การเยือนอุบลฯครั้งแรกของฉัน
สวัสดีค่ะ เพื่่อนๆ สมาชิกบ้านสวนฯคะ นุุสิตาได้มีโอกาสไปเที่ยวภาคอีสาน เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2557 และการเดินทางครั้งนี้ ได้พบปะกับสมาชิกบ้านสวน ซึ่งก็คือ พี่แดง อ้ายเวทย์ และนายนำใยค่ะ นุสิใช้เวลาอยู่ในอุบล 3 วันคือวันเสาร์และอาทิตย์ และวันจันทร์ อุบลราชธานีใช้เวลาเดินจากรุงเทพฯ ถึง 7 ชม.ค่ะ
หลายคนบอกว่า นั่งรถนครชัยแอร์ดีกว่า นั่งระยะไกล สบาย ไม่เมื่อย แถมมีหนังให้ดู มีเกมส์ให้เล่น ลองแล้วค่ะ ใช่จริงๆ ด้วย ไม่เหงาตลอดการเดินทาง การเดินทางครั้งนี้ ตื่นเต้นนิดหน่อย เพราะเป็นการเดินทางไกลโดยลำพังครั้งแรก แต่รู้สึกดีมากๆ ที่ได้หัดทำอะไรคนเดียว เพราะไม่เคยไหนไกลๆ เลยค่ะ
พอถึง จ.อุบลฯ ก็จัดแจงเก็บสัมภาระ โชคดีนายลำใย มีห้องว่างให้คนเช่าอยู่หลายห้อง ฉันเลยได้สิทธิอยู่ฟรี ห้องสุดท้ายประตูเปิดอยู่ ห้องฉันเองค่ะ เชื่อว่าหลายคนคงไม่เคยเห็น นุสิตาขออนุญาติเจ้าของบ้านเรียบร้อยแล้ว
นายลำใยมีต้นมะเฟืองอยู่หลังบ้าน พันธุ์ใหญ่ ลูกสีเหลืองเข้มอมส้ม เป็นพันธุ์ที่เห็นขายในตลาดน้ำราคาแพงๆ ไม่รู้เรียกว่าอะไรนะ ตกอยู่ใต้ต้นเต็มไปหมดเลย ส่วนผลที่อยู่บนต้นเด็ดมาชิมแล้ว หวานมากๆๆ
ที่บ้านนายลำใย ไม่ได้มีแต่มะเฟืองนะ มีมะม่วงด้วย พันธุ์อะไรไม่ทราบ ลูกไม่ใหญ่มาก นายลำใยบอกว่า หากกัดแล้วจะแตกดังเปรี้ยเลย ทีแรกไม่เชื่อ ด้วยบุคลิกของนายลำใย เชื่อยากค่ะ ต้องลองเอง ......
พอลองกัดคำแล้วเท่านั้นล่ะ โอ้วววว จริงด้วย แตกลั่นคาปากเลยค่ะ ของดีอีกหนึ่ง ที่นายลำใยไม่เคยบอก เขาจะให้เอากลับบ้านด้วย แต่ให้ปีนไปเก็บเอง
อึ้งเลยสิ อย่างเราเนี่ยนะ จะปีนต้นไม้สูงๆ แบบนี้ได้ ไม่กล้าทำ ขาสั่น คิดว่า ไม่กินก็ไม่กิน ก็มันไม่กล้า สุดท้าย นายลำใยก็ต้องเก็บให้ 55+
เก็บมาไว้กินคืนนี้ก่อนนิดหน่อย ก่อนกลับบ้านค่อยให้นายลำใยสอยเพิ่ม รสชาติกรอบมาก หวานนิดๆ มันหน่อยๆ (ได้มาแล้วเยอะเลย ทั้งที่บ้านและที่ทำงานทุกคนชอบ)
ประมาณ 10 โมง ทานข้าวเช้าเสร็จก็เริ่มออกเดินทางตรงไปเยี่ยมพี่แดงและอ้ายเวทย์ค่ะ บ้านนี้ใครๆ ก็อยากไปเยี่ยม บอกว่า อยู่อย่างพอเพียงจริงๆ
