สูงสุดคืนสู่สามัญหรือกลับมาตายรัง
วันนี้วันหยุดไม่ไปไหนไล่ย้อนรอยพี่โสทรตั้งแต่เริ่มต้นเพื่อศึกษาแนวทางเพื่อกลับสู่วิถีชีวิตที่จากมานานเข้าสู่วงจรชีวิตลูกจ้างตั้งแต่เรียนจบในเส้นทางของบริษัทรับเหมาเจอทั้งเรื่องดีและร้ายคนดีคนโกงและวิธีการโกงหลากหลายวิธีเร่ร่อนไปตามSite งานแต่ละที่แล้วแต่คำสั่งของเจ้านายแต่ก็คิดในแง่ดีไว้ก่อนแน่แหละวัคซีนชั้นยอดที่จะสร้างภูมิคุ้มกันให้กับชีวิต
แปรเปลี่ยนวีถีชีวิตอีกทีเมื่อคิดว่างานที่เงินดีไม่มีความหมายหากไม่ได้อยู้ใกล้คนที่รักเลยผันตัวเองเข้าทำงานโรงแรมห้าดาวในเกาะภูเก็ตเพราะคิดว่าได้อยู่กับที่ชีวิตก็ดีขึ้นเนื่องจากความเครียดน้อยลงสามปีทีผ่านไปชีวิตก็มีความสุขดีแต่คนเรานะไม่มีที่สิ้นสุดเมื่อใกล้ถึงเวลาที่จะมีคนอีกคนเข้ามาเดินร่วมชีวิตตลอดไปก็ต้องคิดว่าอาชีพปัจจุบันจะยั่งยืนได้สักแค่ไหนเรามีแรงสู้กับอุปสรรคที่เข้ามาเป็นระลอกได้อย่างไรก็เลยมองกลับถึงรากเหง้าของตัวเองและจากการที่ได้เห็นความอบอุ่นของพี่น้องในบ้านสวนที่มีการให้กำลังใจกันเป็นอย่างดีก็มีแรงฮึดที่จะให้กล้าตัดสินใจเพราะตอนแรกไม่คิดว่าคนคิดแบบนี้ก็มีเยอะและหวังว่าคงไม่ต้องเดินคนเดียวบางทีอาจจะต้องขอพึ่งพิงสมช.บ้านสวนโดยเฉพาะสมช.ที่อยู่ใกล้พัทลุง
ตั้งเป้าหมายไว้ออีกหนึ่งปีจะกลับไปเป็นสมาชิกแบบเต็มตัวเพราะกะว่าต้องเตรียมที่ทางและปัจจัยต่างๆที่เกี่ยวข้องให้พร้อมเสียก่อนหวังว่าทุกคนไม่รังเกียจนะครับที่นำความรู้สึกมาระบายที่นี้
- บล็อกของ opart_chu
- อ่าน 4826 ครั้ง
ความเห็น
ann
25 กรกฎาคม, 2010 - 23:07
Permalink
ตั้ง เป้าหมาย
ตั้ง เป้าหมาย....
เป็นกำลังใจค่ะ
เคยคิดอย่างนี้ แบบนี้ และอะไรตั้งหลายอย่าง ที่คนอื่น ไม่คิด...
แนวทางเีดียวกัน เราไม่ได้เดินคนเดียว...
....ความสุขอย่างแท้จริง ด้วยหลักเศรษฐกิจพอเพียง....
