เศรษฐี มือเปล่า แต่สมองเต็ม

หมวดหมู่ของบล็อก: 

เศรษฐี มือเปล่า แต่สมองเต็ม

ถ้าเราต้องตั้งต้น ธุรกิจด้วยเงินแค่ 5 เหรียญสหรัฐ เราจะทำธุรกิจอะไรดีคะ

มีด้วยหรือที่เงินแค่นี้จะเอามาใช้ทำธุรกิจอะไรได้ แต่อย่างน้อยได้เริ่มต้นด้วยเงินสักนิดหนึ่ง ก็ยังดีกว่าไม่มีแต้มต่อเลยใช่ไหม  ถ้าเราต้องเริ่มต้นชีวิตด้วยเงินเต็มบัญชีธนาคารกับสมองเปล่าๆ หนึ่งก้อน เทียบกับบัญชีที่ไร้เงินแต่สมองเราเต็มไปด้วยไอเดียดีๆ เราจะเลือกอะไรคะ เลือกยากเนอะคะ บางคนอาจบอกว่าขอทั้งคู่ไม่ได้หรือ

สมมติว่าขอไม่ได้ล่ะ ให้เลือกได้อย่างเดียว เลือกอะไรดี

มาดูโจทย์ธุรกิจจากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดกันดีกว่า

มีเงินให้ห้าเหรียญ ให้เวลาประชุมกันไม่เกินหนึ่งอาทิตย์ ให้เวลาสองชั่วโมงสำหรับปฏิบัติการตามแผน แต่ต้องทำกำไรให้ได้มากที่สุด เป็นเราจะทำอะไร? ถ้าเป็นคุณผู้อ่านเจอโจทย์แบบนี้จะทำอย่างไรดี

ศาสตราจารย์ทีนา ซีลิก สอนวิชานวัตกรรมสร้างสรรค์ที่มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ให้โจทย์นี้กับนักศึกษาที่ถูกแบ่งเป็น 14 ทีม ทุกทีมต้องแยกย้ายกันไปหนึ่งสัปดาห์แล้วกลับมารายงานหน้าชั้นเรียนเป็นเวลา 3 นาที

มาดูสิ่งที่นักศึกษามหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดแต่ละทีมเลือกทำกันจากเงินห้าเหรียญ

กลุ่มหนึ่งเอาเงินจำนวนน้อยนิดไปซื้อมะนาว น้ำตาลและมาทำน้ำมะนาวขายหน้ามหาวิทยาลัย

กลุ่มต่อมารับจ้างเติมลมยางรถจักรยานหน้ามหาวิทยาลัยคิดเงินคันละหนึ่ง เหรียญจนกระทั่งพวกเขาค้นพบว่า ถ้าขอเป็นเงินบริจาคจะได้เยอะกว่าเลยเปลี่ยนเป็นเงินบริจาคแทน

ส่วนกลุ่มที่สามได้เงินมากกว่า และคิดสร้างสรรค์ได้ไม่เลว พวกเขาตัดสินใจเลือกทำงานในคืนวันศุกร์และให้เพื่อนผู้ชายขับรถพาสาวๆ ไปทิ้งไว้หน้าร้านอาหารที่คนแน่นแล้วให้ไปจองคิวตามร้านอร่อยที่ลูกค้าต้อง ยืนรอกันเกือบชั่วโมง พอได้คิวแล้วก็เอาคิวไปขายให้ลูกค้าคนอื่นที่เพิ่งมา คิดเงินคิวละ 20 เหรียญ กลุ่มนี้หาเงินได้หลายร้อยเหรียญในเวลาสองชั่วโมง เพราะใครก็ไม่อยากรออาหารอีกหนึ่งชั่วโมง

ส่วนกลุ่มที่ชนะเลิศหาเงินได้ถึง 650 เหรียญ เป็นกำไรถึง 130 เท่าตัว และที่น่าทึ่งคือ พวกเขาไม่ได้ใช้เงินห้าเหรียญนั้นเลย เขาทำได้อย่างไร???