ประมาณ 11 โมง เดินทางร้อยกว่ากิโลก็ถึงอ.ศรีเมืองใหม่ค่ะ เจอพี่แดงอยู่ที่บ้าน ฉันดูบริเวณรอบๆ นึกในใจ ที่นี่เอง ภาพนี้ ที่ฉันเห็นอยู่เป็นประจำ เพราะพี่แดง โพสต์มุมที่อ้ายเวทย์ใส่บาตรหน้าบ้านบ่อยมาก ได้มาเห็นของจริงแล้ววันนี้
พี่แดงพาฉันกับลำใย เดินไปทางด้านหลังของบ้านค่ะ ไม่ไกลนักเป็นสวนของคุณพ่อพี่แดง พอไปถึงมีชาวบ้านผู้เฒ่าผู้แก่ นั่งกันอยู่ริมคลอง ดูเขาหาปลากันอยู่ บรรยากาศสนุกสนานไม่ร้อน ไม่วุ่นวาย
ฉันก็ตามชิดติดขอบสวนตลอด ดูเขาจับปลากันมีความสุข ชอบบรรยากาศบ้านๆ แบบนี้ที่สุด มาแล้วก็อยากกลับมาอีก คุณลุงใส่บู้ทสีฟ้าน่าจะเป็นคุณพ่อของพี่แดง
พี่แดงถ่ายรูปปลากดคัง ปลาที่จับได้ใหญ่ที่สุดในวันนั้น ความจริงได้หลายพันธุ์เลย ทั้งปลาหมอ ปลาเนื้ออ่อน ปลาดุก และที่เยอะที่สุดคือปลาตะเพียน
ปลากดคัง คุณยายแร่เนื้อทั้งสองข้างออกแล้ว ก็ยังเห็นครีบกระดิกดุ๊ก ๆ อยู่เลยค่ะ แหม่ ตายยากจริงๆ ใจหนึ่งก็สงสาร อีกใจหนึ่งก็คิดว่า ถ้ากลัวสงสาร ก็จะไม่ได้กินของดีสดๆ จากคลอง สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม เนื้อมันคงจะหวานมากๆเลย แผล็บ ๆๆ กินดีกว่า 55+
ปลาที่ได้ชาวบ้านเอามาทำหลายเมนูเลยค่ะ ทั้งปิ้งย่าง ทั้งก้อยปลา น้ำตก และน่าจะเรียกว่าต้มแซป ได้กินมาแล้ว เนื้อสด หวานดีจริงๆ
ตอนหาปลาเสร็จ เดินไปเตะเจ้าลูกนี้เข้า พี่แดงบอกว่าลูกมะหาด ได้ยินแล้วก็ดีใจมาก ได้เห็นมะหาดของจริง พืชภัณธุ์ชนิดนี้ เรืองชื่อมากเรื่องดูแลผิวพรรณ เขาเอาต้นมะหาดมาสกัด แล้วเอามาทำครีมช่วยให้ผิวขาวขึ้น หัวเชื้อมะหาดที่ฉันใช้ทำสบู่ มีราคาแพงมาก ฉันลองกัดชิมดู รสชาติคล้ายมะกอกน้ำเลยค่ะ เขาว่ากันว่า หากสุกกว่านี้จะหวานค่ะ ลูกจะเป็นสีเหลืองเข้มอมส้ม
ระหว่างที่ชาวบ้านหาปลา พี่แดงก็พาเรากับนายลำใย แว้ปไปดูคุณแม่พี่แดงหาเขียดทรายค่ะ ได้มาเท่านี้ ก่อนจะมาหนึ่งสัปดาห์เพิ่งจะไปซื้อเขียดทรายในตลาด ถุงนึง 50 บาท มีเกือบ 20 ตัว เพิ่งจะรู้จากพี่แดงว่า เขียดที่เราไปซื้อนั้นเป็นชนิดเดียวกัน เรียก เขียดทราย ตัวเล็กมาก เขาว่าอร่อย เราดูเขาหาเขียดทรายโดยการเอาเสียมเขี่ยไปที่กองทรายชื้นๆ ข้างลำห้วย ก็จะเจอเขียดทรายซุกซ่อนตัวอยู่ บรรยากาศตอนนี้สนุกมากค่ะ เป็นอะไรที่บ้านๆ ชอบมากเลย
