เมื่อผมปลูกมะเดื่อฝรั่ง ๔

หมวดหมู่ของบล็อก: 

 

      สวัสดีครับทุกท่าน พูดถึงมะเดื่อฝรั่งแล้วมีเรื่องให้เล่าเยอะจริงๆบล็อกนี้ก็เช่นกัน ก่อนที่จะไปชม “เมื่อผมปลูกมะเดื่อฝรั่ง”กันต่อ เรามาดูความแตกต่างของไม้ผลหรือไม้สวนทั่วๆไปกับมะเดื่อฝรั่งกันก่อนนะครับ จากการสรุปการปลูกมะเดื่อฝรั่ง ๒ ต้นข้างกำแพงข้างบ้านของผมจากบล็อกที่ผ่านมา ข้อมูลดังกล่าวมันทำให้ผมต้องมองย้อนกลับเข้าไปในสวน ลองกอง มังคุด เงาะ สละ กระท้อน ฯลฯ ซึ่งไม้ผลเหล่านี้กว่าจะออกดอกติดผลได้ต้องใช้เวลาหลังจากปลูกหลายปีทีเดียว ระยะระหว่างต้นระหว่างแถว ๗-๘ เมตร ก็ใช้พื้นที่เยอะมาก ให้ผลปีละครั้ง บางปีก็ไม่มีผลผลิตจากความผิดปกติของธรรมชาติหรือจะจากปัจจัยอะไรก็ตาม เมื่อนำมาเทียบกันแล้วจะเห็นข้อแตกต่างอยู่หลายข้อทีเดียว

๑.การใช้พื้นที่ปลูก ไม้สวนทั่วไปต้องใช้พื้นที่มากเพราะทรงพุ่มกว้าง ในขณะที่มะเดื่อฝรั่งใช้ระยะแค่ ๑.๕ เมตรต่อต้นซึ่งก็นับว่ายังไม่แน่นเลย เพราะทรงพุ่มไม่กว้าง สามารถใช้พื้นที่น้อยๆภายในบริเวณบ้าน ปลูกได้ทั้งลงดิน วงท่อซีเมนและกระถาง

๒.ระยะเวลา การให้ผลผลิต ไม้สวนหลังจากปลูกถ้าเป็นต้นพันธ์จากการตอน ติดตา เสียบยอดหรือทาบกิ่ง จะให้ผลผลิตเร็วขึ้นครึ่งหนึ่งของต้นกล้าที่มาจากการเพาะเมล็ด คือ ถ้าต้นกล้าที่มาจากการเพาะเมล็ดจะให้ผลเมื่ออายุ ๖-๘ ปี ส่วนต้นพันธุ์ที่มาจากการตอน ติดตา เสียบยอดหรือทาบกิ่ง ก็จะให้ผลผลิตเมื่อ ๓ ปีเป็นต้นไป ในขณะที่มะเดื่อฝรั่งปลูกต้นเดียวก็ให้ผลได้ (สละต้องมีต้นผู้ต้นเมีย)ใช้เวลาไม่นานแค่ ๕-๖ เดือนก็ให้ผลผลิตแล้ว การติดผลทยอยออกมาเรื่อยๆ หลังติดผลประมาณ ๗๕ วันผลจะเริ่มสุก ในขณะที่ไม้ผลทั่วไปอาจใช้เวลา ๔ เดือนเป็นต้นไปกว่าผลจะสุก มะเดื่อฝรั่งให้ผลเฉลี่ยปีละ ๒ ครั้ง ผลกินได้ทั้งสดและแห้ง ผลสุกไม่พร้อมกัน จึงไม่มีปัญหาเรื่องล้นตลาด ผลสามารถนำมาแปรรูปได้ทั้งทำแยม บรรจุเป็นไม้ผลกระป๋อง เมนูลอยแก้วและแช่อิ่ม

