ถ้าใช้รสเย็นแก้ร้อนไม่หาย จะทำอย่างไรต่อดีนะ

แก้ร้อนรายนี้ ใช้ยาเย็นไม่หาย ต้องฟอกเลือดให้หายร้อน และถ่ายออก

จากบล็อกนี้  http://bansuanporpeang.com/node/28653 ที่ให้คำปรึกษาไปเกี่ยวกับการใช้สมุนไพรแก้อาการร้อน แต่ไม่ใช่แค่ร้อนในค่ะ รายนี้เค้าบอกว่าร้อนในและรู้ตัวว่าร้อนผ่าวๆมาข้างนอกด้วย เราจับก็ร้อน โดยหลักการวางยาหม้อที่แล้วคือ สุขุม:เย็น:ร้อน 3:2:1 โดยช่องสุขุมที่ประกอบด้วยดอกมะลิ ดอกพิกุล ดอกบุนนาค ดอกสารภี และเกสรบัวหลวง แต่เลือกใส่ดอกมะลิให้มากกว่าดอกอื่นๆ เพราะดอกมะลิมีสรรพคุณหอมเย็น เราต้องการรสเย็นเยอะๆ จึงใส่ดอกมะลิเยอะๆค่ะ...และในหม้อที่แล้วนั้น ช่องรสร้อน เราต้องระวังให้มาก ใส่ร้อนมากไม่ได้ เพราะตัวเค้าร้อนอยู่แล้ว เราจึงเลือกใส่ กระวานหรือกะเพราะลงไป เพราะเป็นรสร้อนไม่มาก ร้อนนิดๆ ที่เด็กกินได้..........แต่!! อาการไม่ดีขึ้น คราวนี้เราจึงต้องใช้วิธีที่ต้องระวังให้มาก ซึ่งปกติหนูค่อนข้างหลีกเลี่ยงและระวังมาก นั่นคือ ระบายความร้อนโดยใส่ยาถ่ายลงไป แต่จะให้ถ่ายปกติ ก็จะลดความร้อนได้ไม่มาก เราจึงเลือกฟอกโลหิต คือฟอกเลือดให้ทำพิษลดลง ฟอกให้เลือดเย็นลง หลักการวางยาจึงเลือกใช้ เย็น(ระบาย)และร้อนนิดหน่อย ให้พอลมมันวิ่งได้ เพราะถ้าลมไม่วิ่งเลย กินยาเข้าไปแล้วมันจะตื้อๆ หนักๆตัว

....

ตำรับนี้เราจึงเลือกใช้ดีเกลือ(ผงสีขาวๆ)ค่ะ ซึ่งอันที่จริงหนูจะเลือกใช้ดีเกลือในคนที่ท้องผูก ถ่ายยาก หรือน้ำเหลืองเสีย...เห็นสมุนไพรที่เป็นเม็ดป่องๆสีน้ำตาลอ่อนๆมั้ยคะ ตัวนี้คือลูกกระวาน เหตุผลที่ใช้กระวานเนื่องจากป้องกันการไซร้ท้อง(อาการบิดมวนก่อนถ่าย) เพราะถ้าให้ยาถ่ายแรงๆ อาการไซร้ท้องจะเกิดได้ง่าย เราจึงป้องกันไว้ก่อนค่ะ....และอีกอย่างคือกระวานเป็นยารสร้อน หม้อนี้เราใส่ยารสร้อนแค่กระวานตัวเดียวค่ะ ร้อนไม่มาก และใส่ไปให้พอลมได้วิ่ง

....

กลุ่มนี้เป็นสมุนไพร ที่มีรสเบื่อเมา เลือกใช้เพราะจะนำไปฟอกโลหิตที่ร้อนให้เย็นค่ะ และสามารถนำไปใช้ในคนที่น้ำเหลืองเสียได้ด้วย ที่เป็นจากรูป ฝั่งด้านบน ก้อนสีขาวๆคือหัวข้าวเย็นใต้(ตัวนี้ฟอกดีค่ะ เลือกใช้เยอะที่สุด ในกลุ่มฟอกโลหิตนี้) ถัดมาเป็นบนซ้าย ก้อนสีแดงๆ ตัวนี้คือหัวข้าวเย็นเหนือค่ะ และข้างล่างที่มีเปลือกไม้ ตัวนี้คือเปลือกขันทองพยาบาทค่ะ ก็เลือกใช้รองลงมา

......