นุสิตาได้นั่งร่วมวงกับพี่แดง อ้ายเวทย์และชาวบ้านได้ไม่นานก็ต้องขอตัวกลับ เพราะระยะเวลาในอุบลสั้นเหลือเกิน ยังมีอีกหลายที่ๆ นายลำใยจัดทริปไว้ให้ รอไปเยือน แหม่...ความสุขมันช่างผ่านไปรวดเร็วจริงๆ อยากค้างที่ี่นี่ซักคืน พี่แดงและคนอื่นๆ ให้ความกันเองกับเรา ฉันพี่น้อง ต้อนรับด้วยความอบอุ่นเป็นกันเองมาก นายลำใยบอกเสมอว่าคนอุบลฯน่ารัก จริงอย่างที่เขาว่า โอกาสหน้าต้องมาเยือนอีกให้ได้
พอออกจากสวนพ่อพี่แดงแล้วพี่แดงก็พาแวะสวนของพี่แดงเอง ขับรถห่างออกจากที่นี่ไม่ไกลมาก ก็มาถึง ช่างกว้างใหญ่จริงๆ สวนยางพี่แดงกับอ้ายเวทย์ ร่มรื่นเขียวชอุ่ม อีกฟากของสวนยางพารามีไม้ผลและพืชผักสวนครัวหลายชนิด เห็นแล้วฝันอยากมีชีวิตแบบนี้เลยค่ะ คงจะสุขใจไม่น้อย ถ้าทำได้นะ
มาชมสวนพี่แดงกันค่ะ ลำใยไม่ตื่นตาแล้วเพราะมาบ่อย สวนฉันนี่ อย่างกับบ้านนอกเข้ากรุงเลยค่ะ 55+
พี่แดงมีแตงโมโตในสวน 2 ลูกลูกนี้ฉันจอง
นายลำใยแซวว่า หน้าเราใหญ่กว่ามะละกอ แหม....
เที่ยวสวนพี่แดงจนชุ่มชื่นใจก็ต้องรีบไปต่อ เวลามีน้อย ระยะทางอีกยาวไกล
ร่ำลาพี่แดง อ้ายเวทย์เรียบร้อยก็ไปต่อกันที่สามพันโบก สถานที่ท่องเที่ยวอันเลืองชื่ออีกแห่งของจ.อุบลราชธานี
น่าจะประมาณเกือบ 40 กิโลเมตรก็มาถึง
ขอบอกเล่าประวัติของสามพันโบกโดยคร่าวๆ นะคะ ในรูปจะเป็นหินอยู่มากมายซึ่งมีรูปลักษณะแตกต่างกัน อันเกิดจากน้ำพัดผ่าน ซากหิน ดินทราย่ กัดเซาะ หินเหล่านี้ซึ่งอยู่ในลำน้ำโขง ทำให้เกิดรูปลักษณ์ต่างๆ เช่นนก ปลา สุนัขฯลฯ ทำให้เกิดความงดงามตามธรรมชาติ
นายลำใยให้เวลาครึ่งชม.ในการเดินเที่ยวชม ทีนี่มีของที่ระลึกขาย แต่ไม่มากนัก นุสิตาซื้อเสื้อมา 1 ตัว สกรีนคำว่า "ไปมาแล้วนะสามพันโบก" ราคาตัวละ 159 บาท บรรยากาศที่ค่อนข้างร้อน มีเรือรับจ้างล่องตามน้ำพาชมลำน้ำโขงด้วยค่ะ แต่ร้อนขนาดนี้ เวลาก็น้อยนิด ไม่ไหว ดินทางต่อดีกว่า
น่าจะประมาณ 30 กว่ากิโลได้ ก็มาถึงผาแต้ม .....
