2 ลูก
นำส่วนผสมทั้งหมดมารวมกัน ในเครื่องปั่น ปั่นจนเนื้อเข้ากัน 2 วินามีก็จะได้ส่วนผสมสีเขียวที่ งดงามน่านำมาพอกหน้ายิ่งนัก นำส่วนผสมทั้งหมดที่ได้มาพอกใบหน้าและลำคอที่สะอาด ทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่นๆ เช็ดด้วยผ้าแห้ง เท่านี้ใบหน้าที่ปราศจากความมัน
หลังจากขั้นตอนการชำระล้างใบหน้าให้สะอาดและพอกหน้าให้สดใสแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการทามอยสเจอร์ไรเซอร์ (Moisturizer)
โดยการใช้เปลือกอะ โวคาโดแกะเอาเนื้อไปแล้วอย่าทิ้งเปลือกไปด้วยเพราะ เปลือกจะอุดมด้วยน้ำมันอันทรงคุณค่าอยู่ภายในนั้นมีประโยชน์มากไม่น้อยไป กว่าเนื้ออะโวคาโดเลย เพราะน้ำมันในเปลือกที่มีสารห่อหุ้มความชุ่มชื้นอยู่อย่างเต็มเปี่ยมจะช่วย ให้ผิวหน้ารู้สึกถึงสดชื่น เพียงนำเปลือกอะโวคาโดมาถูบนใบหน้าในแนวขึ้นและนวดหน้าด้วยเปลือกอย่างแผ่ว เบา ทิ้งให้น้ำมันซึมซาบสู่ใต้ผิวประมาณ 15 นาที หากทำก่อนนอนก็สามารถทิ้งไว้อย่างนั้นไปได้ทั้งคืนโดยไม่ต้องล้าง ออก แต่ถ้าต้องไปนอกบ้านพร้อมการแต่งหน้า แค่ล้างหน้า3-4ครั้งด้วยน้ำอุ่น แล้วเช็ดหน้าให้แห้ง แล้วก็แต่งหน้าได้ตามปกติ
อะ โวคาโดมีประสิทธิภาพที่จะทำให้รอยหมองคล้ำต่างๆ เจือจางไปได้โดยปลอกเปลือก เอาเมล็ดออกและเฉือนเนื้ออะโวคาโดให้เป็นรูปเหมือนดวงจันทร์เสี้ยว 2-3 ชิ้นต่อ ดวงตาแต่ละข้าง นำมาแปะไว้ที่ดวงตา 20 นาที ก็ทำให้ดวงตาไร้รอยช้ำ และรอยหมองคล้ำจางลงได้
มาย
11 มิถุนายน, 2010 - 11:18
Permalink
รสชาติ
เมื่อก่อนพี่ก็ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ แต่พอรู้ว่ามันมีประโยชน์เยอะ ก็เอามาปรุงแต่งตามที่เราชอบ
เอามาผสมร่วมกันทำสลัดมันฝรั่ง หรือไม่ก็เอามาใส่ในข้าวห่อสาหร่าย(ฟุโตมากิ)..
ก็อร่อยไปอีกแบบค่ะ
there is a will , there is a way .
pomcob
11 มิถุนายน, 2010 - 11:25
Permalink
จะลองหาวิธีทานดูครับ คุณมาย
ได้ 3 อย่างจากพี่สุระพล พี่ปนัดดา แล้วก็ คุณมาย แนะนำ ( ดูท่าทาง มีคนกินเยอะนะเนี่ยในบ้านสวน 55 )
แต่อาโวคาโด ทุกวันนี้ไม่รู้ยังแพงอยู่เปล่า สองสามปีที่แล้ว เคยซื้อ มาทำสลัดราคาค่อนข้างแพง ทุกวันนี้ไม่ไ้ด้ดูเลย
rose1000
11 มิถุนายน, 2010 - 11:06
Permalink
อะโวกาโด
ที่ปากช่องก็มีปลูกกันเยอะ อะโวกาโด ปลูกได้ทั่วไป ทั้งที่สูงและพื้นราบ แล้วแต่พันธุ์ ถ้าพูดถึงพันธุ์มีหลากหลายสายพันธุ์ทั้งลูกเล็กนิดเดียว ไปจนถึงลูกโตเป็นกิโลก็มี ลูกทรงยาวๆก็มี ที่บ้านปากช่องผมก็มีอยู่ 2 ต้น ลูกแบบที่เห็นในรูปเลย ลูกใหญ่ๆหนักเป็นกิโล แต่ที่มีไม่ค่อยติดลูกให้กินสักเท่าไหร่ การขายอะโวกาโด สามารถวางขายได้ทั่วไป ลองไปติดต่อแผงที่ อตก.ดู น่าจะขายได้ กก.ละประมาณ 50-60 บาท ถ้าเป็นอะโวกาโดจากนอก ลองไปดูใน super market ราคาจะแพงมาก อีกที่ที่มีอะโวกาโดขายคือร้านดอยคำ ถูกกว่าในห้าง แต่แพงกว่าในตลาดทั่วไป