สุวิทย์ อุ่นศรี
25 กรกฎาคม, 2010 - 23:38
Permalink
ตั้งเป้าหมาย.....ใหม่
เหมือนกันครับเป้าหมายเปลี่ยนไป ใจไม่อยู่ที่นี่(กทม.)แล้วปีหน้ากลับคืนสู่ถิ่นฐานบ้านเกิดครับมีที่อยู่สัก3ไร่มั้งจะกลับไปลุย ตอนนี้ก็หาและเก็บข้อมูลอยู่ฝากเนื้อฝากตัวกับบ้านนี้ด้วยคนนะครับ http://coloringactivities.blogspot.com/
เบื่อแล้วบางกอกปีหน้ากลับคืนสู่ถิ่นฐานบ้านเกิด
ต่อขวัญคืน
26 กรกฎาคม, 2010 - 01:47
Permalink
ตั้งเป้าหมายที่จะกลับบ้านเช่นกัน
เมื่อก่อนนี้คิดว่าอยู่ที่ไหนก็เหมือนกัน แต่เมื่อมีอายุเพิ่มขึ้นเมื่อมีช่องทางที่เลือกตัดสินใจใหม่ได้ก็คิดว่ากลับบ้านดีกว่า แม้ไม่รู้เรื่องต้นไม้ และไม่รู้ความเจริญก้าวหน้าที่เพิ่มขึ้น ก็ยินดีที่จะมาเริ่มต้นใหม่อีกที โชคดีที่ได้รู้จักเวปบ้านสวนตามอ่านตามดูมีกำลังใจจริงๆ แต่ก็ต้องอดทนรอเวลา ช่วงนี้ก็ได้แต่ติดตามอ่านแล้วก็จินตนาการไปเรื่อยๆ ว่าถ้ามีบ้านมีสวนอยากจะทำอะไรบ้าง ให้กำลังใจค่ะ พวกเรา สมช.บ้านสวนพอเพียง เดินมาถูกทางแล้วค่ะ เดินบ้าง นั่งบ้าง เกาะเกี่ยวกันไป ขอบคุณ ผญบ. ประธาน สมาชิก ทุกท่านที่เอาเรื่องราวต่างๆ มาลงให้ได้อ่านกันค่ะ

ตั้ม
26 กรกฎาคม, 2010 - 06:05
Permalink
ต่างเป้า..แต่หมายเดียวกัน
ผมอาจจะมีแตกต่างจากเพื่อนๆหลายคน..หลายคนที่หวนกลับเพราะมีฐานเดิมอาจจะเรื่องความรู้ที่เกิดมาพร้อมอาชีพดั้งเดิมของบรรพบุรุษ หรือมีทรัพยากรที่เป็นที่ดินเกษตรกรรมอยู่ เมื่อเดินทางสู่โลกภายนอกสักพักจึงอาจอยากคิดเดินกลับสู่ชีวิตที่คิดว่าน่าจะเหมาะกับตัวเองมากสุด ส่วนผมไม่เคยมีความรู้ ไม่มีที่ดินจากฐานเดิม แต่ก็มีที่หมายเหมือนเช่นหลายคน คือคืนกลับสู่ธรรมชาติ เพียงแต่ผมไม่ได้คิดยึดเป็นอาชีพ หวังเพียงความสงบยามบั้นปลายของชีวิต (ทีแรกบอกกะแฟนว่า แก่ตัวจะขอบวชที่วัดที่น่าศรัทธาตลอดชีวิต แต่แฟนบอกจะทิ้งเค้าอยู่คนเดียวหรือถ้าลูกแต่งงานออกไป เพื่อนๆก็ท้วงบอกไม่เห็นจำเป็นเลยแค่ปฎิบัติธรรมอยู่กะบ้านหาที่สงบไม่เบียดเบียนและศึกษาความจริงของชีวิตก็ได้ เลยเป็นที่มาของการหาที่ปลีกวิเวกนี่ไง)
เรื่องนี้..ผมวางแผนชีวิตมานับสิบปี..ตั้งแต่ปี 40 แล้วพยามหาที่ดิน..เก็บหอมเสบียงเพื่อใช้แบบไม่มีปัญหาในยามไร้เรี่ยวแรง..โชคดีที่มันเป็นไปตามแผนที่วางไว้..ผมถึงได้พยามบอกกะเพื่อนๆหลายคนที่คิดเปลี่ยนเส้นทางเดินของชีวิตโดยเฉพาะที่จะยึดเป็นอาชีพ..เห็นด้วยแต่อยากให้สะสมเสบียงกรังก่อนเดินทัพทางไกล วางแผนดีๆ..อย่าคิดไปตายเอาดาบหน้า ถึงเวลาไม่มีปัจจัยแล้วต้องกู้ยืมเงิน ทำอย่างพอเพียงค่อยเป็นค่อยไป ต่อยอดเพื่อเพิ่มพูนรายได้ที่ทยอยมาเป็นระยะ หนี้สินจะเป็นกับดักให้เราจมอยู่กับวังวนทั้งความเครียดและทุนรอน..เอาใจช่วยทุกคนนะครับ..และอยากเห็นทุกคนกลับมาพลิกฟื้นภาคการเกษตร และนำสังคมไทยก้าวไปสู่เกษตรอารยะ..เชื่อในพลัง ความคิด ความรู้ของคนรุ่นใหม่ที่ประสานประสบการณ์และภูมิปัญญาคนเก่าก่อน .. ชีวิตเราต้องดีขึ้น..