กว่าจะเดินทางมาถึงนี่ก็ประมาณ 5 โมงเย็น บรรยากาศไม่ผิดหวังจริงๆ พระอาทิตย์กำลังลับขอบฟ้า อากาศเย็นสบาย นักท่องเที่ยวบางตา มีจุดให้กางเต้นท์พักแรมที่นี่ได้ ค่าเข้าผาแต้มคนละ 60 บาท มาดูบรรยากาศกันค่ะ
มาถึงแล้ว ผาแต้ม ขอถ่ายรูปเป็นที่ระลึกซักนิดเถอะนะ
เบื้องล่างของผาแต้มมีทางเดินลงไปเพื่อชมภาพเขียนสมัยโบราณ แต่นุสิตาไม่ได้ลงไปเพราะมัวชื่นชมบรรยากาศเบื้องบน มองดูเหงาๆ โรแมนติกมาก เสียดาย แฟนเราไม่ได้มายืนอยู่ ณ.จุดนี้ด้วยกัน ส่วนนายลำใยปล่อยให้เราเดินตามลำพัง บอกว่า เคยมาหลายรอบแล้ว
เราขณะนั้นมองดูบรรยากาศพระอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้า ก็นึกถึงเพลงๆ นึง ....
...ฉันคิดถึงเธอ...ไม่อาจบอกกับใครเขา อยู่กับใจของตัวเรา ...อยู่ในความคำนึงผู้เดียว...แหม่ บรรยากาศสุดยอดจริงๆ
ใกล้ค่ำเต็มที รีบกลับกันดีกว่า ระยะทางอีกยาวไกล ก่อนกลับได้เเวะซื้อของที่ระลึกวางขายอยู่ใกล้กันนั้นเอง ซึ่งก็คือเสื้ออีก 1 ตัว สกรีนคำว่า "ฮ้อดแล้วเด้อ ผาแต้ม" ราคาตัวละ 100 บาท ผ้าเหมือนกันเด๊ะเลยค่ะ 55
ขากลับรู้สึกว่าไกลมากเลย เราก็รู้สึกอ่อนเพลีย แอบเหลือบมองนายลำใย เขาคงจะเหนื่อยเห็นหาวหลายรอบ นึกขอบคุณลำใยมากๆ เลย ถ้าไม่มีเขา เราคงไม่ได้มา ขอบใจนะนายลำใย...
กว่าจะถึงตัวเมืองอุบลก็ค่ำพอดี เราแวะทานข้าวต้มข้างทาง ประมาณเกือบ 3 ทุ่ม ก็แยกย้ายกันเข้านอน เตรียมลุยต่อพรุ่งนี้
..............................................................
วันที่ 2 ของการเดินทาง.........
วันนี้ลำใยจะพาเราไป "ช่องเม็ก" ค่ะ ตรงนี้ต้องเสียค่าผ่านทางไปสู่ลาว ฝั่งลาวตะเข็บชายแดน มีของปลอดภาษีขายหลายอย่าง เราดีใจมากที่จะได้ไป อยากไปเหยี่ยบต่างประเทศซักครั้ง ไกลๆ ไม่ได้ไป ไปลาวก็ยังดี 55
ที่นี่ต้องทำใบผ่านทาง ใช้บัตรปะชาชนด้วยนะคะ ต้องเอาไป เสียค่าใช้จ่ายเพียงคนละ 30 บาท แต่ถ้ามีคนอาสาเดินเรื่องให้ เป็นคนแถวนั้น เขาจะเก็บ 60 บาท ลำใยให้ฉันไปเดินเรื่องทำเอกสารเอง ตัวเองรออยู่ที่รถ บอกว่า มาคราวหน้าจะได้ทำอะไรเองเป็น แง๊วววว วววว
เมื่อทำเอกสารใบผ่านทางเรียบร้อย ก็กดเงินเตรียมช้อปครั้งใหญ่ ก่อนเข้าสู่เมืองลาว
มาดูบรรยากาศเมืองลาวกันค่ะพี่น้องงงง....>>
ฉันเพิ่งจะรู้เดี๋ยวนี้เองว่ "นมผึ้ง" คืออะไร !!
