ลูกรัก แม่ขอโทษจริงๆ ที่เอ็ดหนู
เอาเรื่องมาเล่าให้ฟังเล่น ๆ เนื่องจากว่า บางท่านอาจได้อ่านมาแล้วบ้าง อ่านแล้วมันโดนใจจริงๆนะคะ บางครั้งเรามองข้ามมันไป
ฉันเดินชนคนแปลกหน้า ฉันเอ่ยขอโทษไม่ตั้งใจ
เขากลับตอบ "ขออภัย ผมเองไม่ทันเห็นคุณ" เราต่างสุภาพ ถ้อยทีถ้อยอาศัยแสดงน้ำใจ แม้ไม่รู้จักกัน
แต่ที่บ้านเย็นวันนั้น ฉันทำอาหารอยู่ในครัว ลูกสาวตัวน้อยแอบมายืนข้างหลัง ไม่ทันระวังฉันหันกลับมาชนเธอล้มลง
"อย่ามายืนเกะกะ" ฉันดุใส่ ลูกสาวเดินจากไป หัวใจเธอปวดร้าว
คืนนั้นฉันได้ยินเสียงกระซิบจากเบื้องลึกของหัวใจ กับคนแปลกหน้าเจ้าสุภาพได้กับลูกรักชิดใกล้ ทำไมทำได้ลงคอ
ดูที่พื้นครัวสิดอกไม้หลากสีที่ลูกอุตส่าห์เก็บมาหวังให้เจ้าแปลกใจตกเกลื่อนอยู่ทั่วไป น้ำตาเธอใหล เหตุใดไม่แลเห็น"
ฉันเพิ่งรู้ตัว เลยค่อยๆ ย่องเข้าไปนั่งคุกเข่าข้างเตียงลูก
"ตื่นเถิดคนดีดอกไม้นี่ลูกเก็บมาให้แม่หรือ"
ลูกตอบ " ใช่ค่ะ หนูเห็นดอกไม้บาน สวยงามเหมือนคุณแม่ รู้ว่าคุณแม่ต้องชอบโดยเฉพาะดอกสีน้ำเงิน"
ฉันตื้นตันใจนัก " ลูกรัก แม่ขอโทษจริงๆ ที่เอ็ดหนู"
"แม่จ๋า ไม่เป็นไรหรอกค่ะ หนูรักแม่ "
"แม่ก็รักลูก แม่ชอบดอกไม้ของหนูมาก โดยเฉพาะสีน้ำเงินจ้ะ"
หากเราตายจากไปในวันพรุ่งนี้
อีกไม่กี่วันนายจ้างก็หาคนใหม่มาทำแทนได้
แต่ครอบครัวที่อยู่ข้างหลังอาจโศกเศร้าไปชั่วชีวิต
ลองคิดดูว่าคุ้มไหมหากเราจะทุ่มเทตัวเองให้กับงานมากกว่าครอบครัว
รู้ไหมคำว่าFAMILY ย่อมาจาก
FATHER
AND
MOTHER
I
LOVE
YOU.
ให้เวลากับพ่อ-แม่ของคุณมากขึ้นยามท่านแก่ตัวลง
รู้จักแบ่งเวลาให้กับงานและคนที่บ้านให้สมดุลกัน
หากมีใครมาบอกให้จัดความสำคัญเสียใหม่
จงย้อนถามกลับไปว่าครอบครัวสำคัญน้อยกว่าหรือไร?
