ปลูกสตรอเบอรี่ทานเองกันดีกว่า

หมวดหมู่ของบล็อก: 

ช่วงปลายฝนต้นหนาวของทุกๆปีจะเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมในการปลูก เพราะต้นสตรอเบอรี่ต้องได้รับอากาศเย็นกระตุ้นให้ ติดออก ออกลูก การดูแลในช่วงแรกจึงสำคัญมาก ถ้าช่วงแรกดูและถูกวิธีจะมีผลทำใ้หต้นสตรอเบอรี่แข็งแรงส่งผลถึงผลลิตที่ดีในช่วงเก็บเกี่ยวผลผลิตได้อีกด้วย สตรอเบอรี่พันธุ์พระราชทาน80 รูปทรงน่ารัก เนื้อนุ่ม สุกจัดจะหวานละลายในปากเลยทีเดียว

 

 

วางแผนดีเท่ากับสำเร็จไปแล้วครึ่งหนี่งที่เหลือก็แค่ลงมือปลูกและดูแล
สตรอเบอรี่ปลูกได้หลายแบบ 

ปลูกลงแปลงก็ได้

  

ปลูกบนรางก็ได้ 

ปลูกบนกระถางหรือถุงเพาะชำก็ได้

วันนี้จะมาแนะนำวิธีการปลูกในถุงเพาะชำครับเพราะสะดวกและเหมาะสำหรับปลูกประดับปลูกในพื้นที่ที่ไม่กว้างมากได้

คลิปแนะนำวิธีการปลูกสตรอเบอรี่ในถุงเพาะชำ

https://www.youtube.com/watch?v=R_ijWWPVNeI

 

เตรียมวัสดุ

1. เตรียมกระถาง ความกว้างประมาณ 8 นิ้ว 1 กระถางสำหรับสตรอบอรี่ 1 ต้น หรือใช้ถุงขาว ขนาด 6*12นิ้ว สำหรับ 2 ต้นใช้ถุงขนาด 7*13 นิ้ว

2. เตรียมดินร่วนคุณภาพดี

3. มะพร้าวสับหรือขลุยมะพร้าวหรือแกลบดิบ

4. ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยชีวภาพอัดเม็ด

5. ไหลสตรอเบอรี่(ต้นกล้าสตรอเบอรี่)

สัดส่วนการผสมดิน

  • ดินร่วน 2  ส่วน
  • ขลุยมะพร้าวหรือมะพร้าวสับหรือแกลบดิบ 3 ส่วน
  • ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยชีวภาพอัดเม็ด 1 ส่วน
  • วิธีการปลูก

    -   ผสมดินตามสัดส่วน ดินร่วน 2 ส่วน ขลุยมะพร้าวหรือมะพร้าวสับหรือแกลบดิบ 3 ส่วนและปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยชีวภาพอัดเม็ด 1 ส่วน แล้วนำดินที่ผสมเสร็จแล้วใส่ลงในกระถางที่เตรียมไว้ จากนั้นให้ขุดหลุมขนาดพอดีแล้ว ใส่กล้าสตรอเบอรี่ลงไปในกระถาง ต้องหันตรงที่ไม้ไผ่ล็อกเข้าด้านในกระถางเพราะลูกสตรอเบอรี่จะออกสวนทางกับเส้นที่ไม้ไผ่ล็อกไว้ ลำต้นต้องพอดีกับระดับผิวดิน ไม่ควรปลูกจมหรือลงลึกเกินไป เมื่อปลูกเสร็จแล้วควรรดน้ำทันทีช่วงสองอาทิตย์แรกให้น้ำสม่ำเสมอ เป็นช่วงฟื้นตัว ให้แค่พอชุ่มชื้นไม่ควรมากเกินไป เพราะหากเยอะไปน้ำขังอาจจะทำให้รากเน่าได้ หลังจากต้นแข็งแร็งแล้วควรให้น้ำทุกวันๆล่ะครั้ง ถ้าหากจำเป็นต้องใช้น้ำประปาที่มีคลอรีนรด จำเป็นต้องรองน้ำในภาชะเช่นโอ่งหรือถังน้ำโดยการเปิดฝาไว้ให้คลอรีนระเหย ควรพักน้ำไว้อย่างน้อย 7 วัน เพราะคลอรีนจะกัดรากต้นสตรอเบอรี่ทำให้ต้นสตรอเบอรี่ตายหลังจากปลูกสัก 1 อาทิตย์ เริ่มให้ขีวภันท์ป้องกันเชื้อราทางใบใช้ บาซิลลัส ทางรากใช้ ไตรโคเดอร์มา บำรุงราก ด้วยวิตามิน B1 และป้องกันแมลงด้วยบิวเวอร์เรีย  พ่นป้องกันต่อนเนื่องทุกๆ 7 วันสารชีวภันท์นั้นไม่เป็นอันตรายต่อคน