กัดคำแรกแล้วรู้สึกถึงรสชาติของนม ทีแรกไม่กล้ากินหรอก แค่อยากดู มันแปลกดี แต่รูปร่างตัวอ่อนผึ้ง น่ากลัวเหมือนดักแด้ ไม่กล้ากิน เพราะเดิมก็เป็นคนที่กลัวหนอนมาก เจอลำใยบังคับ และอยากสัมผัสถึงวัฒนธรรมความเป็นอยู่ของคนลาว ก็ต้องลอง อร่อยจริงค่ะ แต่คำสุดท้าย ต้องแอบทิ้งเพราะเห็นรูปร่างแล้ว ไม่ไหวเลย กินไปขยะแขยงไป
เพื่อนบางคนบอกว่า บ้างก็ทาน้ำผึ้งและย่างไฟ บ้างก็ทาเกลือและย่างไฟเอาใบตองห่อ ส่วนฉัน ไม่ต้องทาอะไร ก็อร่อยค่ะ ^^
แม่ค้าขายไข่มดแดง
ขายเขียดทราย 1 ถังเหมาหมด ราคา 100 บาทเท่านั้นเอง น้ำหนักน่าจะเกือบกิโลนึงได้ ..นึกถึงแม่พี่แดงหาเขียดด้วยความลำบากกว่าจะเจอแต่ละตัว เขียดทรายเหมือนกันเลยค่ะ เห็นอย่างนี้ เยอะนะ ตัวเล็กมากเลย คงหานานพอดู กว่าจะได้ขนาดนี้ ดูแล้วน่าจะหนักเกือบกิโลเลยล่ะ
อีกฟากของตลาดค่ะ ตรงนี้จะขายสินค้าหลายชนิด มีกระเป๋าก้อปแบรนด์เนม ผ้าพันคอ ผ้าถุงลายสวยๆ เครื่องเงินลาวราคาถูก ซีดีเพลงลาว บุหรี่ เหล้า สินค้าปลอดภาษี มากมาย ผู้คนวันนี้ไม่พลุกพล่านมาก
เดินมาเจอเบียร์ดำ ลาว ดีใจมาก เพราะเคยเห็นในเฟสขายสบู่รายหนึ่ง เขามีชื่อเสียงในการทำสบู่แฮนด์เมคมาก เขาใช้เบียร์ยี่ห้อนี้เลยมาทำสบู่ เขาว่ากันว่า เอาเบียร์มาทำสบู่จะทำให้เกิดฟองมาก แต่ต้องต้มแอลกอฮอล์ให้ระเหยออกให้หมดก่อน เราทำสบู่อยากได้อยู่แล้วเลยซื้อมา 1 กล่อง ขวดเล็ก มีทั้งหมด 6 ขวด ราคา 260 บาท ที่จริงอยากซื้อเยอะกว่านี้ กลัวว่าหมดแล้วไม่รู้่จะหาซื้อที่ไหน แต่ลำใยห้ามไว้ กลัวถือไม่ไหว เพราะตอนกลับบ้านต้องถือมะม่วงกับมะเฟืองอีกหลายกิโล
fack book from " Soap kitchen " เฟสนี้ อินเตอร์มาก แต่เป็นคนไทยทำนะคะ คิดไว้ว่า ซักวันนึงอยากจะทำสบู่ออกมามีคุณภาพ หน้าตาน่าใช้แบบนี้บ้าง วัตถุดิบได้มาแล้ว คงได้ลงมือเร็วๆ นี้ รอติดตามนะคะ
ของโบราณก็มีมาก คิดว่าราคาคงไม่แพง ต่อราคาได้ หน้าไม่ตึงตอนต่อราคาด้วยนะคะ ยิ่งมีลำใยเว่าภาษาอีสานด้วย ยิ่งง่ายใหญ่ โอกาสถูกฟัน น้อยมาก ช่วยเราต่อราคาอีกต่างหาก
ชอบของโบราณมากค่ะ แต่ถือไม่ไหว ไม่รู้จะไปเก็บไว้ที่ไหนด้วย เสียดาย ไม่ได้ติดมือกลับมา ถ้าซื้อที่สวนจตุรจักรคงจะแพงมาก
พอช้อปปิ้งได้ของสมใจ ก็เดินทางกลับค่ะ ใช้เวลาฝั่งลาว ชม.เดียวเท่านั้น โดยประมาณ