- บล็อกของ Nee
- อ่าน 4646 ครั้ง
ความเห็น
จันทร์เจ้า
12 กรกฎาคม, 2010 - 10:33
Permalink
อ่านแล้วค่ะ
อ่านทีไรก็รู้สึกดีทุกครั้ง
http://www.bansuanporpeang.com/node/2193
พอเพียง และ เพียงพอ บ้านไร่จันทร์เจ้า
Nee
12 กรกฎาคม, 2010 - 10:49
Permalink
แก้ตัวนิดหนึ่งแล้วกันเนอะ
ทำไมคนที่เรารักมากที่สุด.. เรากลับเกรงใจน้อยที่สุด เชื่อว่าหลายๆ คนคงเป็นกันเหมือนกัน เรายอมอ่อนน้อมถ่อมตน พูดเพราะ เข้าใจอะไรง่ายๆ กับ "คนอื่น" แต่กับคนที่เรารัก..แน่นอน.. ว่าเราสามารถเป็นตัวของตัวเองได้มากที่สุด แต่บางครั้ง..เราก็เผลอเมินเฉยกับอารมณ์ของเขา โดยเอาอารมณ์ของตัวเองเป็นที่ตั้ง เราเกรงใจคนแปลกหน้า.. ที่เขาไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไรกับเราเลย แต่กับคนที่เขาแคร์เราและเราแคร์เขามากๆ .. บางครั้งเราก็ทำอะไรโดยไม่เกรงใจเขา ฉันไม่ได้พูดเฉพาะกับคนที่เป็นแฟนกันเท่านั้นนะ.. ยังรวมถึงพ่อแม่เราด้วย ......... เราทำดี..พูดดี..กับใครได้หลายคน.. แต่กับคนที่เราเรียกว่า "คนกันเอง" เรากลับไม่ค่อยได้ทำอะไรให้เขาปลื้มใจ.. หรือแคร์อารมณ์เขาเลย เหมือนอย่างบางคนระยะจีบกัน.. เอาอกเอาใจสารพัด พอเป็นแฟนกันแล้ว.. ฝ่ายหญิงกลับรู้สึกว่าฝ่ายชาย "เอาใจ" น้อยลง แต่ "เอาแต่ใจ" ตัวเองมากขึ้น คำพูดหวานๆ บางคำ..ลาตายจากไป แม้เขาจะพูดว่า.. อยู่กับเราเขาเป็นตัวของตัวเองมากที่สุด เพราะไว้ใจเราที่สุด ........... แต่ความรัก.. นอกจากจะเป็นการถ่ายเท ความเป็นตัวของตัวเองแล้ว ก็น่าจะมีการถ่ายเท ความอ่อนโยน..ความเอาใจใส่.. และดูแลซึ่งกันและกันพ่วงไปด้วย .......... ฉันอยากให้คนที่รักกัน.. มองอีกฝ่ายว่าเป็น "คนพิเศษ" เพราะน้อยคนนักที่จะเกิดมาให้เรารักได้อย่างนี้ สิ่งที่ปฏิบัติต่อกัน.. ก็ควรจะมีความพิเศษ..เหนือคนอื่น พิเศษทั้งการให้และการรับ.. เป็นความพิเศษที่ทำให้หัวใจทั้งสองฝ่ายอิ่มเอม แล้วลองตอบคำถามซิว่า.. ระหว่างคนแปลกหน้ากับคนพิเศษ... เรามองหาใคร?
Nee
12 กรกฎาคม, 2010 - 11:14
Permalink
สุดมือสอยก็ปล่อยมันไป
สุดมือสอยก็ปล่อยมันไป
......ไม่มีใครทำให้คนทุกคนรักเราได้........
.......อาจจะมีคนชอบในตัวเรา10คน แต่ก็มีคนเกลียดเรา100คน........
.......แคร์คนที่แคร์เรา ไม่แคร์คนที่ไม่แคร์เรา............
.......มีมิตรแท้เพียงหนึ่ง ดีกว่ามีเพื่อนกินเป็น100.........