หลังจากประชุมกันนาน ทุกคนในกลุ่มโหวตว่า พวกเขาจะ “ขายเวลา”

นักศึกษากลุ่มนี้เฉลยว่า พวกเขานั่งประชุมกันนานว่า จะทำอะไรกันดี บางคนบอกไปซื้อลอตเตอรี่ดีกว่า ไปลาสเวกัส ฯลฯ

แต่ในที่สุดทุกคนสรุปว่า ต้นทุนที่ดีที่สุดที่พวกเขามีไม่ใช่เงิน 5 เหรียญ แต่เป็น “เวลา 3 นาที” สำหรับการนำเสนอแผนธุรกิจหน้าห้องเรียนที่เต็มไปด้วยนักศึกษามหาวิทยาลัย สแตนฟอร์จำนวนเป็นร้อยๆ คนที่นั่งฟังโดยไม่ลุกไปไหน

นักศึกษาจึงหาบริษัทที่ต้องการขายสินค้าแล้วขายเวลา 3 นาทีที่ตัวเองต้องพรีเซ็นต์

ให้กับบริษัทที่ต้องการเวลา 3 นาทีโฆษณาผลิตภัณฑ์ของตัวเอง

พอถึงวันจริง นักศึกษากลุ่มนี้ไม่ต้องทำอะไรนอกจากฟังเพื่อนพรีเซ็นต์และพอถึงเวลาของตัว เอง ก็ให้บริษัทที่ตกลงกันไว้มาพรีเซ็นต์สินค้า เสร็จแล้วจ่ายเงิน 650 เหรียญสำหรับเวลา 3 นาทีให้กับทีมนักศึกษาที่ขายเวลาให้

บริษัทยิ้ม นักศึกษายิ้ม และอาจารย์ยิ้มมากกว่า ที่ลูกศิษย์คิดได้นอกกรอบเหลือเชื่อ

จากหนังสือพิมพ์กรุงเทพ ธุรกิจ  Life Style : สุขภาพ โดย โดย : วนิษา เรซ

วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2553 04:00

 

อ่านจบแล้วลองตอบโจทย์ใหม่ให้เข้ากะบ้านสวนของเรา..

ถ้าเราต้องตั้งต้นทำการเกษตรด้วยเงิน 500 บาท กะที่ดินที่แม่ให้ 1 ไร่ เราจะทำอะไรดี..

(จะตอบแบบวิชาการ แบบสร้างสรร แบบเกษตรนวตกรรมใหม่ หรือแบบฮาฮาไร้สาระก็ได้..ไม่ จำกัดรูปแบบ ดูว่าใครจะทะลุกรอบได้ไกลที่สุด..อิ..อิ..)

ความเห็น

คุณกลอยมาศัพท์ใหม่ เกษตรแบบปราณีต..งงเลย..มันเป็นไง..เหมือนกับเกษตรแบบบรรจง หรือหมายจับกับบรรจง (รายการทีวี) ทำนองเนี่ยมั๊ย

แสวงหาชีวิตที่สงบ..หลบลี้หนีความวุ่นวาย

รู้แระ..เกษตรปราณีต อึนอยู่ตั้งนาน..ขอบคุณครับผญ.

แสวงหาชีวิตที่สงบ..หลบลี้หนีความวุ่นวาย

เอาที่ดินไปจำนอง  และ อีก 500  เอาไปฝากธนาคาร  ที่ดินยังอยู่  ขอเมล็ดพันธุ์จากบ้านสวนพอเพียงไปปลูก  โอ้อาฟริกา.

ไม่ว่าวันนี้มันจะดี....หรือร้าย  จงระลึกไว้เสมอว่า  "แล้วมันจะผ่านไป"...

อุ๊ย..ดอกเบี้ยจ่ายที่จำนองสูงกว่าดอกรับจากการฝาก  spread มันจะ dif กันประมาณ 3-6 % เชียวนา..แต่ดีนะที่ขอเมล็ดพันธ์ของฟรี..โอ้สเปน..(ลุ้นบอลโลก)

แสวงหาชีวิตที่สงบ..หลบลี้หนีความวุ่นวาย

โอ้ย เมื่อคืนหนูเชียร์เยอรมันแทบขาดใจเลย  เศร้า  สำหรับดอกเบี้ยที่เกิดขึ้นไม่เป็นไรเพราะว่าหนูกำลังปลูกผักที่พี่น้องบ้านสวนส่งมาให้  โอ้ยใช้ดอกเบี้ยแบบเบิร์ด เบิร์ด   จิ๊บ  จิ๊บ   ว่าแต่รอบหน้าเชียร์ฮอลแลนด์ด้วยกันน่ะค่ะ

ไม่ว่าวันนี้มันจะดี....หรือร้าย  จงระลึกไว้เสมอว่า  "แล้วมันจะผ่านไป"...