การรับประทานอะโวกาโด เมื่อเริ่มสุกก็ทานได้เลย(เริ่มนิ่มๆและสีเปลือกเริ่มเปลี่ยนสีจากเขียวเป็นสีม่วง) มักใช้ประกอบอาหารฝรั่ง แต่คนไทยจะทานง่ายๆโดยผ่าออกเป็นสองซีกโรยน้ำตาลทราย ใช้ช้อนตักกินรสชาติมันหวาน(น้ำตาล) หรือที่ work ที่สุดในความคิดผม ให้กินกับน้ำกะทิ(ใช้แทนแตงไทย) จะอร่อยมากไม่เชื่อลองดู
อะโวกาโด ไม่ใช่ไม้แปลกใหม่แต่อย่างใด มีการนำเข้ามาปลูกในเมืองไทยนานแล้ว และมีการตั้งชื่อไทยด้วย คือ "ลูกเนย" ที่ได้ชื่อนี้ ได้มาจากรสชาติของเนื้อผลที่มีรสมันนั่นเอง
การขยายพันธุ์ ใช้วิธีเพาะเมล็ด อะโวกาโด 1 ลูก มี 1 เมล็ด(ใหญ่มาก) หรือการตอนกิ่ง (แต่ต้นอาจไม่แข็งแรงเพราะระบบรากไม่ดีเหมือนเพาะเมล็ด) วิธีที่ดีกว่าตอนกิ่งคือ การเสียบยอด ที่สามารถแก้ปัญหาระบบรากไม่แข็งแรงได้ ถ้าเป็นพันธุ์ที่จังหวัดนนท์คิดว่าใช้วิธีเพาะเมล็ดน่าจะได้ดเพราะไม่มีพันธุ์อื่นอยู่ในบริเวณใกล้เคียงแน่ๆ แต่มีข้อเสียของวิธีเพาะเมล็ดคือจะออกผลช้ากว่าการตอน หรือเสียบยอด
pomcob
11 มิถุนายน, 2010 - 11:14
Permalink
ว้าววววววว ครบถ้วนเลยพี่
ทั้งวิธีการกิน ที่แบบว่าลองได้ง่ายแล้วก็ ทำกินเองจริงๆ ได้เลย
สนใจอโวคาโด น้ำกะทิครับ แฮะๆ
ยังได้ความรู้เรื่องพันธุ์ด้วย วันก่อนไปซื้อทุกเรียนที่ อตก วันหลังแวะไป จะลองไปถามๆ เผื่อน้องเขาดูด้วยครับ
ขอบคุณครับพี่
แก้ว กุ๊ก กิ๊ก
11 มิถุนายน, 2010 - 11:37
Permalink
ของหวาน
อโวคะโดเชื่อม ลอยแก้ว แข่อิ่ม อร่อยทุกอย่าง
แต่ต้องแช่น้ำเกลือก่อนปรุง
pomcob
11 มิถุนายน, 2010 - 11:40
Permalink
คุณแก้วมาแปลก
นึกภาพความอร่อยไม่ออกเลย 55
ก็นึกไม่ออกว่าทำแล้วจะออกมารูปแบบใหน
ปกติกิน ดิบๆ สดๆ หรือเอาไปปั่น แต่ พอมาแบบว่าทำของหวานแบบไทยก็ นึกไม่ออกเลยจะออกมาแบบใหนครับ ( กับน้ำกะทิของพี่สรุพลยังพอว่า )
ถ้ามีโอกาสจะลองทำดูคับคุณแก้ว
แก้ว กุ๊ก กิ๊ก
11 มิถุนายน, 2010 - 11:42
Permalink
คุณป้อม
เลือกผลที่ไม่สุกมากนะคะ ไม่งั้นจะเละตอนต้มน้ำตาล
จันทร์เจ้า
11 มิถุนายน, 2010 - 11:40
Permalink
ยังไม่เคยกินเลย
เห็นแล้วสดชื่น จริงๆด้วย ใบให้ร่มหนามากๆ
ว่าแต่...พี่ไม่เคยกินเลย รสชาติเป็นไงบ้างล่ะน้องป้อม
(เคยกินแต่แอปเปิ้ลเขียว เหมือนกันมั้ย???)
พอเพียง และ เพียงพอ บ้านไร่จันทร์เจ้า
pomcob
11 มิถุนายน, 2010 - 11:46
Permalink
รสชาิติ ... เอ่อ
ถ้าจะพูดตรงกัน คือไม่อร่อยเลยพี่
แต่ก็บอกไม่ถูกว่าออกมาแบบใหนนะพี่ ไม่เปรี้ยว ไม่หวาน ..
แต่เขาว่ามีประโยชน์มาก เป็นผลไม้ที่มีประโยชน์มาก คนเลยชอบทานกันครับ
ส่วนใหญ่เอามากินกับสลัดคับ
กับ แอบเปิ้ลเขียวเนี่ย ... ไม่เหมือนกันเลย แม้แต่นิดเดียวพี่ ให้พี่ๆ ปนัดดา คุณมาย พี่สุรพล อธิบายน่าจะได้เรื่องมากกว่า 55+
ขอตัวช่วยหน่อยครับ
หน้า