แสวงหาชีวิตที่สงบ..หลบลี้หนีความวุ่นวาย
ไม้หอม
26 กรกฎาคม, 2010 - 07:00
Permalink
สุดยอดครับ พี่ตั้ม นับถือ
สุดยอดครับ พี่ตั้ม นับถือ นับถือ ทั้งแนวคิดและการถ่ายทอด เขียนได้ถึงก้นบึ้งของหัวใจมาก
ขอคาราวะด้วยความจริงใจครับ
วิหคน้อยบินไกล เฝ้ารอวันกลับคืนถิ่น
จันทร์เจ้า
26 กรกฎาคม, 2010 - 06:48
Permalink
โอ๊ะ..มิได้รังเกียจเลยค่ะ
ยินดีต้อนรับค่ะ คิดเหมือนกันหมดเลยค่ะ อยากจะไปทำสวนเหมือนกัน ไม่อยากติดคุกแล้ว อิอิ
จะคอยเป็นกำลังใจให้เสมอ เมื่อเธอเศร้า เราจะเล่นตลกให้ชม
พอเพียง และ เพียงพอ บ้านไร่จันทร์เจ้า
ศุภวัฒน์ ไพคำนาม
26 กรกฎาคม, 2010 - 07:12
Permalink
สวัสดีครับจันท์เจ้าขอข้าวขอแกงให้น้องข้ากิน
จงชนะจิตใจตนเองให้ได้แล้วจะประสบความสำเร็จ
บุญพา
26 กรกฎาคม, 2010 - 08:54
Permalink
ตายรัง
หลายๆท่านไม่ยอมรับว่าจะกลับมาตายรัง
แต่สุดท้าย..ทุกคนก็ต้องกลับมาตายรัง
และหลายๆคนก็ตามมาตายรัง..บ้านสวนพอเพียง..เพราะที่นี่คือ ความสุขที่สัมผัสได้
..
ยินดีต้อนรับค่ะ
นาย
26 กรกฎาคม, 2010 - 10:33
Permalink
แต่ก่อน
แต่ก่อนไม่เคยคิดที่จะกลับมาอยู่บ้านแต่ก็เกิดเหตุหลายอย่างจนต้องกลับมาอยู่บ้านตอนแรกคิดว่าจะอยู่ไม่ได้เพราะอยู่กรุงเทพนานมากและเพื่อนๆก็อยู่กรุงเทพกันหมดตอนแรกก็ต้องทำใจพอดูแต่พออยู่ไปนานๆเข้ากลับมีความสูขอย่างหาอะไรเปรียบมิได้ตอนนี้จะให้ไปอยู่ไกลบ้านก็คงต้องจ้างกันไปนะ.ฮิฮิ...คำว่าบ้านยิ่งใหญ่จริงๆ
ขออภัยและขอบคุณค่ะ
แก้ว กุ๊ก กิ๊ก
26 กรกฎาคม, 2010 - 10:59
Permalink
เห็นใจค่ะ
หนูเห็นใจคุณโอมากเลยค่ะ และเข้าใจความรู้สึกที่ถูกเอารัดเอาเปรียบในเมืองกรุง
หนูเองก็ไม่ต่างจากคุณโอเท่าไหร่ บางที..เวลาที่ท้อแท้...แล้วรู้สึกเหมือนนกปีกหัก..
แต่หนูก็เหมือนพี่ตั้ม เราเป็นคนพื้นเพที่นี่..ไม่มีที่ให้ทำกิน...ไม่มีรังเก่าที่อบอุ่น...ถ้ายอมตาย...ก็ตายจริงๆ.. แต่ถ้าสู้..แบบไม่เป็นตัวของเราเอง...สุดท้ายก็ไม่มีอะไรดีขึ้น
การเลือกตัดสินใจที่อยากจะมีชีวิตที่พอเพียง ไม่ได้คิดวันนี้ก็สามารถทำได้เลย ทุกอย่างต้องค่อยเป็นค่อยไป และ ...ก่อนอื่น...เริ่มต้นจากตัวเราก่อน เริ่มจาก..ปรับวิธีคิด วธีที่จะเข้าใจ และรับรู้ค่ะ ไม่ได้เริ่มจากการเปลี่ยนอาชีพ เพราะถ้าเรายังไม่เข้าใจความพอเพียง เราก็ยังไม่หลุดพ้นวังวนที่เราเอง ขังตัวเราเองไว้อยู่
หากคิดแบบนี้ แล้วค่อยปรับวิธีดำเนินชีวิต เรามีแต่จะไปข้างหน้า ถึงแม้กลับบ้านเกิด ก็กลับไปเพื่อพัฒนา เพื่อสิ่งที่ดีขึ้น ต่อตนเองและชุมชนค่ะ
หน้า