    การให้ปุ๋ย

  • หลังจากปลูกสตรอเบอรี่ลงกระถางเรียบร้อยแล้ว ประมาณสองอาทิตย์ ก็สามารถเริ่มให้ปุ๋ยได้ การใช้ปุ๋ยกับสตรอเบอรี่มักจะใช้อินทรีย์ร่วมกับปุ๋ยเคมีสูตรได้ ช่วงแรกใช้สูตร 15-15-15 ก่อน บำรุงต้น ราก และใบให้สมบูรณ์ที่สุดก่อน หลังจากปลูกไปประมาณ 1 เดือนเปลี่ยนมาใช้สูตรเร่งดอก  13-13-21 ต้นหนึ่งใส่ประมาณ 5-10 กรัม เป็นวงกลมออกห่างจากโคนต้นเล็กน้อย ให้อาทิตย์ล่ะครั้งไปเรื่อย ๆ ประมาณ 4 ครั้ง จนออกผลใช้เวลาไม่เกิน 20-25 วัน ช่วงที่ลูกสตรอเบอรี่เปลี่ยนจากสีส้มเป็นสีแดงสดใช้เวลา 1-3 วัน พอเข้าสู่ช่วงเก็บผลิตกลับมาใช้สูตร 15-15-15 เพื่อบำรุงต้นอีกครั้ง ควรให้อาหารเสริมทางใบ (แคลเซี่ยมโบรอน) อย่างน้อยเดือนล่ะครั้งในอัตรา 20 ซีซีต่อน้ำ 20 ลิตรเพื่อให้ผลผลิตที่มีผิวหนาสีสันสดใส

 

การกำจัดวัชพืช

การปล่อยให้มีวัชพืชขึ้นรบกวนต้นสตรอเบอรี่ ถึงจะปลูกในถุงหรือกระถางก็มีวัชพืชเช่นกัน จะมีผลทำให้ผลผลิตลดลงได้ เนื่องจากวัชพืชเป็นตัวแย่งน้ำแย่งอาหาร ทั้งยังเป็นแหล่งสะสมโรคและแมลงที่จะระบาดทำความเสียหายให้แก่สตรอเบอรี่ด้วย ดังนั้นควรหมั่นกำจัดวัชพืชที่ขึ้นรอบๆต้นสตรอเบอรี่อย่างสม่ำเสมอ และต้องคอยหมั่นริดใบแก่ออก เพื่อจะช่วยกระตุ้นให้ผลออกดี

 และที่สำคัญต้องมีการตัดแต่งช่อดอก เพราะหากมีช่อดอกมากเกินไปจะทำให้ต้นขาดความแข็งแร็ง ผลผลิตที่ได้จะมีขนาดเล็กไม่มีคุณภาพ

การให้น้ำ

การให้น้ำสตรอเบอรี่ควรใช้ระบบน้ำหยด ถ้าใช้สายยางหรือบัวรด ควรพรรวนดินบางๆทุกๆ7วัน  เพราะจะทำอากาศในถุงหรือกระถางระบายอากาศได้ดี ทำให้ต้นสตรอเบอรี่แข็งแร็งไม่เป็นโรคง่าย และแปลงปลูกสะอาด ไม่ชื้นแฉะ มีวัชพืชน้อย และที่สำคัญผลผลิตมีคุณภาพดีแลประหยัดน้ำ ให้ครั้งล่ะประมาณ 20-30 นาที

 

การปลูกสตรอเบอรี่ทานเองนั้นสามารถควบคุมปริมาณสารพิษได้เพราะถ้าปลูกทานเอง สามารถเลือกได้ว่าจะใส่หรือไม่ใส่อะไรลงไปก็ได้ ได้ทั้งความบ้นเทิง ฝึกสมาธิ ได้เรียนรู้และมีทักษะที่ดีขึ้นในการฝึกปลูก ฝึกสังเกตุเรียนรู้ต่อเนื่องต่อไป 

 

ความเห็น

ผมก็ปลูกอยู่ครับ ปลูกใส่กระถาง เจอฝนหนักติดต่อกันเป็นเดือนๆ ไม่รู้จะได้กินหรือเปล่า

ขอบคุณมากค่ะ ปลูกใส่ถุงดูสวยดี และยกหนีน้ำท่วมก็ได้

สะดวกในหลายๆด้าน ที่สำคัญ ปลอดสารพิษ แน่นอน ถ้าเราปลูกเอง .. ขอบคุณมากๆค่ะ