ถัดมาเป็นใบมะกา ตัวนี้มีสรรพคุณ เป็นยาระบายและแก้ไข้ แก้ตัวร้อนค่ะ

....

ต่อไปเป็นสมุนไพรที่มีรสจืด มีสรรพคุณขับปัสสาวะค่ะ การขับปัสสาวะออก ก็เป็นอีกทางนึงที่ช่วยลดความร้อนได้ค่ะ......จากภาพ ด้านบนสุดที่เป็นหญ้าและมีสีเขียวปน ตัวนี้คือ โคกกระสุน...ถัดลงมาคือรากหญ้าคา .......ถัดลงมาเป็นรากหญ้าชันกาดค่ะ

.....

ภาพซูมใกล้ๆค่ะ หัวหญ้าชันกาด

อันนี้เป็นรากหญ้าคาค่ะ

ส่วนอันนี้เป็น โคกกระสุนค่ะ

....

..

ถ้าหากเรามีอาการร้อนในหรือเป็นไข้ แต่ไม่มีอาการอย่างอื่นร่วมด้วย(ถ้ามีหลายอาการร่วมกัน ต้องใช้เป็นตำรับยาเพื่อมุ่งปรับธาตุในร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นลมกำเริบจนไปกระทบไฟให้มีกำลังแรงขึ้นตาม หรือในทางกลับกัน ลมกำเริบมาก มากจนไฟดับ เป็นต้น)......สมุนไพรใกล้ตัวที่อยากแนะนำเป็นสมุนไพรรสเย็น คือ รากหญ้าคา ใบย่านาง ใบรางจืด นำมาต้มดื่ม แต่ระวังหน่อยว่าความดันโลหิตอาจจะลดลงถ้าทานในปริมาณที่เยอะ หนูแนะนำให้ทานเป็นเครื่องดื่ม(พอจะนึกภาพออกนะคะว่า รูปแบบของเครื่องดื่มคือ ต้มไม่เข้มข้นมาก และในหนึ่งวันทานไม่กี่แก้ว) หรือง่ายๆคือหาอาหารที่มีผักฤทธิ์เย็นรับประทานเช่น แกงจืดตำลึง แกงจืดผักหวาน แกงเลียงใบขี้เหล็กใส่ย่านาง เป็นต้น

....

ถ้าเราสังเกตสักนิดจะเห็นว่าสิ่งรอบตัวนี้ สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ แม้กระทั่งรากหญ้าคา หัวหญ้าชันกาด ซึ่งเป็นสิ่งใกล้ตัวที่ใครๆก็ไม่ค่อยเห็นประโยชน์

....

ไว้ถ้ามีโอกาสหนูจะมา เล่าเรื่องยาแก้ปวดเมื่อยค่ะ .....ปวดจัง เนื้อแข็งจัง ไม่ค่อยมีแรง เมื่อยด้วยคันด้วย

จะเลือกใช้อะไรดี รอติดตามนะคะ

....

มีก้อนดินก้อนหนึ่ง

โดนแดดมาก ก้อนกินจะแห้งเกรียมได้

โดนลมมาก ก้อนดินก็แห้งได้

แต่โดนน้ำมาก ก้อนดินจะเหลว

และ ในขวดน้ำใบหนึ่ง เราเทน้ำออก จะเห็นว่าเริ่มมีช่องว่างของลม สังเกตในขวด น้ำน้อยลมมาก และน้ำมากลมน้อย

รวมทั้ง การก่อกองไฟ ถ้าเราพัดลมแต่พอดี ไฟก็ติดได้ แต่ถ้าลมพัดมาก ไฟอาจดับได้