จะพยามยามทำความฝันให้เป็นจริง

วันนี้ได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรอคอยมานานสักที เมื่อปลายเดือนธันวาคม 2014 ได้ซื้อที่ดินมาแปลงหนึ่งในอำเภอไทรโยคจังหวัดกาญจนบุรี พื้นที่ประมาณ 33 ไร่ เป็นที่ดินที่เดิมทีอาจารย์มหาวิทยาลัยเกษตรผู้หนึ่งได้ทำการทดลองปลูกพืชไร่เศรษกิจไว้ประมาณ 8-10 ปี แต่ด้วยเหตุผลทางครอบครัวอาจารย์ไม่สามารถทำต่อได้ เราก็เลยซื้อต่อมาเพราะชอบต้นไม้เป็นทุนอยู่แล้ว

เท่าที่ได้คุยกับอาจารย์และเห็นต้นไม้ในไร่ ต้นไม้ที่ปลูกมี ต้นสะเดาใหญ่ที่ปลูกรอบเป็นรั้วนอกสุดถัดจากรั้วเสาปูนลวดหนาม และต้นสักอายุประมาณ 7-8 ปีเป็นรั้วชั้นใน อาจารย์เล่าว่าสาเหตุที่ปลูกต้นสะเดาและต้นสักก็เพื่อป้องกันพายุลมแรงและสารเคมีจากที่ดินข้างเคียง ตรงกลางไร่ได้ขุดทางน้ำผ่ากลางไร่เพราะหน้าฝนจะมีน้ำหลากจากภูเขาไหลลงมาเลยทำทางให้น้ำผ่านลงห้วย หลังจากนั้นก็ได้ขยายซื้อพื้นที่ข้างเคียงเพิ่มติดถนนและติดอ่างเก็บน้ำ

เพื่อให้มีน้ำใช้ตอนน้ำในอ่างเก็บลดลงก็ได้ขุดบ่อท้ายไร่ทำคันดินกั้นเพื่อเก็บน้ำฝนไว้ใช้ สร้างถังปูนสูงประมาณ 3 เมตรไว้ 3 ถังไว้เก็บน้ำที่สูบขึ้นมาจากอ่างเก็บน้ำ  วางท่อส่งน้ำในไปยังต้นไม้ในไร่ กลางไร่มีตุ้มขนาดใหญ่มาก 5  ใบต่อท่อเชื่อมกันทั้งหมด  อาจารย์เล่าว่าทำไว้เพื่อเวลาต้องการล้างหรือใช้น้ำกลางไร่ก็ไม่ต้องไปเปิดเครื่องสูบน้ำให้เปลืองไฟ  

นอกเหนือจากต้นสะเดาและต้นสักด้านในรั้วยังมีต้นสักที่ปลูกขนานเป็นทางเดิน ต้นสักมีประมาณ 400 กว่าต้น มีไผ่หลายชนิดปลูกเป็นแนวคู่กันราว 40 กอ ต้นปาล์มแว็กและอินทผาลัมที่โตสูงใหญ่หลายสิบต้น  มะขามป้อมและพันธ์ไม้ป่าหายาก อาจารย์เล่าต่อว่าเคยปลูกไม้พยูงแต่ตัดไปแล้วที่ขึ้นใหม่เป็นต้นใหม่ที่ขึ้นจากตอที่ตัดไปแล้ว ได้ทดลองปลูกกวาวเครือขาว ดำ และแดง แต่สีดำตายหมดเหลือแต่กวาวเครือขาวกับแดง ยังมีกลอย หัวบุก อบเชย หน้าฝนจะมีเห็ดโคนขึ้นเองตามธรรมชาติเยอะมากเพราะที่ไร่ไม่ได้ใช้สารเคมีเลย ในบ่อที่ขุดมี บัวสาย  หน่อไม้น้ำ แต่ตอนนี้หญ้าขึ้นเต็มจนมองไม่เห็นว่ามีอะไรเหลือในบ่อนอกจากผักกูดที่ขึ้นเต็มไปหมด

ตั้งใจว่าจะทำต่อจากอาจารย์ จะเข้าไปฟื้นฟูไร่ดูแลต้นไม้และปลูกพืชไม้ดอกไม้ประดับจะได้ดูสดชื่นไม่แห้งแล้งเหมือนตอนนี้ ปัญหามีอยู่ว่าเราไม่รู้จักต้นไม้ป่าเลย ต้นไม้ที่อาจารย์เอ่ยมารู้จักแต่ต้นสักอย่างเดียว ไม่เคยทำสวนนอกจากปลูกไม้ผลในรั้วบ้าน ตอนนี้กำลังศึกษาจากเน็ทดูลำต้นใบดอกและผลของไม้ป่าและสมุนไพรตามชื่อที่อาจารย์บอก

นั่งคิดมาหลายวันว่าจะเริ่มต้นยังไงดี พอดีได้ยินว่ามีงานเกษตรแฟร์ 28 มกรา ถึง 7 กุมภา ไปมาสองครั้งได้หนังสือเกี่ยวกับ สะเดา สัก ไผ่ อินทผลัม การปลูกป่าเศรษฐกิจ พีชสมุนไพร ยังได้ดูต้นไม้จริง กล้าไม้ ได้คุยกับคนขายได้ความรู้มากเลย อ่านหนังสือแล้วดีใจมากเพราะได้รู้ว่าต้นไม้ในไร่มีค่ามาก ต้องขอขอบคุณอาจารย์ที่ได้ปลูกต้นไม้ไว้เป็นเวลา 10 ปี

ในใจคิดว่าลำดับแรกที่ควรทำก่อนคือซ่อมรั้วลวดหนามและเสาที่ล้มเพราะถูกคนตัดเพื่อเข้าไปขโมยตัดหน่อไม้และเก็บเห็ดโคน ต่อมาจะสางเถาวัลย์และวัชพืชที่ขึ้นรกเต็มไปหมด กลัวเหมือนกันว่าจะตัดต้นไม้ที่หายาก 

ลำดับที่สองไถพื้นทำทางเข้าที่ ซึ่งอาจารย์ก็ได้ทำไว้แล้วแต่ตอนนี้หญ้าขึ้นรกไปหมด ต่อเสาไฟและประปา สร้างบ้านเล็กๆให้คนงานอยู่ ขุดลอกบ่อเดิม 2 บ่อ จะเอาบ่อนึงไว้เลี้ยงปลา อีกบ่อปลูกบัวและหน่อไม้น้ำ

ลำดับที่สามต่อท่อส่งน้ำไปเลี้ยงต้นไม้ ตรงนี้อาจารย์มีทำไว้แต่ท่อเก่าผุและแตกหมดแล้ว เราก็จะทำตามแนวทางว่างท่อที่ได้ทำไว้ ลิดกิ่งไม้ สางไม้ ใส่ปุ๋ยบำรุงต้นไม้ เห็นในไร่มีจอมปลวกอยู่ คิดว่าจะเอามาทำน้ำปุ๋ยจามปลวกตามที่ได้อ่านจากหนังสือ เอาเมล็ดสะเดากับใบมาทำยาค่าแมลง

ลำดับที่สี่ใช้พื่นที่ 4 ไร่ที่ติดอ่างเก็บน้ำซึ่งตอนนี้ปลูกมันสำปะหลังมาทดลองปลูกถั่วดาวอินคาที่ตอนนี้ทางภาคอีสานและที่นครปฐมกำลังทำอยู่  

ลำดับที่ห้า สร้างบ้านให้ตัวเองโดยใช้ไม้ในไร่ ทำสะพานลงอ่างเก็บน้ำและที่จอดเรือ