๓.การขยายพันธุ์ ไม้สวนส่วนใหญ่จะเป็นไม้พุ่มขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ จึงจำเป็นต้องมีรากแก้วและรากแขนงที่แข็งแรงช่วยพยุงลำต้นไม่ให้ล้ม การขยายพันธุ์จึงต้องเน้นที่ต้นตอและมีรากแก้ว ส่วนมะเดื่อฝรั่งไม่จำเป็นเลยเพราะทรงพุ่มเล็ก จะเป็นกิ่งตอน กิ่งชำ หรือต้นเสียบยอดจากกิ่งชำก็ได้ 

 

๔.การดูแลรักษา ไม้สวนต้องดูแลนาน มากทั้งปุ๋ยทั้งน้ำ กว่าจะให้ผลผลิตอาจมีเคมีเข้ามาผสมโรงด้วย กว่าต้นจะโตต้องตัดถางหญ้าดูแลวัชพืชหลายปี ในขณะที่มะเดื่อฝรั่งถ้าปลูกในกระถาง ในวงท่อซีเมนดูแลหญ้าวัชพืชต่างๆได้ง่าย ปุ๋ย น้ำก็ประหยัด เพราะอยู่ในที่จำกัด เคมีไม่จำเป็นเลยทั้งปุ๋ยและยาเพราะโรคและศัตรูน้อยมาก

 

๕.การเก็บเกี่ยวผลผลิต ไม้สวนมีผลผลิตออกมามากและสุกพร้อมๆกัน แต่ละสวนต้องรีบเก็บเกี่ยว ผลผลิตรวมมากจึงทำให้ล้นตลาดได้ง่าย ด้านราคาก็พลอยตกไปด้วย ไม้สวนยิ่งอายุมากการเก็บเกี่ยวนานวันก็ยิ่งลำบากด้วย เพราะต้นสูงไปเรื่อยๆ ต้องใช้แรงงานมากขึ้น ส่วนมะเดื่อฝรั่งทรงพุ่มต่ำ ไม่ต้องใช้ไม้สอย ไม่ต้องชะเง้อจนคอตั้ง คนแก่ คนชรา หรือแม้แต่เด็กๆก็สามารถเก็บผลผลิตได้ ผลก็สุกไม่พร้อมกันอีกโอกาสล้นตลาดจึงไม่มี ที่สำคัญเก็บกินได้นาน

 

๖.ราคาและคุณประโยชน์ เรื่องนี้เราทราบกันดีจากหลายปีที่ผ่านมา ผลไม้ไทยหลายชนิดขายไม่ได้ราคาเพราะปลูกกันมาก ผลผลิตออกมาพร้อมๆกันจึงมีเยอะ บางส่วนขาดซึ่งคุณภาพก็ไม่สามารถส่งขายต่างประเทศได้ ในขณะที่มะเดื่อฝรั่งยังปลูกกันน้อย ยังไม่แพร่หลาย หาซื้อไม่ได้ผลผลิตยังไม่พอตามที่ตลาดต้องการ เรื่องราคาก็ไม่มีปัญหา ทางด้านคุณประโยชน์ มะเดื่อฝรั่งถึงจะดูเป็นไม้ใหม่แต่คุณประโยชน์พิเศษกว่าผลไม้ทั่วไปอยู่หลายประเด็น หาอ่านได้ในอินเตอร์เน็ทครับ

     นอกเหนือจากที่ผมกล่าวมาแล้วคาดว่ายังมีอีกหลายข้อ เอาเป็นว่าท่านใดมีประสบการณ์ หรือเห็นว่ายังมีเรื่องใดด้านใดที่ยังไม่ได้นำมากล่าวก็นำมาเพิ่มเติมได้ครับ

    จากข้อแตกต่างที่เล่ามาทั้งหมดมันทำให้ผมไม่ลังเลเลย ปลูกเพิ่ม คือคำตอบที่จะตอบโจทย์ในบล็อกต่อไป แล้วท่านล่ะ คิดเห็นอย่างไร? พบกันใหม่ตอนต่อไปครับ สวัสดี.

ความเห็น

มี 1 ต้นค่ะปลูกในกระถาง

 

ถ้าปลูกในกระถาง ต้อง๑๗"ขึ้นไปจึงจะดีครับ

..โอกาสไม่ได้มีทุกวัน..

 

หน้า