ระยะเวลา 2 วันในอุบลราชธานี ผ่านไปเร็ว จริงๆ แต่ก็ไม่รู้สึกเหนื่อยเลย เพราะที่นี่ อากาศไม่ร้อน บ่ายวันจันทร์ก็เดินทางกลับ
แต่ก่อนกลับลำใยพาไปแวะวัดหนองป่าพงค่ะ วัดนี้มีชื่อเสียงมาก ทุกปีช่วงเดือนมกราคม จะมีงานใหญ่ ได้อ่านประวัติคร่าวๆ
จำได้ว่า ป้าเล็ก และคุณพุทธบุตร ชอบมาบ่อยๆ โดยเฉพาะพี่พุทธบุตรจะมาบวชถือศีลเป็นประจำทุกปี ครั้งหนึ่งพี่พุทธบุตรเคยบอกกับเราว่า อยากให้มาวัดนี้ หากบวชเนกขัมมะ ก็อยากให้มาที่นี่ ตอนนั้นตอบไปว่า คงจะยาก ไกลเหลือเกิน ทุกอย่างไม่แน่นอน มีการเปลี่ยนแปลงได้เสมอ วัดที่เราไม่เคยคิดว่าจะได้มา ก็มาจนได้
บรรยากาศที่นี่เงียบสงบมาก เดินมา ไม่เห็นพระซักรูป มีแต่เด็กนักเรียนมาทัศนศึกษา
นุสิตา ขอจบทริปการเดินทางอันเเสนวิเศษสู่จ.อุบลราชธานีไว้เพียงเท่านี้นะคะ
ขอบคุณ พี่แดงและอ้ายเวทย์ที่ต้อนรับขับสู้อย่างดี จนต้องปิดร้านพาเที่ยวชมสวน และได้สัมผัสชีวิตเรียบง่าย อยู่อย่างพอเพียงของชาวชนบท อยากบอกว่า รสชาติปลาส้มฝีมือพี่แดงรสจัดจ้านอร่อยมากค่ะ
ขอบคุณ อ้ายลำใย ที่พาเที่ยวและเยี่ยมเยือนบ้านสมาชิก และขอบคุณเรื่องราวดีๆ ที่ถ่ายทอดระหว่างการเดินทาง ทำให้ฉันสะท้อนเห็นตัวเอง และรู้ว่า ควรจะทำอะไรต่อไป
ขอบคุณ เวปบ้านสวนพอเพียงที่ให้พื้นที่ในการร่วมแบ่งปันประสบการณ์ค่ะ
- บล็อกของ nusita_angel
- อ่าน 15303 ครั้ง
ความเห็น
สมศักดิ์ชาประเสริฐ
23 กุมภาพันธ์, 2014 - 06:48
Permalink
Re: การเยือนอุบลฯครั้งแรกของฉัน
คนกรุงไปนอกเมือง
nusita_angel
23 กุมภาพันธ์, 2014 - 09:55
Permalink
Re: การเยือนอุบลฯครั้งแรกของฉัน
บางเวลากรุงเทพฯก็ไม่น่าอยู่เลยค่ะ อาจารย์ บางอารมณ์ขอลี้มาออกเมืองบ้าง อาจช่วยได้
auttaya
23 กุมภาพันธ์, 2014 - 08:13
Permalink
Re: การเยือนอุบลฯครั้งแรกของฉัน
แอบไปเที่ยว กายบ้านป้ายาหน่อยเดียวมีความสุขไปด้วยจ้า
nusita_angel
23 กุมภาพันธ์, 2014 - 09:54
Permalink
Re: การเยือนอุบลฯครั้งแรกของฉัน
จริง ๆ อยากแวะไปหาป้ายากับน้องพรธิดา ได้ถามลำใยแล้ว เขาว่าไกล เวลาคงไม่พอ เลยพลาดไม่ได้เยี่ยมป้ายาเลย โอกาสหน้าคงได้ไปเยือนนะคะป้ายา _/\_
priraya
23 กุมภาพันธ์, 2014 - 09:17
Permalink
Re: การเยือนอุบลฯครั้งแรกของฉัน
ทริปสุขกายสบายใจนะคะ....