เป็นเพราะเจ้าพอลมันดันทำนายให้เสียขวัญ..พี่ก็เชียร์เยอรมัน แต่รอบชิงยังสองจิตสองใจ ลูกสาวเรียนภาษาสเปน เชียร์สเปน ชอบทั้งคู่ เด๋วดูไอ้พอลก่อน มันเชียร์ใคร

แสวงหาชีวิตที่สงบ..หลบลี้หนีความวุ่นวาย

งั้นก็เชียร์ทั้งสองทีม  จะได้ไม่ผิดหวังค่ะ

ไม่ว่าวันนี้มันจะดี....หรือร้าย  จงระลึกไว้เสมอว่า  "แล้วมันจะผ่านไป"...

(คิดเล่นๆ นะครับ แบบไม่มีข้อจำกัด ฮาด้วย ถ้าเป็นจริงได้ก็ดี)

หลักการและเหตุผลทางด้าเศรษฐศาสตร์ มีดีมานด์เพรี่ยบบบบบบ แค่คนไทยผมเชื่อว่าไม่ต่ำกว่า 63 ล้านคน คิดคนละบาทก็ได้ 63 ล้านบาทแล้วหละ ความดีมีคนต้องการทำเยอะ และผมเชื่อว่าทุกคนต้องการทำ และต้องทำเอาเองด้วย (เขาบอกว่าความดีไม่มีขาย อยากได้ทำเอาเอง) ดังนั้นความต้องการซื้อมีแล้ว เหลือความต้องการขายเท่านั้นที่ยังไม่มี ผมจึงขอเสนอขายความดีครับ ใครอยากได่ซื้อไปเลย ขายแค่บาทเดียว ไม่ต้องจ่ายเงินที่ผม แต่ต้องจ่ายให้ประเทศไทยครับ แค่ตั้งใจทำความดี หนึ่งครั้งต่อวัน ก็ลดการทำความไม่ดีไปแล้วอย่างเยอะ เมื่อความไม่ดีลดลง แต่กลับได้ความดีเพิ่มขึ้น ผมเชื่อว่าประเทศไทยเราจะเจริญขึ้นแคไหน มูลค่าทางเศรษฐกิจจะมากมายแค่ไหน ความดีบางอย่างสร้างมูลค่าเพิ่มได้มากมาย และงที่ไม่ดีก็สามารถลดความสูญเสียได้มากมายเช่นเดียวกัน ลองคิดดูบ้านเราจะมีความสุขกันขาดไหน ใช้ตัวชี้วัดคือดัชนีมวลรวมของความสุขครับ ตอนนี้หมู่บ้านเราก็เริ่มขายแล้วครับ ทุกคนที่เข้ามาในหมู่บ้านล้วนแล้วแต่ต้องการซื้อความดีกันทั้งนั้น เข้ามาที่นี่จะได้ความดีกลับไป การจ่ายไม่ต้องทำคอนแทรกกับธนาคาร จ่ายให้กับประเทศ มูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจจะเกิดขึ้นกับประเทศไทยเอง พวกเราคือกระดูกสันหลังของชาตินะครับ เป็นเส้นประสาทที่สำคัญให้กับร่างกาย ประเทศไทยจะอยู่ได้ก็เพราะพวกเรา ของให้ทุกคนมั่นสร้างความดีกันนะครับ ผมจะได้กำไรเยอะๆ ผมขายเพียงบาทเดียวต่อหนึ่งความดี ผมว่ารายได้ไม่น้อยกว่า 10 ล้านบาทต่อวัน รวยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย (ประเทศไทย)

มิตรภาพไร้พรมแดน

เอ..หลักการเดียวกะหลวงตามหาบัว ผ้าป่าช่วยชาติทำนองนั้นมั๊ย แปรรูปความดีที่เป็นนามธรรมสู่ปัจจัยที่เป็นรูปธรรมและนำไปต่อยอดช่วยชาติ..เห็นด้วยที่บ้านสวนเรากำลังปฏิบัติอยู่ แปรรูปความรู้สึก ความห่วงใย ความผูกพัน ซึ่งเป็นนามธรรมจับต้องได้เพียงผัสสะของอายตนะภายใน สู่รูปธรรมของเมล็ดพันธ์ การเยี่ยมเยือนพบปะแลกเปลี่ยน ซึ่งรับรู้ได้จากอายตนะภายนอกทั้งการพบเห็น สัมผัส จับต้อง พูดคุย .. โอ้ คุณรัตนพงษ์ทำให้ผมบรรลุธรรมอีกขั้นหนึ่งแล้วนะนี่

แสวงหาชีวิตที่สงบ..หลบลี้หนีความวุ่นวาย

หน้า