สุดมือสอยก็ปล่อยมันไป
และคุณก็ได้ทำหน้าที่ของตนเองอย่างดีที่สุดไปแล้ว ก็คงต้อง“ปล่อยมันไป”
ในโลกนี้ มีเรื่องอะไรต่อมิอะไรหลายอย่างที่เราไม่สามารถให้เวลากับมัน หรือไม่สามารถทำในสิ่งนั้นให้ดีที่สุด
เมื่อคุณชี้แจงไปแล้ว เขาก็ควรจะยอมรับฟัง แต่เมื่อเขาไม่ฟัง
เวลาของคุณคงไม่พอเป็นแน่
พร้อมจะแบกเป้หลังที่มีน้ำหนักมากน้อยเพียงใด อย่าแบกอะไรที่เกินกำลังของตัวเอง
แต่แล้วเราก็ต้องปล่อยให้สิ่งเหล่านั้นผ่านไป เพราะหากเรามัว แต่จะ“นับเม็ดทรายในแม่น้ำคงคา” (มีความหมายว่า จะพยายามทำให้คนทั้งโลกรู้สึกพอใจตัวเองในทุกเรื่อง)
ดังนั้น ทำอะไรก็ตาม ควรทำเท่าที่เราทำได้ เมื่อทำอย่างดีที่สุดแล้ว คนเขาไม่เห็นว่าดีก็ต้อง “ปล่อยมันไป”
เลือกทำในสิ่งที่เห็นว่า เราถนัดที่สุด และมีความสุขที่จะทำก็พอแล้ว
อะไรก็ตาม ที่เราไม่ถนัด หรือถึงถนัด...แต่ไม่มีความสุขที่จะทำ ก็อย่าทำ
เรามีเวลาไม่มากนักหรอกที่จะแบกสารพัดภาระในโลกนี้ ควรมองไหล่ของตัวเองดูสักหน่อยว่า
เพราะไม่เพียงแต่มันจะทำให้คุณเป็นทุกข์ แต่บางทีอาจมีผลต่อการยืนตรงๆ อย่างยาวนานของคุณด้วย
นู๋หวึ่ง
15 กุมภาพันธ์, 2011 - 21:56
Permalink
โดนใจ
ขอบคุณนะคะ ที่เอาอะไรดีๆมาให้อ่าน และมีกำลังใจสู้ขึ้นเยอะเลยคะ
Nee
12 กรกฎาคม, 2010 - 10:45
Permalink
พี่จันทร์เจ้า
ถ้างั้น ต้องขออภัย อ่านแล้ว โดนใจจริงๆๆ เลยเอามาให้อ่านอีกครั้ง บางครั้ง เราก็ไม่ค่อยให้ความสำคัญกับ คนใกล้ตัว
แดง อุบล
12 กรกฎาคม, 2010 - 11:43
Permalink
โดนใจ
โดนใจ
"เชื่อในผล แห่งการทำความดี"
Nee
12 กรกฎาคม, 2010 - 13:59
Permalink
ใช้เลย
ใช้ค่ะพี่แดง บางครั้งเรามองแต่คนไกลตัว
แป้ง
12 กรกฎาคม, 2010 - 13:20
Permalink
รักกันวันนี้..ดีกว่า
อ่านแล้วชอบมาก..มีเพลงอยู่เพลงนึง..เวลาจะโกรธใครจะนึกถึงเพลงนี้ตลอดเวลา..
“รักกันวันนี้ดีกว่า เผื่อพรุ่งนี้มีอันเป็นไป
ทั้งเธอและฉันนั้นต้องพลันสิ้นใจ ฉันจะหวังใครให้เป็นคู่รักยิ่ง...
รักกันวันนี้..ดีกว่า เผื่อว่าพรุ่งนี้จำใจไกลกัน
ฉันอาจสิ้นหวัง เหมือนดังสิ้นชีวัน เหลือแต่เพ้อฝัน...สุดกลั้นใจหมองตรม”
เพลงนานมากแล้วแต่เนื้อหาโดนจ้ะ
Nee
12 กรกฎาคม, 2010 - 14:00
Permalink
ค่ะพี่แป้ง
นี ว่า เราต้องมอง คนใกล้ตัวเราก่อนดีกว่า บางครั้ง เราคิดว่า คนกันเอง ยังงัยก็ได้
มานี มานะ วีระ ชูใจ
12 กรกฎาคม, 2010 - 13:24
Permalink
จำเขามา..ขอรับ
พ่อแม่เลี้ยงดูเรา
พ่อแม่ส่งเราให้เรียนหนังสือ
พ่อแม่ทำทุกอย่างเพื่อให้เรามีอนาคต มีการงานที่ดี
ตอนพ่อแม่เราป่วยไม่สบาย เราต้องขอเจ้านายชาวบ้านที่ไหนก่อนก็ไม่รู้
ว่าจะอนุญาติให้เรามาดูแลพ่อแม่ได้หรือไม่
เป็นเพียงแค่มดตะนอย ตัวจ้อยจิด ทีพลัดติดกลางช่อ พอเพียงใหญ่
คือหนึ่งเสียงหนึ่งคิดเห็น ที่เป็นไป อาจถูกใจหรือไม่บ้าง ลองชั่งดู
หน้า