nusita_angel
23 กุมภาพันธ์, 2014 - 09:53
Permalink
Re: การเยือนอุบลฯครั้งแรกของฉัน
มีอีกทริปเดือนเมษา คงได้สุขกายสบายใจกว่านี้นะพี่เหมียว จะนับถอยหลังคอยนะคะ
blueman
23 กุมภาพันธ์, 2014 - 09:40
Permalink
Re: การเยือนอุบลฯครั้งแรกของฉัน
ตามมาเที่ยวอุบลฯด้วยครับเห็นสามพันโบกแล้ว T T สวยครับเป็นความบังเอิญของธรรมชาติที่งดงาม
nusita_angel
23 กุมภาพันธ์, 2014 - 09:52
Permalink
Re: การเยือนอุบลฯครั้งแรกของฉัน
สามพันโบกถ้าไม่ร้อนคงอยู่ได้นานกว่านี้ค่ะ ใช้เวลาที่นี่แค่ครึ่งชั่่วโมงก็หอบจะกิน หากมีโอกาสได้เหมาเรือล่องลำน้ำโขงก็คงจะประทับใจกว่านี้ น่าจะเย็นขึ้น
oddzy
23 กุมภาพันธ์, 2014 - 10:17
Permalink
Re: การเยือนอุบลฯครั้งแรกของฉัน
กรี๊ดดด อิจฉา เมื่อไหร่จะไปอีก อยากไปด้วยอ่ะ อยากไปเที่ยวผาแต้ม
มะม่วงน่าจะกรอบดีเนาะ เห็นแล้วน้ำลายไหล จี๊ดๆๆๆ
ปล. นครชัยแอร์เดี่ยวนี้พัฒนาขนาดนี้แล้วเหรอ โห...เริดหรูยังกะเครื่องบินเลยเนาะ บ๊ะ แบบนี้ต้องลองนั่งมั่งแล้ว ไม่ได้เดี่ยวตกเทรน ฮ่าๆๆๆ
nusita_angel
23 กุมภาพันธ์, 2014 - 11:14
Permalink
Re: การเยือนอุบลฯครั้งแรกของฉัน
รู้มาว่าปีนี้เธอไม่มาใช่มั้ย เธอมาเมื่อไหร่ ก็โทรมาสิ บอกพี่ล่วงหน้า เราจะได้ไปลุยผาแต้มด้วยกัน เย๊ เย
ปล. นครชัยแอร์ไม่ธรรมดาจริงๆ นั่งตั้งเกือบ 8 ชม. ไม่มีเมื่อย นอนยิ้มฝันหวานไปตลอดการเดินทาง มีข้าวกล่องแจก 1 กล่อง นม 2 กล่อง น้ำเปล่า 1 ขวด ผ้าเย็น 1 ผืน ขาไป 603 ขากลับราคาเดิม ดูหนังไทยสุดซึ้งไป 1 เรื่องน้ำตาหยดหลายแหมะตลอดการเดินทาง คิดถึงคนไกล
หน้า